ลูกไม่กินนม ลูกกินนมน้อย พร้อมวิธีแก้ไขเมื่อลูกไม่ยอมดูดนม
คุณแม่มือใหม่หลายท่านอาจเจอปัญหาลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือลูกกินนมน้อย ซึ่งทำให้คุณแม่กังวลใจว่าลูกน้อยในวัยทารกจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและกระทบต่อพัฒนาการและการเติบโตตามวัย หากลูกไม่กินนมแม่เป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่ไม่สร้างน้ำนมใหม่ และนมแม่จะค่อย ๆ ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้มีวิธีการแก้ไขและเทคนิคที่ทำให้ลูกกินนมน้อยกลับมากินนมแม่ได้มากขึ้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ลูกไม่ยอมกินนม ปัญหาหนักใจที่คุณแม่แก้ไขได้
- สาเหตุที่ลูกกินนมน้อย หรือ ลูกไม่ยอมกินนมแม่
- เคล็ดลับการรับมือ เมื่อลูกไม่ยอมกินนมแม่
- เทคนิคช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้ง่ายขึ้น
ลูกไม่ยอมกินนม ปัญหาหนักใจที่คุณแม่แก้ไขได้
การที่ลูกกินนมน้อยหรือลูกไม่กินนม อาจเกิดได้จากทั้งตัวลูกน้อย หรือตัวคุณแม่ รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อม ที่เริ่มต้นแก้ไขได้ทันที โดยเริ่มต้นค้นหาสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากปัจจัยใด
สาเหตุที่ลูกกินนมน้อย หรือ ลูกไม่ยอมกินนมแม่
การที่ลูกไม่ยอมกินนมแม่ อาจเป็นสิ่งสะท้อนถึงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับลูก โดยลูกกำลังสื่อสารให้คุณแม่ได้รับรู้ถึงสาเหตุที่ลูกกินนมน้อยหรือลูกไม่กินนม นั่นคือ
1. ปัญหานมแม่หรือการให้นม
การที่ลูกไม่ยอมกินนมหรือลูกกินนมน้อย อาจมีสาเหตุจากคุณแม่ให้นมไม่ถูกวิธี คุณแม่ควรให้นมลูก ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ทำให้ลูกไม่สบายตัวหรือดูดนมได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้อาจยังเกิดจากปริมาณนมแม่ที่ลดลง ลูกดูดนมแม่น้อยลงส่งผลให้ต่อมน้ำนมผลิตนมน้อยลงไปด้วยหรือการที่คุณแม่มีน้ำนมมากและไหลเร็ว ก็ทำให้ลูกกินไม่ทันและสะบัดหน้าหนีได้เช่นกัน
2. ลูกน้อยไม่สบาย
ความเจ็บป่วยเป็นหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกกินนมน้อยหรือลูกไม่ยอมกินนมแม่ ซึ่งเป็นได้ทั้งอาการเจ็บปาก เจ็บคอ หรือกลืนนมแล้วเจ็บ จากการเป็นหวัด เป็นไข้ ติดเชื้อในหู ติดเชื้อในลำคอ มีแผลในช่องปาก หรือปัญหาลิ้นติด มีพังผืด ใต้ลิ้น นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่ทารกอาจรู้สึกเจ็บและคันเหงือกเพราะฟันเริ่มขึ้น คุณแม่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิดว่ามีสาเหตุจากสิ่งไหนที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินนม หรือควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ
3. ลูกน้อยอยู่ในช่วงเริ่มกินอาหารบด
เมื่อเข้าสู่วัยที่เริ่มกินอาหารบดได้ ทารกบางคนอาจติดใจรสชาติอาหารชนิดใหม่ที่แปลกไปจากเดิม ทำให้คุณแม่ประสบปัญหาลูกไม่ยอมกินนมเหมือนเดิม หรือบางครั้งอาจเกิดจากการที่คุณแม่ให้ทารกกินอาหารบดมากเกินไปจนอิ่มและไม่อยากกินนม
4. การกระตุ้นจากปัจจัยบางอย่าง
อาจเป็นไปได้ว่ามีสิ่งอื่นที่น่าสนใจอยู่รอบตัว ทำให้ทารกเบี่ยงเบนความสนใจจากการดูดนมแม่ เช่น เสียงดัง หรือเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยที่รู้จักการเล่น การดูโทรทัศน์ หรือการเล่นแท็บเล็ต ก็ทำให้ทารกสนใจสิ่งเหล่านี้มากกว่าได้ นอกจากนี้การที่เปลี่ยนเครื่องใช้ที่ให้กลิ่นใหม่ เช่น สบู่ แชมพู หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็ทำให้ทารกไม่คุ้นชินจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินนมแม่ได้เช่นกัน
เคล็ดลับการรับมือเมื่อลูกไม่ยอมกินนมแม่
การรับมือกับปัญหาลูกไม่ยอมกินนมแม่ ทำได้หลายวิธี สิ่งสำคัญคือคุณแม่ควรทำใจให้สบาย ผ่อนคลาย และลองทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- เมื่อลูกกินนมน้อย ควรปรับเปลี่ยนท่าป้อนนมหรือท่าให้นมลูก เพื่อให้ทารกรู้สึกสบายตัวและกินนมได้ง่ายขึ้น
- กอด สัมผัส ปลอบโยน และโอบอุ้มทารกระหว่างให้นม เพื่อให้ทารกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ดูดนมแม่ได้อย่างสบายใจ
- ให้นมลูกน้อยในห้องที่เงียบและไม่มีสิ่งอื่นมารบกวนหรือเบี่ยงเบนความสนใจ
- ควรให้นมตรงเวลาเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเต้านมคัด และนำไปสู่ท่อน้ำนมอุดตัน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินนมแม่
- กำหนดปริมาณนมและอาหารสำหรับทารกในแต่ละมื้ออย่างเหมาะสม รวมถึงรอเวลาที่ทารกหิวนมและอยากนม จึงค่อยป้อนนม
- พยายามยื่นเต้าให้ลูกทุกครั้งที่ลูกมีท่าทีว่าต้องการดูดนม หรือหากลูกไม่ยอมกินนม ควรหยุดและลองทำใหม่อีกครั้งเมื่อลูกจะนอนหรือง่วงมาก
เทคนิคช่วยให้ลูกกินนมแม่ได้ง่ายขึ้น
การให้ลูกน้อยกินนมแม่ได้ง่ายขึ้น ควรเริ่มจากหลักการให้นมที่ถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม โดยใช้หลัก ดูดเร็ว ดูดบ่อย และดูดถูกวิธี ดังนี้
- ดูดเร็ว - คุณแม่ควรให้นมลูก ด้วยการให้ลูกน้อยลูกดูดนมตั้งแต่ชั่วโมงแรกหลังคลอด จะช่วยกระตุ้นให้น้ำนมมาเร็วขึ้น
- ดูดบ่อย - การให้นมลูกในช่วงแรกเกิด - 1 เดือน ลูกควรได้ดูดนมแม่ทุกครั้งเมื่อต้องการ อย่างน้อย 8 ครั้งหรือมากกว่า ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ถ้าลูกหลับนานกว่า 3 ชั่วโมง ควรปลุกลูกให้ดูดนมแม่ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เด็ก จะดูดนมแต่ละมื้อได้มากขึ้น และปรับตัวมากินนมในช่วงกลางวันบ่อยกว่า กลางคืน
- ดูดถูกวิธี - การให้นมลูก ด้วยการเอาลูกเข้าเต้าอย่างถูกวิธี จะทำให้ลูกดูดนมได้เต็มที่ คุณแม่ไม่เจ็บ
เพราะนมแม่ คือ อาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย และการให้นมของคุณแม่ยังเป็นการแสดงความรัก สร้างความผูกพันที่ดี คุณแม่จึงควรหาสาเหตุของการที่ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือลูกกินนมน้อย และช่วยให้ลูกน้อยดื่มนมแม่ได้อย่างสบายกายและใจจนครบวัยให้นม
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นม
- สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร สำคัญต่ออย่างไรต่อสมองของลูกน้อย
- DHA สารอาหารสำคัญ ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย
- 2’-FL คืออะไร ? รู้จัก 2’-FL โอลิโกแซคคาไรด์ในนมแม่ (HMOs)
- โพรไบโอติก (Probiotics) จุลินทรีย์ที่พบได้ในนมแม่ มีประโยชน์กับลูก
- พรีไบโอติก มีส่วนช่วยพัฒนาสมองในเด็กทารก
- น้ำนมเหลือง ที่มีสฟิงโกไมอีลิน สารอาหารสำคัญ ช่วยพัฒนาสมองจากแม่สู่ลูก
- เทคนิคเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สุดยอดสารอาหารจากแม่สู่ลูก
- เพิ่มน้ำนมคุณแม่ ด้วยการกระตุ้นน้ำนม จากธรรมชาติ ดีกับคุณแม่และลูก
- นมแม่อยู่ได้กี่ชม น้ำนมแม่เก็บได้นานแค่ไหน เก็บรักษาอย่างไรให้ถูกวิธี
- อาการทารกหิวนม สัญญาณจากลูกน้อย ที่คุณแม่สังเกตเองได้
- เด็กแรกเกิดกินนมกี่ออนซ์ ถึงจะดีที่สุด ปริมาณเท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอดี
- วิธีจับลูกเรอ ท่าอุ้มเรอช่วยให้ลูกสบายท้อง หลังลูกอิ่มนม
- คัดเต้านมทำยังไงดี คัดเต้ากี่วันหาย พร้อมวิธีบรรเทาอาการนมคัด
- เจ็บหัวนม หัวนมแตก อาการเจ็บหัวนม ต้องรักษาอย่างไร ให้นมลูกต่อได้ไหม
- ทารกไม่ยอมนอน ลูกงอแงไม่ยอมนอนไม่มีสาเหตุ พร้อมวิธีรับมือ
- วิธีชงนมที่ถูกต้อง พร้อมขั้นตอนการเตรียมน้ำชงนม สำหรับแม่มือใหม่