คนท้องกินชาเย็นได้ไหม กินได้บ่อยแค่ไหน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

23.04.2024

พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคุณแม่ก่อนที่จะตั้งครรภ์ แต่พอเข้าสู่วงการคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมการกินเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องเริ่มเอาใจใส่กันมากขึ้น เพราะไม่ว่าคุณแม่จะทานอะไรเข้าไปก็ล้วนส่งผลไปถึงลูกน้อยในครรภ์ด้วย

headphones

PLAYING: คนท้องกินชาเย็นได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

อ่าน 6 นาที

 

สรุป

  • ในชาเย็นมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่ด้วย สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ควรจำกัดปริมาณการดื่มคาเฟอีนไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวันหรือไม่เกิน 1-2 แก้ว
  • ชา กาแฟ หรือโกโก้ ในเครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้นจะมีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน หากคุณแม่ดื่มในปริมาณที่มากเกินไปตอนตั้งครรภ์ สารคาเฟอีนที่คุณแม่รับเข้าไปในร่างกายอาจส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้
  • ในช่วงตั้งครรภ์หากคุณแม่สามารถเลือกเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่ผสมคาเฟอีนมาทดแทนได้ เช่น การดื่มน้ำสะอาด น้ำผลไม้ต่าง ๆ หรือนมสด แทนการดื่มชาหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือเลือกบริโภคเครื่องดื่มคาเฟอีนให้น้อยที่สุด ก็จะส่งผลต่อสุขภาพครรภ์ที่ดีของคุณแม่และตัวลูกน้อยได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

“ชาเย็น” เครื่องดื่มยอดฮิตในยุคนี้ที่อาจเป็นเมนูแก้วโปรดของคุณแม่ก่อนตั้งครรภ์ที่ช่วยบรรเทาอาการแก้ง่วง ความหวานทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลแล้วรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แล้วตอนท้อง “คนท้องกินชาเย็นได้ไหม” รวมถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน กินแล้วจะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องหรือเปล่า มาหาคำตอบกันค่ะ

 

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม

หากคุณแม่ที่เคยดื่มชาเย็นหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประจำ แต่เมื่อกำลังตั้งครรภ์แล้วสำหรับเครื่องดื่มชา กาแฟ หรือโกโก้ที่ชอบดื่ม หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อนจะดีกว่า เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่หากคุณแม่ท้องดื่มในปริมาณมากเกินไป ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่และอาจเสี่ยงต่อผลกระทบอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มักมีปริมาณน้ำตาลสูง นอกจากนั้นคาเฟอีนส่งผลต่อความดันโลหิตที่สูงขึ้น มีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มเร็วขึ้น หรือทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมและธาตุเหล็กมากกว่าปกติ

 

นอกจากนี้คาเฟอีน ยังส่งผลกระทบต่อการนอนหลับพักผ่อนที่อาจทำให้คุณแม่ท้องนอนไม่หลับอีกด้วย แต่ถ้าคุณแม่ท้องมีความต้องการที่จะดื่มหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรจำกัดปริมาณการดื่มคาเฟอีนอยู่ที่ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้สารคาเฟอีนในเครื่องดื่มจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย หากคุณแม่รับคาเฟอีนไม่มากไปในแต่ละวัน หรือเลือกดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่ให้ความสดชื่นแต่ไม่มีสารคาเฟอีนมาทดแทนและมีประโยชน์ เช่น นม น้ำผลไม้ น้ำเปล่า เป็นต้น ก็ถือว่าปลอดภัยต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และส่งผลดีต่อลูกน้อยในท้องด้วย

 

กินชาเย็นมาก ๆ ส่งผลยังไงกับลูกในท้อง

ในเครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้นจะมีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน ในชาเย็นก็เช่นกันหากคุณแม่ดื่มในปริมาณที่มากเกินไปตอนตั้งครรภ์ สารคาเฟอีนที่คุณแม่รับเข้าไปในร่างกายอาจส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้อาจมีความเสี่ยงอื่น ๆ ที่จะกระทบต่อลูกในท้องตามมาได้ เช่น

  • สารคาเฟอีน จะส่งผลให้ลูกได้รับสารอาหารน้อยลง เนื่องจากคาเฟอีนส่งผลให้การดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายคุณแม่น้อยลง รวมไปถึงส่งผลให้คุณแม่ปัสสาวะบ่อยขึ้น ทำให้ขาดแคลเซียมมากกว่าปกติ ซึ่งสารอาหารสำคัญเหล่านี้มีส่วนช่วยต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
  • การได้รับสารคาเฟอีนแม้เพียงปริมาณเล็กน้อย ก็อาจไปกระตุ้นให้ทารกในครรภ์ตื่นตัว ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับหรือการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ได้
  • การดื่มชาหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไป ทำให้ร่างกายลดการดูดซึมกรดโฟลิกที่เป็นสารสำคัญต่อคุณแม่ท้อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาทส่วนกลางของลูกน้อย และอาจส่งผลกระทบให้ทารกมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดความพิการได้

 

ชาไทยมีคาเฟอีนไหม ทำไมถึงส่งผลเสียกับการตั้งครรภ์

เครื่องดื่มแต่ละชนิดนั้นจะมีปริมาณของคาเฟอีนที่แตกต่างกัน ในส่วนของชาต่อ 1 แก้วโดยประมาณ แบ่งเป็น ชาชงในปริมาณ 237 มิลลิลิตร จะมีคาเฟอีนประมาณ 48 มิลลิกรัม ชาดำปริมาณ 177 มิลลิลิตร จะมีคาเฟอีนประมาณ 45 มิลลิกรัม และชาเขียว 177 มิลลิลิตร จะมีคาเฟอีนประมาณ 40 มิลลิกรัม หากคุณแม่รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไปในแต่ละวัน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์โดยตรงแล้ว อาจเกิดผลเสียต่อคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์ได้ด้วย เช่น

  • เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากชาเย็นหรือในเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลจะส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้
  • กระตุ้นให้คุณแม่ตื่นตัว กระสับกระส่าย นอนหลับยาก มีผลต่อการนอนหลับพักผ่อนในช่วงตั้งครรภ์ได้น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้นได้
  • เกิดภาวะขาดน้ำขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากคาเฟอีนมีผลต่อการขับปัสสาวะ ทำให้คุณแม่ปัสสาวะบ่อยและส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ
  • การดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินกว่าปกติ หรือมากกว่าปริมาณที่ร่างก่ายต้องการต่อวันของแม่ท้อง อาจทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากกว่าปกติ และจะมีโอกาสส่งผลเสียต่อตัวลูกน้อยในท้องมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ

 

4 เคล็ดลับคุณแม่ตั้งครรภ์ กินชาเย็นแบบไหนปลอดภัยกับลูก

หากคุณแม่ท้องมีความต้องการที่จะกินชาเย็นตามความชอบส่วนตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ลองมาใช้วิธีกินชาเย็นสูตรคุณแม่ตั้งครรภ์แบบนี้ดูค่ะ

1. กินแบบหวานน้อย ค่อย ๆ ลดนมข้น ลดครีมเทียม

คุณแม่สามารถเลือกที่จะลดปริมาณส่วนผสมให้น้อยลงหรือค่อย ๆ ปรับลดระดับความหวานลง ให้เหลือความหวานเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ หรือเลือกดื่มชาที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล นมข้นหวาน ก็จะมีส่วนช่วยลดภาวะเสี่ยงจากโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ที่มาจากการกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความหวานเยอะลงได้

 

2. กินวันละ 1 แก้วก็เพียงพอ

ถึงแม้ว่าในชาจะมีปริมาณคาเฟอีนที่ต่ำกว่า แต่คุณแม่ท้องก็ควรจำกัดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือดื่มไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อเซฟร่างกายให้มีสุขภาพดีต่อทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์

 

3. ค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มลง

หากคุณแม่อดใจไม่ไหวในการเลือกดื่มชาเย็นหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีน คุณแม่ลองลดขนาดแก้วให้เล็กลง และลดความถี่ โดยค่อย ๆ ลดให้เหลือสัปดาห์ละ 1-2 แก้ว ก็จะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้

 

4. ดื่มน้ำสะอาดตามหลังกินชาเย็น

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะส่งผลให้ขับปัสสาวะออกมาบ่อย การดื่มน้ำสะอาดทดแทนจะช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ และการดื่มน้ำตามหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะการเกิดเบาหวานได้ระดับหนึ่งด้วย

 

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม มีประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์หรือเปล่า

ชาเย็นที่เป็นเมนูโปรดของคุณแม่ คือชาที่มาจากการสกัดจากชาดำ ซึ่งในชาดำก็มีคุณค่าทางโภชนาการและมีผลดีต่อสุขภาพหากไม่ดื่มมากจนเกินไป เช่น

  • ช่วยให้ร่างกายสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า ความหวานที่มีอยู่ในชาเย็นทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาล เพิ่มพลังงาน รู้สึกสดชื่น แต่ทั้งนี้คุณแม่ไม่ควรทานหวานจนเกินไปเพื่อลดความเสี่ยงโรคหรือภาวะอื่น ๆ ที่ตามมาได้
  • ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ในใบชามีสารโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและคาเทชิน แต่จะพบในใบชาเขียวมากกว่าชาดำ
  • มีส่วนช่วยลดการอักเสบ ในใบชามีสารโพลีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ

 

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม มีประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์หรือเปล่า

 

คนท้องกินชามะนาวได้ไหม

ถึงแม้ว่าในชาจะมีปริมาณคาเฟอีนที่ต่ำ และคุณแม่เลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสม แต่การที่คุณแม่ท้องจะดื่มชามะนาว ชาดำเย็น หรือชาเขียว ก็ยังคงได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายเช่นเดิม อย่างไรก็ตามหากคุณแม่ท้องเลือกจิบน้ำมะนาวอุ่น ๆ ในตอนเช้าแทนการดื่มชา ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น

  • น้ำมะนาวมีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหารและช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
  • น้ำมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซี มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด และมีกรด L-ascorbic acid ที่ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ส่วนผสมของน้ำกับมะนาวจะช่วยสร้างออกซิเจนในกระแสเลือด ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และช่วยทำให้ผิวของคุณแม่มีความชุ่มชื้นด้วย
  • ดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ หลังแปรงฟันเสร็จและบ้วนปากตาม จะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและโรคเหงือกอักเสบได้ แถมยังช่วยให้ลมหายใจคุณแม่สดชื่นด้วย

 

คนท้องกินชาเย็นได้ไหม หวังว่าคุณแม่ตั้งครรภ์คงได้รับคำตอบกันแล้ว แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าชาเย็น ชามะนาว ชาเขียว กาแฟ หรือโกโก้จะเป็นเมนูที่โปรดปรานสำหรับคุณแม่ก็ตาม แต่ในช่วงตั้งครรภ์หากคุณแม่สามารถเลือกเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่ผสมคาเฟอีนมาทดแทนได้ โดยนอกจากน้ำมะนาวแล้ว คุณแม่ท้องสามารถเลือกน้ำผลไม้อื่น ๆ เช่น น้ำส้มคั้น น้ำฝรั่ง (ที่ไม่หวานมากหรือดื่มบ่อยจนเกินไป)หรือนมสด มาทดแทนการดื่มชาหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือเลือกบริโภคเครื่องดื่มคาเฟอีนให้น้อยที่สุด ก็จะส่งผลต่อสุขภาพครรภ์ที่ดีของคุณแม่และตัวลูกน้อยได้

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. คนท้องกินกาแฟ โกโก้ หรือชาเขียวได้ไหม, โรงพยาบาลเพชรเวช
  2. ดื่มกาแฟตั้งครรภ์ อันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่, พบแพทย์
  3. คุณแม่ตั้งครรภ์กับเครื่องดื่มคาเฟอีนที่ต้องระวัง, โรงพยาบาลเปาโล
  4. คนท้องกินชาเขียวได้ไหมและข้อควรระวังในการบริโภค, hellokhunmor
  5. ดื่มชาอย่างไรดีต่อสุขภาพ (Tea), โรงพยาบาลศิริราชย์ ปิยมหาราชการุณย์
  6. Detox ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้, โรงพยาบาลเปาโล

อ้างอิง ณ วันที่ 19 มกราคม 2567
 

บทความแนะนำ

คุณแม่ท้อง 1 เดือนกี่สัปดาห์ พร้อมวิธีนับอายุครรภ์รายสัปดาห์

คุณแม่ท้อง 1 เดือนกี่สัปดาห์ พร้อมวิธีนับอายุครรภ์รายสัปดาห์

ท้อง 1 เดือนกี่สัปดาห์ คุณแม่มือใหม่นับอายุลูกน้อยในครรภ์รายสัปดาห์อย่างไรให้แม่นยำ เพื่อพัฒนาการของลูกน้อย คุณแม่ท้อง 1 สัปดาห์ นับแบบไหนดี ไปดูกัน

นอนท่าไหนมดลูกเข้าอู่เร็ว อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็วคุณแม่ต้องทำยังไง

นอนท่าไหนมดลูกเข้าอู่เร็ว อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็วคุณแม่ต้องทำยังไง

คุณแม่หลังคลอดนอนท่าไหนมดลูกเข้าอู่เร็ว อยากให้มดลูกเข้าอู่เร็วต้องทำยังไงบ้าง ไปดูวิธีที่ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว พร้อมวิธีดูแลตัวเองหลังคลอด

การทำหมันหญิงอันตรายไหม ทำหมันหลังคลอดทันทีได้หรือเปล่า

การทำหมันหญิงอันตรายไหม ทำหมันหลังคลอดทันทีได้หรือเปล่า

การทำหมันหญิงอันตรายไหม คุณแม่ทำหมันหลังคลอดทันที พักฟื้นนานหรือเปล่า มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง พร้อมวิธีดูแลตัวเองหลังการทำหมันหญิงหลังคลอด

ท้องกระตุกเหมือนลูกดิ้น อาการท้องกระตุก บอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง

ท้องกระตุกเหมือนลูกดิ้น อาการท้องกระตุก บอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง

ท้องกระตุกเหมือนลูกดิ้น อาการแบบนี้เกิดจากอะไร ท้องกระตุกบ่อย อันตรายไหม บอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง อาการท้องกระตุกเหมือนลูกดิ้นแบบไหนที่คุณแม่ควรสังเกต

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก