คุณแม่ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน

คุณแม่ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน

21.08.2024

การดูแลทารกหลังคลอด เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ต้องเอาใจใส่ แต่การดูแลร่างกายของตนเองหลังคลอดนั้น ก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจละเลยได้เช่นกัน เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง คุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกของหนัก ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน หลังผ่าคลอดคุณแม่จะดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไร มาอ่านข้อมูลเพื่อการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีกัน

headphones

PLAYING: คุณแม่ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน

อ่าน 5 นาที

 

สรุป

  • การดูแลแผลผ่าคลอด ปฏิบัติตามแพทย์แนะนำ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แผลสมานตัวได้เร็ว การละเลยไม่ดูแลแผลผ่าคลอดให้ดี หรือยกของมีน้ำหนักมากเกินไป อาจส่งผลให้แผลหายช้า แผลปริ ทำให้การฟื้นตัวช้า
  • หลังผ่าคลอดการยกของหนัก การออกแรงหรือเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องมากเกินไป จะทำให้เจ็บแผลผ่าคลอด ทำให้แผลผ่าคลอดอักเสบ หรือฉีกขาดได้
  • หลังผ่าคลอดคุณแม่ควรฟื้นฟูร่างกายหลังการคลอด เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ คุณแม่ปรับพฤติกรรม ระวังในการปรับเปลี่ยนท่าต่าง ๆ การยกของหนัก ไม่ดูแลตัวเอง จะยิ่งทำให้การฟื้นตัวหลังคลอดช้า
  • หลังผ่าคลอดคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองให้ดี หากแผลผ่าคลอดบวมแดง อักเสบ มีกลิ่นเหม็น เป็นหนอง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน

หลังจากคุณแม่ผ่าตัดคลอดมาในช่วง 3 เดือนแรก ควรงดออกแรงเยอะ ไม่ยกของหนักหรือเกร็งกล้ามเนื้อท้อง การออกแรงหรือเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องจะทำให้เจ็บแผล แผลผ่าคลอดอักเสบ หรือฉีกขาดได้

 

คุณแม่ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่กิโลหลังผ่าคลอด

คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน และยกของหนักได้กี่กิโลกรัม แม้ว่าแพทย์ไม่ได้แจ้งน้ำหนักที่แน่ชัดว่า หลังจากการผ่าคลอดการห้ามยกของหนักนั้น สิ่งของที่ห้ามยกจะหนักกี่กิโลกรัม แต่คุณแม่ควรระมัดระวังในการยกของนั้น ๆ ว่าไม่ควรต้องใช้แรงเยอะ หรือ ยกสิ่งของใดที่มีน้ำหนัก ที่หนักกว่าน้ำหนักของลูกน้อย โดยไม่ควรยกของหนักในช่วง 3 เดือนแรก

 

คุณแม่ผ่าคลอดยกของหนักทันที มีผลกระทบอะไรบ้าง

1. มดลูกและแผลผ่าคลอดฉีกขาด

หลังผ่าคลอดนั้นคุณแม่อาจรู้สึกเจ็บมดลูกเนื่องจากมดลูกกำลังหดตัว การดูแลแผลผ่าคลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บรรเทาความเจ็บปวด และทำให้แผลสมานตัวได้เร็ว การละเลยไม่ดูแลแผลผ่าคลอดให้ดี เกิดแรงกดทับที่ท้องมากเกินไป เริ่มออกกำลังกายเร็วเกินไป ยกของมีน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้แผลปริ ส่งผลให้การฟื้นตัวของแผลผ่าคลอดหายช้า

 

2. เลือดไหลออกตรงบริเวณแผลผ่าคลอด

เนื่องจากเกิดแรงดันหรือแรงกดทับที่บริเวณแผลตรงหน้าท้องมากเกินไป ทำให้แผลเปิดได้ ฉะนั้นคุณแม่ควรพักผ่อน พักฟื้นดูแลตัวเองให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแผลปริได้

 

3. เสี่ยงต่อการปวดหลัง

การที่คุณแม่มือใหม่ตั้งครรภ์และต้องอุ้มน้ำหนักของทารกน้อยไว้ในขณะตั้งครรภ์ ทำให้คุณแม่มีอาการปวดหลัง คุณแม่ควรฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดคลอด ดูแลตัวเองหลังคลอดเพื่อสร้างความยืดหยุ่น สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ คุณแม่ควรปรับพฤติกรรม ระมัดระวังการขยับร่างกาย อิริยาบถต่าง ๆ การอุ้มลูกผิดท่า ยกของหนัก ไม่ดูแลตัวเอง จะยิ่งทำให้การฟื้นตัวหลังคลอดช้า และทำให้ปวดหลังมากยิ่งขึ้น จนทำให้ข้อกระดูกเสื่อม หรือโครงสร้างกระดูกผิดปกติ

 

คุณแม่ผ่าคลอดต้องพักฟื้นนานแค่ไหน ถึงกลับมายกของได้

ในช่วงแรกหลังจากการผ่าตัดคลอด คุณแม่ควรระมัดระวังอย่ายกของหนัก แม้จะต้องอุ้มลูกน้อย หรือทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง แต่ก็ไม่ควรออกแรงมาก หรือเกร็งหน้าท้องมาก และไม่ควรยกของหนักในช่วง 3 เดือนแรก ควรที่จะพักฟื้นเพื่อให้ร่างกายนั้นได้ปรับตัว และสร้างคอลลาเจนให้หนาขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลผ่าคลอดนั้นเกิดแผลนูน หรือฉีกขาด

 

แผลผ่าคลอดปริจากการยกของหนัก คุณแม่ควรทำยังไง

 

แผลผ่าคลอดปริจากการยกของหนัก คุณแม่ควรทำยังไง

  1. เข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจประเมินอย่างละเอียดว่า มีภาวะรุนแรงขั้นไหน ควรได้รับการรักษา ทานยาตามที่แพทย์สั่ง
  2. ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  3. ลุกนั่งให้ระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
  4. ล้างแผลให้สะอาดเป็นประจำ จนกว่าแผลจะแห้งสนิท
  5. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่ควรทำหลังผ่าคลอด งดการยกสิ่งของที่หนักจะทำให้เกิดแรงกด แรงดัน เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ ยืน เดินเป็นเวลานานเกินไป
  6. หลังเกิดแผลปริแตก เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนบริเวณแผลที่จะอักเสบ หรือติดเชื้อ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 6 สัปดาห์

 

วิธีดูแลแผลผ่าคลอด ป้องกันแผลผ่าคลอดอักเสบ

  1. อย่าให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลอักเสบ ติดเชื้อ และหายช้าได้
  2. รักษาความสะอาดดูแลให้แผลแห้งเสมอ ไม่แกะ ไม่เกาแผล
  3. ห้ามยกของหนักหรือออกแรงเยอะ เพื่อลดการออกแรง เนื่องจากแรงยึดจะทำให้แผลตึงหรือแผลปริได้
  4. คุณแม่ควรขยับตัวบ้างเพื่อป้องกันพังผืด แม้ว่าหลังผ่าคลอดจะทำให้ปวดแผลบ้าง แต่การเริ่มขยับตัวตั้งแต่ในช่วงแรก ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ จะทำให้แผลไม่เกิดพังผืดยึดเกาะ และจะทำให้แผลฟื้นตัวได้เร็ว
  5. ใส่ผ้ารัดพยุงท้อง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลที่ผ่าตัดคลอดถูกรั้งจากผนังหน้าท้องที่หย่อน การใส่ผ้ารัดพยุงท้องหลังผ่าคลอดจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลผ่าตัด
  6. พักผ่อนให้เพียงพอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทานอาหารหลังผ่าคลอดที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่
  7. ขยับตัว เดิน ยืน ลุก นั่ง อย่างช้า ๆ ระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดตึงเกินไป
  8. ตรวจแผล ล้างแผล ดูแลแผลผ่าคลอดตามที่แพทย์นัด หากแผลผ่าคลอดบวมแดง อักเสบ มีกลิ่นเหม็น เป็นหนอง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

