การเตรียมต้อนรับลูกน้อย
ลูกน้อยจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่อาทิตย์ ของทุกสิ่งถูกเตรียมไว้พร้อมสำหรับลูก ทั้งเตียงเด็ก โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของ เหลือเพียงลูกน้อยที่คุณเฝ้ารอ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและตู้เก็บของ
ในช่วงตั้งครรภ์ สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ สำหรับเด็กต่างๆ ล้วนน่าซื้อน่าใช้ทั้งนั้น จนคุณพ่อคุณแม่อาจรูดบัตรเครดิตเพลินเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งห้องเด็ก เสื้อผ้าที่เต็มตู้สำหรับเจ้าชายหรือเจ้าหญิงตัวน้อย แต่คุณแม่ต้องระวังอย่าช้อปเพลินจนต้องตกใจกับใบแจ้งหนี้ในภายหลัง เรามีคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณแม่เลือกซื้อของได้อย่างเหมาะสม
การเตรียมห้องสำหรับลูกน้อย
เฟอร์นิเจอร์และของใช้สำหรับเด็กมีหลายรูปแบบที่คุณสามารถเลือกให้เหมาะตามความชอบและงบประมาณ ลองดูหลายๆ ตัวเลือกก่อนตัดสินใจซื้อเปลเด็ก หรือโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม
● เปลสำหรับทารกควรมีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน
● เบาะสำหรับนอนต้องมีความแน่น และมีขนาดที่พอดีกับเตียง หากเบาะหรือฟูกมีขนาดเล็กเกินไป นิ้วมือหรือเท้าของลูกน้อยอาจพลาดไปติดในช่องว่างที่เหลือได้
● โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย แบบที่ใช้ได้สะดวกมักมีช่องใส่ของด้านข้างเพื่อใส่ของใช้ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการเปลี่ยนผ้าอ้อม ถ้าคุณแม่มีพื้นที่จำกัด ควรเลือกแบบที่สามารถพับเก็บได้
● ชั้นวางของก็เป็นสิ่งสำคัญ ชั้นวางของขนาดใหญ่เพียงตัวเดียวจะใช้งานสะดวกกว่าชั้นวางของเล็กหลายๆ ตัว ที่มักทำให้ดูไม่เป็นระเบียบ และวางของได้น้อยกว่า
การเตรียมห้องสำหรับลูกน้อยเป็นสิ่งที่ดี หากมีการออกแบบที่เหมาะสมและสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ถ้าคุณแม่กำลังจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ คุณแม่ควรซื้อและจัดวางให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพื่อให้กลิ่นของกาว หรือสีต่างๆ ไม่เหลือตกค้างอยู่
● หากคุณแม่กำลังจะซื้อ หรือซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่สำหรับลูกน้อย ต้องระวังในเรื่องความปลอดภัยให้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังทำเปลเด็กเอง หรือปรับใช้ของที่มีอยู่ อย่าลืมตรวจสอบช่องว่างระหว่างซี่เตียงที่ไม่ควรกว้างกว่า 65 เซนติเมตร และมีความสูงด้านข้างไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
อย่าลืมว่าคุณสามารถหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการเจริญเติบโตของลูกน้อย เช่น เปลเด็กสามารถปรับเป็นโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆ ได้ ส่วนโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมก็สามารถเปลี่ยนเป็นตู้ลิ้นชักได้ การซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับลูกน้อยอาจจำเป็นต้องลงทุนมากกว่าเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปสักเล็กน้อย แต่มันสามารถเป็นการลงทุนใช้ในระยะยาวได้
การเลือกซื้อเสื้อผ้าของลูกก็ต้องมีความรอบคอบ คุณแม่ไม่ควรซื้อเสื้อผ้าลูกให้เต็มตู้ตั้งแต่สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ แต่คุณแม่สามารถมีความสุขกับการซื้อของได้ ลองนึกถึงช่วงเดือนที่ลูกน้อยจะเกิดมา เช่น หน้าร้อน หรือหน้าหนาว ด้านล่างนี้เป็นข้อมูลของใช้ที่จำเป็น พร้อมทั้งคำแนะนำเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อเสื้อผ้าสำหรับทารกแรกเกิดที่มากเกินไป เพราะหากลูกน้อยเกิดมาด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ คุณแม่จำเป็นต้องใช้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ขึ้นทันที ดังนั้น คุณจึงควรเตรียมเสื้อผ้าลูกให้หลากหลาย โดยมีชุดขนาดแรกเกิดและขนาดสำหรับ 1 เดือนสัก 2-3 ชุด ก็เพียงพอสำหรับช่วงสัปดาห์แรกๆ ของลูกน้อย
● ชุดบอดี้สูทแขนสั้น ทำจากผ้าคอตตอนนุ่มๆ ควรเป็นแบบป้าย (ไม่ใช่แบบสวมศีรษะ) ที่มีกระดุมด้านหน้า เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ให้ลูกน้อย โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ร่างกายของลูกน้อยยังคงบอบบาง
● ชุดนอนน่ารักๆ หรือชุดบอดี้สูทเต็มตัว ทำจากผ้ากำมะหยี่ หรือผ้าคอตตอนนุ่มๆ หากเป็นแบบกระดุมหน้าจะใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
● เสื้อผ้าควรเหมาะกับสภาพอากาศ เช่น อากาศหนาว ก็ควรมีเสื้อคลุมที่ทำจากผ้าคอตตอนหรือผ้าวูล หรือผ้าแคชเมียร์ถ้าอยากเพิ่มความเป็นแฟชั่นให้ลูกน้อย
● ถุงเท้า สำหรับใส่ก่อนสวมบอดี้สูท เพื่อให้เท้าของลูกน้อยอุ่นสบาย
● รองเท้าถักอุ่นๆ หรือรองเท้าทำจากหนังนิ่มๆ
● ผ้าอ้อมที่ทำจากผ้าคอตตอน สำหรับใช้เช็ดปาก หรือผ้าห่มอุ่นๆ คุณแม่อาจปักลายเล็กๆ ที่มุมนึงของผ้า หรือย้อมสีเก๋ๆ โดยใช้สีย้อมที่ทนต่อการซักเครื่องได้
สุดท้ายแล้ว การเตรียมเสื้อผ้าเป็นสิ่งจำเป็น แต่อย่าลืมว่าคุณอาจได้เสื้อผ้ามากมายเป็นของขวัญจากคนที่มาเยี่ยม แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ความสบายในการสวมใส่โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกๆ อีกเทคนิค คือการเตรียมชุดเอี๊ยมน่ารักๆ สักชุด ซึ่งสามารถปรับขนาดได้และเหมาะกับทุกโอกาส
ช่วงเวลาที่ควรเตรียมจัดกระเป๋าไปโรงพยาบาล
ไม่มีกฏตายตัวสำหรับรยะเวลาที่เหมาะสม ตราบใดที่กระเป๋านั้นพร้อมสำหรับวันคลอด คุณควรเตรียมกระเป๋าล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน เพื่อความสบายใจ และจะได้ไม่ลืมของใช้ที่จำเป็น