อายุครรภ์ 38 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อายุครรภ์ 38 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

05.03.2020

คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์อยู่ในช่วงอายุครรภ์ 9 เดือน ไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หากคุณแม่มีการคลอดในสัปดาห์นี้ถือเป็นครรภ์ครบกำหนด และถ้าแข็งแรงไม่ได้มีปัญหาสุขภาพแทรกซ้อนขึ้นมา แพทย์อาจแนะนำให้คุณแม่คลอดธรรมชาติได้ สำหรับอายุครรภ์ในเดือนที่ 9 นี้ แพทย์จะนัดตรวจสุขภาพครรภ์และพัฒนาการทารกในครรภ์ทุกสัปดาห์

headphones

PLAYING: อายุครรภ์ 38 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อ่าน 6 นาที

 

สรุป

  • ท้อง 38 สัปดาห์ ครรภ์ของคุณแม่จะลดต่ำลง เนื่องจากทารกมีการขยับร่างกายให้ส่วนของศีรษะมาอยู่ตรงช่องเชิงกราน คุณแม่จะรู้สึกว่าหายใจได้สะดวกมากขึ้น
  • ท้อง 38 สัปดาห์ ทารกในครรภ์จะเคลื่อนไหว ดิ้นช้าลง เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่มากขึ้นกว่าขนาดพื้นที่ในมดลูก
  • ท้อง 38 สัปดาห์ ขนาดตัวของทารกในครรภ์จะเทียบได้กับลูกขนุน ลำตัวทารกจะมีความยาว 45-50 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 2,800-3,000 กรัม
  • ท้อง 38 สัปดาห์ หากบีบที่หัวนมจะเริ่มมีน้ำขุ่น ๆ ไหลออกมา

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ท้อง 38 สัปดาห์ คุณแม่จะรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น เพราะอะไร

  • การตั้งครรภ์ในช่วงเดือนที่ 9 นี้ แพทย์จะมีการนัดคุณแม่ เพื่อมาตรวจสุขภาพครรภ์ทุกสัปดาห์ ซึ่งจะมีการชั่งน้ำหนักตัว วัดระดับความดันโลหิต และคุณแม่จะได้รับการตรวจภายในเพื่อวัดดูขนาดมดลูก แพทย์จะดูว่ามดลูกมีความสูงอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว รวมทั้งเช็กปากมดลูกคุณแม่เพื่อให้ทราบว่าเริ่มเปิดแล้วหรือยังไม่เปิด
  • คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์ จะเริ่มรู้ว่าหายใจได้สะดวก หายใจได้อิ่มขึ้น นั่นก็เพราะว่าท้องของคุณแม่ได้ลดระดับต่ำลง ซึ่งเกิดจากทารกในครรภ์ขยับร่างกาย เพื่อให้ศีรษะได้เข้ามาอยู่ในช่องเชิงกรานของคุณแม่ ซึ่งนอกจากคุณแม่จะหายใจได้สะดวกมากขึ้นแล้ว ก็ยังรู้สึกสบายท้องไม่แน่นอึดอัดหลังจากรับประทานอาหารอิ่ม

 

ตั้งครรภ์ 38 สัปดาห์ ลูกจะเคลื่อนไหวช้าลง เพราะอะไร

ทารกในครรภ์ดิ้นก็คือการเคลื่อนไหวขยับร่างกายอยู่ในมดลูกของคุณแม่ ซึ่งในช่วงอายุครรภ์ตั้งแต่ 32 สัปดาห์เป็นต้นไป คุณแม่จะเริ่มรู้สึกว่าลูกในท้องเคลื่อนไหวช้าลง นั่นเป็นเพราะว่าทารกมีขนาดลำตัวที่ใหญ่มากขึ้นกว่าขนาดพื้นที่ในมดลูก จึงทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับช่วงอายุครรภ์ไตรมาสแรก

 

อาการคนท้อง 38 สัปดาห์ ที่พบได้ทั่วไป

1. เจ็บท้องหลอกบ่อย ๆ

มดลูกจะมีการบีบตัวหดรัดเกร็ง เจ็บท้องหลอกหรือเจ็บท้องเตือน จะเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุครรภ์เดือนที่ 8 จนมาถึงอายุครรภ์เดือนที่ 9 ของการตั้งครรภ์ คุณแม่สามารถสังเกตอาการเจ็บท้องหลอกได้ดังนี้

  • เป็นก้อนแข็ง ๆ ที่หน้าท้องขึ้นมา
  • มดลูกบีบตัวไม่สม่ำเสมอ
  • ปวดท้องตรงช่วงบริเวณท้องน้อย
  • ช่องคลอดไม่มีน้ำเดินออกมา
  • ปากมดลูกยังไม่เปิด
  • อาการปวดท้องจะดีขึ้นและหายไป เมื่อได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถของร่างกาย

 

2. ปวดหลัง

คุณแม่จะมีอาการปวดหลัง เนื่องจากศีรษะของทารกในครรภ์ไปสัมผัสถูกตรงบริเวณกระดูกสันหลัง จึงทำให้คุณแม่มีอาการปวดหลังมาก

 

3. เมือกที่ช่องคลอด

Mucus plug เป็นเมือกที่ทำหน้าที่ในการปกป้องไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาที่ปากมดลูก ในคุณแม่ที่อายุครรภ์ใกล้คลอด ปากมดลูกจะค่อย ๆ เปิดและมีความบาง ทำให้มีเมือกไหลออกมา บางครั้งจะมีเลือดปนมากับเมือกด้วย

 

4. ท้องลด

อาการท้องลด สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ไม่กี่สัปดาห์ก่อนคลอด หรือก่อนคลอดเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เช่นกัน อาการท้องลดที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์ มาจากทารกในครรภ์ได้มีการขยับร่างกายให้ศีรษะมาอยู่ตรงบริเวณอุ้งเชิงกรานคุณแม่

 

5. ความเครียด

ฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ ส่งผลให้คุณแม่เกิดความเครียด และอารมณ์มีความอ่อนไหวมากเป็นพิเศษ

 

6. น้ำนมไหล

อายุครรภ์ตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป จะมีเลือดที่มาเลี้ยงตรงบริเวณต่อมน้ำนมในเต้านมเพิ่มขึ้น ทำให้เส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังมีการขยาย เซลล์กล้ามเนื้อที่อยู่รอบเต้านม ท่อน้ำนมจะเริ่มหนาตัวขึ้นมาเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับให้นมลูกหลังคลอด ทำให้น้ำนมเหลืองคอลอสตรัมมีปริมาณเยอะขึ้น หากบีบที่หัวนมจะมีน้ำลักษณะขุ่นไหลออกมา และเมื่อครบกำหนดคลอดขนาดหน้าอกของคุณแม่จะขยายใหญ่ขึ้นมา 1-2 เท่า

 

ท้อง 38 สัปดาห์ ท้องจะใหญ่ขึ้นแค่ไหน

 

ท้อง 38 สัปดาห์ ท้องจะใหญ่ขึ้นแค่ไหน

ในช่วงเดือนที่ 9 ของการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์ขนาดท้องจะมีการลดต่ำลง จนทำให้คุณแม่หายใจได้สะดวกมากขึ้น (4) และศีรษะของทารกในครรภ์จะอยู่ใกล้ปากมดลูก คุณแม่มีความพร้อมที่จะคลอดได้ตลอดเวลา

 

ท้อง 38 สัปดาห์ ลูกในครรภ์จะตัวใหญ่แค่ไหน

ทารกในครรภ์อายุ 38 สัปดาห์มีขนาดตัวใหญ่มาก เปรียบเสมือนลูกขนุน หรือประมาณ 45-50 เซนติเมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 2,800-3,000 กรัม
ในช่วงนี้ทารกในครรภ์จะมีร่างกายที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ผิวหนังของทารกจะเรียบขึ้น ไขสีขาวที่หุ้มผิวหนังเอาไว้จะมีปริมาณลดน้อยลง

 

พัฒนาการของทารกในครรภ์อายุ 38 สัปดาห์

  • ปอดทำงานได้สมบูรณ์
  • ทารกมีความสูงประมาณ 45 เซนติเมตร
  • ทารกมีกล้ามเนื้อเพื่อใช้ในการดูดและกลืนน้ำคร่ำ

 

การดูแลตัวเอง สำหรับคุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์

  1. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คุณแม่ควรดื่มน้ำทุกวันให้ได้ 8-12 แก้ว การดื่มน้ำจะช่วยให้ระบบเลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดี ช่วยให้สารอาหารจากคุณแม่ถูกส่งต่อไปให้ยังทารกได้ดีมากขึ้น
  2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้คุณแม่นอนหลับได้ง่าย นอนหลับได้สบายขึ้น การทำสมาธิก่อนนอนจะช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายขึ้นคุณแม่จะนอนหลับได้ง่าย และการนอนในท่าตะแคง ให้คุณแม่นำหมอนใบเล็กมาหนุนตรงบริเวณช่วงใต้ท้อง และวางหมอนหนุนตรงช่วงใต้เข่า ใต้ขา จะช่วยให้คุณแม่หลับสบายมากขึ้น
  3. ผ่อนคลายความกังวล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถนวด เล่นโยคะ หรือว่ายน้ำได้หรือไม่ในระหว่างตั้งครรภ์ของคุณแม่
  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นเพิ่มอาหารกลุ่มโปรตีน เช่น เนื้อปลา อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม เช่น นมจืดพร่องมันเนย ปลาตัวเล็กตัวน้อยที่กินได้ทั้งตัว และผักใบเขียวทุกชนิด
  5. ทำความสะอาดเต้านม เต้านมของคุณแม่ 2-3 เดือนก่อนคลอด ร่างกายจะมีการผลิตไขมันมาปกคลุมหัวนมและลานนม ซึ่งการอาบน้ำในทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันตรงบริเวณหัวนมหลุดออกไป จนทำให้หัวนมแห้งแตกได้ง่าย คุณแม่ไม่ควรฟอกสบู่เน้นตรงหัวนมเป็นเวลานาน

 

คุณแม่ท้อง 38 สัปดาห์อาจมีการคลอดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา คุณแม่จึงควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองอย่างใกล้ชิด และหากคุณแม่มี อาการท้องแข็งแล้วมีการเจ็บท้องในทุก 5-10 นาที ช่องคลอดมีมูกเลือดสีสดออกมา มีน้ำเดิน แนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้คุณแม่ควรเตรียมของใช้เตรียมคลอดให้พร้อม เพื่อเตรียมต้อนรับลูกน้อย

 

น้ำนมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด ในนมแม่มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด มีสารอาหารสำคัญอย่างสฟิงโกไมอีลินและดีเอชเอ ที่เป็นสารอาหารเพื่อพัฒนาสมองให้มีการเรียนรู้ได้เร็ว และมีจุลินทรีย์สุขภาพหลายสายพันธุ์ เช่น บีแล็กทิส (B. lactis) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในลำไส้

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. ท้องไตรมาสแรก ภาวะเสี่ยงที่คุณแม่ต้องระวัง, โรงพยาบาลเปาโล
  2. การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด, โรงพยาบาลพญาไท
  3. การดูแลครรภ์คุณแม่ตั้งครรภ์และพัฒนาการทารกในครรภ์, โรงพยาบาลแมคคอร์มิค
  4. เตรียมความพร้อมก่อนคลอดเจ้าตัวเล็ก, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  5. การดิ้นของทารกในครรภ์ สัญญาณที่คุณแม่ควรรู้, โรงพยาบาลบางปะกอก
  6. เตรียมพร้อม... คุณแม่ใกล้คลอดแบบธรรมชาติ, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
  7. 6สัญญาณเตือนการใกล้คลอด ที่คุณแม่ควรรู้, โรงพยาบาลบางปะกอก 3
  8. ความเครียดของคุณแม่ตั้งครรภ์..สามารถส่งต่อจากแม่สู่ลูกได้นะ!, โรงพยาบาลพญาไท
  9. เต้านมในระหว่างตั้งครรภ์ (ตอนที่ 1), คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  10. 9 เดือน มหัศจรรย์พัฒนาการทารกในครรภ์, โรงพยาบาลสมิติเวช
  11. พัฒนาการทารกในครรภ์ สัปดาห์ที่ 38 ของการตั้งครรภ์, helloคุณหมอ
  12. พัฒนาการของทารกในครรภ์ตลอด 9 เดือน เป็นอย่างไรบ้างนะ, โรงพยาบาลพญาไท
  13. คุณแม่ตั้งครรภ์ รับประทานอะไรดี, โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
  14. เคล็ดลับการนอนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์, โรงพยาบาลพญาไท
  15. คำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ไตรมาส 1-3, โรงพยาบาลบางปะกอก
  16. พัฒนาการทารกในครรภ์ สัปดาห์ที่ 38 ของการตั้งครรภ์, helloคุณหมอ

อ้างอิง ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567

บทความแนะนำ

คนท้องกินชาเขียวได้ไหม ชาเขียวมีคาเฟอีน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชาเขียวได้ไหม ชาเขียวมีคาเฟอีน อันตรายกับลูกหรือเปล่า

คนท้องกินชาเขียวได้ไหม ชาเขียวมีคาเฟอีน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า คุณแม่ชอบกินชาเขียว ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ถึงเหมาะสมและไม่เป็นอันตรายกับลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ให้เหมาะสม คุณแม่ควรกินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ ควรกินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ให้เหมาะสมมีอะไรบ้าง คุณแม่ควรบำรุงครรภ์ให้แข็งแรงด้วยการกินอาหารเพิ่มน้ำหนักลูกที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการและครรภ์ของคุณแม่โดยตรง

คนท้องกินเผ็ดได้ไหม คุณแม่ชอบกินเผ็ดอันตรายกับลูกหรือเปล่า

คนท้องกินเผ็ดได้ไหม คุณแม่ชอบกินเผ็ดอันตรายกับลูกแค่ไหน

คนท้องกินเผ็ดได้ไหม คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบกินของเผ็ดจะอันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า ระดับความเผ็ดแค่ไหนที่คุณแม่สามารถทานได้และไม่เป็นอันตรายกับลูก

คนท้องกินเครื่องดื่มเกลือแร่ได้ไหม คุณแม่แพ้ท้องจนไม่มีแรง รับมือแบบไหนดี

คนท้องกินสปอนเซอร์ได้ไหม แพ้ท้องจนไม่มีแรง รับมือแบบไหนดี

คนท้องกินสปอนเซอร์ได้ไหม เมื่อคุณแม่ท้องมีอาการแพ้ท้องจนเหนื่อยและอ่อนแรง สามารถกินเครื่องดื่มสปอนเซอร์ได้หรือเปล่า จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ไหม