คุณแม่ที่คลอดลูกแล้ว หรือวางแผนว่าจะผ่าตัดคลอด อาจมีความกังวลใจในการผ่าตัดคลอดและกังวลว่าผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือนและผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน คุณแม่ควรเตรียมความพร้อมทำความเข้าใจ และดูแลแผลหลังผ่าตัดคลอดให้ถูกวิธี ปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ได้แนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าคลอดนั้นติดเชื้อ และควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองให้ดี หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับแผลผ่าคลอด ไม่ควรชะล่าใจ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด

 

 

อ้างอิง:

  1. 8 เคล็ดลับดูแลแผลผ่าคลอดให้แผลสวย หายไว ฟื้นตัวเร็ว, โรงพยาบาลวิมุต
  2. คำถามยอดฮิตที่คุณแม่ผ่าคลอดอยากรู้, โรงพยาบาลศิครินทร์
  3. การดูแลตัวเองหลังคลอด (Postpartum Self-Care), โรงพยาบาลMedpark
  4. แผลผ่าคลอดปริ เกิดจากอะไร คุณแม่ควรดูแลแผลอย่างไร, HelloKhunmor
  5. แผลผ่าคลอด ควรดูแลอย่างไร, pobpad
  6. การดูแลหลังผ่าคลอด แบบผ่าตัดทางหน้าท้อง, โรงพยาบาลสมิติเวช
  7. “ปวดหลังหลังคลอด” สัญญาณร้าย...ที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม!, โรงพยาบาลเปาโล

อ้างอิง ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2567
 

บทความแนะนำ

เจ็บแผลผ่าตัดจี๊ด ๆ ปวดแผลผ่าคลอดหลังผ่าตัดคลอด อันตรายไหม

เจ็บแผลผ่าตัดจี๊ด ๆ ปวดแผลผ่าคลอดหลังผ่าตัดคลอด อันตรายไหม

เจ็บแผลผ่าตัดจี๊ด ๆ ปวดแผลผ่าคลอดทันทีหลังผ่าตัดคลอด คุณแม่ผ่าคลอดควรทำอย่างไร หากเจ็บแผลผ่าตัดจี๊ด ๆ และปวดแผลผ่าคลอด พร้อมวิธีดูแลตัวเอง

แผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน คุณแม่เจ็บแผลผ่าตัดข้างใน อันตรายไหม

แผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน คุณแม่เจ็บแผลผ่าตัดข้างใน อันตรายไหม

แผลผ่าคลอดอักเสบข้างในหลังผ่าคลอด เกิดจากอะไร คุณแม่เจ็บแผลผ่าตัดข้างในบ่อย จะเป็นอันตรายกับคุณแม่ในระยะยาวไหม ไปดูวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นกัน

หัวนมบอด คืออะไร ปัญหาหัวนมบอดของคุณแม่ให้นมที่แก้ไขได้

หัวนมบอด คืออะไร ปัญหาหัวนมบอดของคุณแม่ให้นมที่แก้ไขได้

หัวนมบอด คืออะไร คุณแม่หัวนมบอดและหัวนมสั้น สามารถให้นมลูกได้ปกติไหม ลูกจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอหรือเปล่า ไปรู้จักอาการหัวนมบอดที่แม่ควรรู้กัน

เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม เจ็บเต้าจี๊ด ๆ ข้างซ้ายผู้หญิง อันตรายไหม

เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม เจ็บเต้าจี๊ด ๆ ข้างซ้ายผู้หญิง อันตรายไหม

คุณแม่เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม บางครั้งเจ็บเต้าจี๊ด ๆ ข้างซ้ายผู้หญิง อาการแบบนี้เกิดจากอะไร หากเจ็บเต้านมบ่อยจะเป็นอันตรายกับแม่ให้นมไหม ไปดูกัน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก