พาหะธาลัสซีเมีย อันตรายไหม ทำไมควรตรวจธาลัสซีเมียก่อนแต่งงาน

พาหะธาลัสซีเมีย โรคทางพันธุกรรมที่คนอยากมีลูกต้องรู้

28.06.2024

รู้หรือเปล่า! พาหะธาลัสซีเมีย อาจแฝงอยู่ในร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะคนที่เป็นพาหะไม่ได้มีอาการแสดงออกของโรค ไม่กระทบต่อสุขภาพ และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ แต่คุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนที่จะมีลูกน้อย ควรทำความรู้จักและเข้าใจพาหะธาลัสซีเมียหรือโรคธาลัสซีเมียว่าส่งผลกระทบต่อลูกน้อยเพียงใด เพื่อเตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์

headphones

PLAYING: พาหะธาลัสซีเมีย โรคทางพันธุกรรมที่คนอยากมีลูกต้องรู้

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • พาหะธาลัสซีเมีย เป็นการได้รับยีนที่ผิดปกติมากจากคุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่ง คนที่เป็นแล้วแม้จะไม่มีอาการผิดปกติแสดงออก แต่คนที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะสามารถถ่ายทอดยีนที่ผิดปกติสู่ลูกได้
  • คุณแม่ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียตั้งครรภ์ก็สามารถถ่ายทอดยีนผิดปกติถึงทารกในครรภ์ได้ เพราะโรคธาลัสซีเมียนั้นเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  • อาการของโรคธาลัสซีเมียจะแสดงออกโดยแบ่งระดับตั้งแต่อาการน้อยหรือไม่มีอาการไปจนถึงอาการรุนแรงมากที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุความเสี่ยงที่ทำให้ทารกเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในครรภ์หรือภายหลังคลอดไม่นาน
  • การได้ตรวจคัดกรองก่อนแต่งงานหรือวางแผนจะมีลูกนั้น จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบว่าลูกมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

พาหะธาลัสซีเมีย หากไม่ได้รับการตรวจเราอาจจะไม่รู้เลยว่ามี “ธาลัสซีเมีย” แฝงอยู่ในร่างกาย เพราะคนที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะมีสุขภาพปกติและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนกันทั่วไปแต่เพราะโรคธาลัสซีเมียนั้นเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่เริ่มวางแผนมีลูก เพื่อไม่ให้ส่งความเสี่ยงไปถึงลูกน้อย การตรวจหาพาหะธาลัสซีเมีย จึงเป็นเรื่องสำคัญก่อนตั้งครรภ์ไม่น้อย!

 

พาหะธาลัสซีเมีย คืออะไร

พาหะธาลัสซีเมีย เป็นการได้รับยีนที่ผิดปกติมากจากคุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่ง คนที่เป็นแล้วแม้จะไม่มีอาการผิดปกติแสดงออก แต่คนที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะสามารถถ่ายทอดยีนที่ผิดปกติสู่ลูกได้ และเมื่อลูกได้รับยีนผิดปกติทั้งจากพ่อและแม่ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมีย้ ซึ่งจะมีปัญหาด้านสุขภาพตามมา และเมื่อเป็นแล้วก็ไม่อาจรักษาให้หายขาด

 

โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากยีนที่ผิดปกติของคุณพ่อคุณแม่ คือโรคเลือดจางชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติในกระบวนการสร้างฮีโมโกลบินที่เป็นโปรตีนสำคัญในเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดเม็ดเลือดแดงไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ตั้งแต่เกิดและเป็นโรคที่ติดตัวไปตลอดชีวิต ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาและบางรายอาจรุนแรงขึ้นอยู่กับพาหะธาลัสซีเมียแต่ละชนิด โดยจะมีอาการตั้งแต่โลหิตจางน้อย ไปจนถึงโลหิตจางมาก ตัวเหลืองซีด มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ตับและม้ามโต และปัสสาวะสีเข้ม เป็นต้น ทั้งนี้หากมีอาการรุนแรงมากทารกอาจมีโอกาสเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในครรภ์หรือภายหลังคลอดได้


พาหะธาลัสซีเมียในทารก มีกี่ชนิด

พาหะธาลัสซีเมียในทารก ที่ทำให้เกิดโรคธาลัสซีเมีย แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • เบต้า-ธาลัสซีเมีย (Beta-Thalassemia) ซึ่งเป็นพาหะที่ไม่ค่อยรุนแรงถึงขั้นทำให้ทารกมีโอกาสเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ แต่จะส่งผลกับทารกตั้งแต่แรกเกิด โดยอาจมีอาการทารกตัวเหลืองซีดเพราะความไม่สมบูรณ์ของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง จึงทำให้ต้องรับเลือดตั้งแต่เล็ก
  • แอลฟ่า-ธาลัสซีเมีย (Alpha-Thalassemia) พาหะชนิดนี้ค่อนข้างรุนแรง หากได้รับยีนชนิดนี้ อาจมีผลทำให้ทารกเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในครรภ์หรือภายหลังคลอดได้

 

พาหะธาลัสซีเมีย จะแสดงอาการอะไรออกมาให้เห็น

คุณพ่อคุณแม่ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียโดยทั่วไปจะไม่แสดงอาการให้เห็น แต่หากลูกน้อยเป็นโรคธาลัสซีเมียอาการของโรคจะแสดงออกโดยแบ่งระดับตั้งแต่อาการน้อยหรือไม่มีอาการไปจนถึงอาการรุนแรงมากที่สุด ได้แก่

  • โรคธาลัสซีเมียชนิดที่แสดงอาการน้อยถึงไม่มีอาการ อาจไม่แสดงอาการ แต่เมื่อทารกมีไข้สูง อาจมีภาวะซีดลงและมีดีซ่านร่วมด้วย
  • โรคธาลัสซีเมียชนิดที่แสดงอาการปานกลางถึงรุนแรงมาก ทารกมักแสดงอาการภายใน 2 ปีแรกหลังเกิด พบว่ามีอาการซีด ตัวเหลือง คล้ายเป็นดีซ่าน ตาเหลือง ท้องโตจากการที่ตับและม้ามโต หายใจลำบาก มีกระดูกที่ใบหน้าผิดปกติ เช่น โหนกแก้มสูง จมูกแบน คางและกระดูกขากรรไกรผิดปกติ ทำให้มีลักษณะรูปหน้าที่ไม่คล้ายพ่อแม่ และร่างกายแคระแกร็น มีพัฒนาการเจริญเติบโตที่ไม่สมวัย
  • โรคธาลัสซีเมียชนิดที่แสดงอาการรุนแรงมากที่สุด ทารกจะมีอาการบวมน้ำ ผิวซีดมาก ท้องโตจากการที่ตับและม้ามโต และหัวใจวาย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในครรภ์หรือภายหลังคลอดไม่นาน โดยระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่อาจจะมีอาการความดันโลหิตสูง ตัวบวม หรือครรภ์เป็นพิษ

 

พาหะธาลัสซีเมีย จะแสดงอาการอะไรออกมาให้เห็น

 

ทำไมต้องตรวจหาธาลัสซีเมียก่อนแต่งงาน

ธาลัสซีเมีย เป็นโรคทางพันธุกรรมจากคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียสามารถถ่ายทอดไปยังลูกน้อยได้ ซึ่งการได้ตรวจคัดกรองก่อนแต่งงานหรือวางแผนจะมีลูกนั้น จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบว่าลูกมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ หากพบว่ามีคนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่เป็นพาหะธาลัสซีเมีย คุณหมอก็จะสามารถวางแผนการวินิจฉัยและแนะนำการป้องกันได้อย่างเหมาะสม เช่น ในบางกรณีคุณหมอจะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่มีการตรวจเลือดเพิ่มอย่างละเอียดเป็นพิเศษ หรือการตรวจ DNA ที่ถึงแม้จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและอาจใช้เวลานาน แต่ก็จะทำให้ตรวจพบได้ชัดเจนว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดไหน เพื่อวินิจฉัยว่าลูกมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคธาลัสซีเมียมากหรือน้อยแค่ไหน และตรวจวินิจฉัยอาการของโรคธาลัสซีเมียที่อาจเกิดขึ้นกับทารกว่ารุนแรงหรือไม่รุนแรง 

การตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคธาลัสซีเมียจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบว่า

  • ตัวเราเป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือไม่ เพื่อเป็นการวางแผนก่อนแต่งงานหรือวางแผนก่อนตั้งครรภ์ ป้องกันลูกน้อยที่จะเกิดมาเป็นโรคธาลัสซีเมีย
  • หากพบว่าตัวเราเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ควรแนะนำให้คนในครอบครัวได้ไปตรวจเลือดด้วยเช่นกัน เพราะมีโอกาสที่จะมียีนและเป็นพาหะธาลัสซีเมียได้มากกว่าคนทั่วไป
  • ในกรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ส่วนอีกคนปกติ ทารกที่เกิดมาก็จะไม่มีความเสี่ยงเป็นโรคธาลัสซีเมียที่รุนแรง แต่ถ้าเป็นพาหะธาลัสซีเมียทั้งคู่ ทารกอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมียที่รุนแรงได้

 

ตรวจหาธาลัสซีเมีย มีวิธีอะไรบ้าง

การตรวจเลือดเพื่อหาพาหะธาลัสซีเมียมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก สามารถตรวจได้ด้วยการซักประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจเลือด คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร สามารถเจาะเลือดตรวจได้ทันที หลังจากรอผลตรวจก็จะทราบได้ว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือไม่ โดยแบ่งวิธีการตรวจเลือดได้เป็น 3 วิธีได้แก่

  • การตรวจคัดกรอง เป็นการตรวจเลือดเบื้องต้นเพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เช็กว่าค่าความเข้มข้นของเลือด และขนาดของเม็ดเลือดแดงผิดปกติหรือไม่ เป็นการตรวจที่มีค่าใช้จ่ายน้อยและใช้ตรวจได้ในโรงพยาบาลทั่วไป มีขั้นตอนการตรวจที่ไม่ยุ่งยาก สามารถทราบผลได้ว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือไม่ แต่ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียชนิดใด หากคุณพ่อคุณแม่ได้รับผลตรวจเป็นบวก ก็อาจต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน เพื่อหาว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดใด
  • การตรวจชนิดของฮีโมโกลบิน เป็นการตรวจหาฮีโมโกลบินชนิดต่าง ๆ ว่ามีชนิดใดที่ขาดไป และเพื่อแยกได้ว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดใด แต่การตรวจด้วยวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจคัดกรอง และสามารถตรวจได้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่หรือโรงเรียนแพทย์
  • การตรวจ DNA เป็นการตรวจเลือดที่มีความเฉพาะเจาะจงและใช้ขั้นตอนในการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้ชำนาญในการตรวจ DNA ซึ่งเป็นวิธีการตรวจที่ได้ผลชัดเจน แม่นยำ และดีที่สุด สามารถทราบได้ถึงชนิดของพาหะธาลัสซีเมีย ความเสี่ยงของโรค และอาจคาดคะเนความรุนแรงของโรคธาลัสซีเมียที่อาจเกิดขึ้นกับทารกได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน

 

ในกรณีที่ตรวจพบว่าคนที่เป็นพาหะธาลัสซีเมีย สามารถใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่หากผลตรวจเลือดพบว่าเป็นโรคธาลัสซีเมีย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและวินิจฉัยว่าเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดใดและอาการรุนแรงของโรคมีมากน้อยแค่ไหน

 

พาหะธาลัสซีเมีย อันตรายไหม ส่งผลอะไรกับคุณพ่อคุณแม่บ้าง

โดยปกติแล้วผู้ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะไม่แสดงออกถึงอาการผิดปกติใด ๆ ไม่กระทบต่อสุขภาพร่างกาย และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่หากสังเกตว่ามีอาการเหนื่อยง่าย หรือผิวซีดเหลืองขึ้น ถึงแม้ว่าอาจจะไม่กระทบต่อสุขภาพมาก แต่ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ คุณพ่อคุณแม่ควรไปหาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการและขอคำแนะนำในการดูแลสุขภาพจากคุณหมอ

 

โรคธาลัสซีเมีย อันตรายไหม ส่งผลอะไรกับลูกบ้าง

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มาเจาะตรวจเลือดตอนฝากครรภ์แล้วพบว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมีย อันตรายที่จะเกิดขึ้นได้กับลูกน้อยในระหว่างตั้งครรภ์คือส่งผลให้ทารกเป็นโรคธาลัสซีเมียตั้งแต่กำเนิด หากยิ่งพบว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงแบบเดียวกันทั้งคู่ ก็จะส่งให้ทารกเสี่ยงเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง และมีโอกาสเสียชีวิตได้ตั้งแต่ในครรภ์ และเนื่องจากโรคธาลัสซีเมียเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจึงมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์โดยตรง หากคุณพ่อคุณแม่เป็นพาหะหรือเป็นโรคธาลัสซีเมีย โอกาสของลูกที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงมากหรือน้อย หรือไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคธาลัสซีเมีย ขึ้นอยู่กับ

  • กรณีที่คุณพ่อและคุณแม่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียทั้งคู่ โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย 100 เปอร์เซ็นต์
  • กรณีที่คุณพ่อและคุณแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียด้วยกันทั้งคู่ โอกาสที่ลูกจะเป็นปกติ 25 เปอร์เซ็นต์ โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 50 เปอร์เซ็นต์ และโอกาสที่ลูกจะป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย 25 เปอร์เซ็นต์
  • กรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ส่วนอีกคนปกติ โอกาสที่ลูกจะเป็นปกติ 50 เปอร์เซ็นต์ และเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 50 เปอร์เซ็นต์
  • กรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมีย ส่วนอีกคนปกติ โอกาสที่ลูกจะเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 100 เปอร์เซ็นต์
  • กรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคธาลัสซีเมียส่วนอีกคนเป็นพาหะธาลัสซีเมีย โอกาสที่ลูกจะป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย 50 เปอร์เซ็นต์ และเป็นพาหะธาลัสซีเมีย 50 เปอร์เซ็นต์

 

ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่วางแผนจะมีลูก การตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมียก่อนการตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ และควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางหรือป้องกันเพื่อไม่ให้ลูกน้อยต้องเสี่ยงเกิดมาเป็นโรคธาลัสซีเมีย

 

มีพาหะธาลัสซีเมีย สามารถมีลูกได้ไหม

ในกรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งคู่เป็นพาหะธาลัสซีเมียสามารถมีลูกได้ แต่ทารกก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นพาหะธาลัสซีเมียซึ่งเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากคุณพ่อคุณแม่ได้เช่นกัน ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่วางแผนจะมีเจ้าตัวน้อยควรเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอเพื่อวินิจฉัยการตรวจดูว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดใด รุนแรงมากหรือน้อย และส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงถึงตัวลูกมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเกิดมามีโรคธาลัสซีเมียติดตัวหรือส่งผลกระทบต่อตัวทารกให้น้อยที่สุด และด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน มีวิธีการผสมเทียมเพื่อทำเด็กหลอดแก้วช่วยในการตั้งครรภ์ เพื่อช่วยลดอัตราเสี่ยงและป้องกันไม่ให้ทารกเกิดมาเป็นโรคที่มีอาการรุนแรงได้

 

วิธีดูแลตัวเอง หากมีพาหะธาลัสซีเมีย

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พบว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียนั้นสามารถดูแลรักษาสุขภาพตัวเองได้อย่างปกติ เช่นการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไปตามปกติ แต่หากตรวจพบว่าเป็นโรคธาลัสซีเมียพาหะชนิดใดและส่งผลรุนแรงต่อร่างกายอย่างไร คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยทั่วไปโรคธาลัสซีเมียสามารถดูแลรักษาสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น

  • ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิก ซึ่งกรดโฟลิกจะมีในผักใบเขียว เช่น คะน้า บรอกโคลี กะหล่ำปลี หรือในผลไม้ เช่น ส้ม อะโวคาโด และมะนาว เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
  • งดหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น พวกเครื่องในสัตว์ ตับ เลือด หรือผักโขม เป็นต้น
  • ควรงดยาและวิตามินที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้แรงหนักหรือประเภทที่มีความรุนแรง เพราะอาจทำให้กระดูกแตกหักได้ง่าย ควรออกกำลังกายแต่พอดี และหยุดพักทันทีเมื่อรู้สึกเหนื่อย
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและควรงดสูบบุหรี่
  • ควรเข้ารับการตรวจฟันทุก ๆ 6 เดือน เนื่องจากโรคนี้อาจส่งผลให้ฟันผุง่าย

 

เนื่องจากโรคธาลัสซีเมียนั้นเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของยีน ส่งผลให้กระบวนการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงผิดปกติ เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลหิตจางที่ส่งผ่านไปสู่ลูกน้อยได้ ซึ่งอาการของโรคมีตั้งแต่ไม่แสดงอาการไปจนถึงอาการที่รุนแรงมากส่งผลให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อเป็นแล้วนอกจากเข้ารับการรักษา ดูแลสุขภาพ และไปตามนัดที่คุณหมอสั่งหากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันทีนะคะ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. คุณเป็นพาหะธาลัสซีเมีย โดยไม่รู้ตัวอยู่หรือเปล่า, โรงพยาบาลพญาไท
  2. โลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคพันธุกรรมที่ไม่ควรมองข้าม, โรงพยาบาลพญาไท
  3. ทำไมคู่สมรสต้องตรวจธาลัสซีเมียก่อนตั้งครรภ์, โรงพยาบาลนครธน
  4. ธาลัสซีเมีย ความผิดปกติของยีนส์ถ่ายทอดทางพันธุกรรม, โรงพยาบาลเพชรเวช
  5. ธาลัสซีเมียโรคโลหิตจางแฝงทางพันธุกรรม, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

อ้างอิง ณ วันที่ 26 มกราคม 2567
 

บทความแนะนำ

ปากมดลูกเปิดมีอาการยังไง กระตุ้นปากมดลูกนานแค่ไหน กว่าจะคลอด

กระตุ้นปากมดลูก ปากมดลูกเปิดมีอาการยังไง นานแค่ไหนกว่าจะคลอด

เมื่อคุณแม่ใกล้คลอด ปากมดลูกจะเริ่มเปิดมากขึ้น อาการปากมดลูกเปิดเป็นยังไง คุณแม่ใกล้คลอดต้องกระตุ้นปากมดลูกไหม พร้อมอาการใกล้คลอดที่คุณแม่ควรรู้

คนท้องกินชาเขียวได้ไหม ชาเขียวมีคาเฟอีน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชาเขียวได้ไหม ชาเขียวมีคาเฟอีน อันตรายกับลูกหรือเปล่า

คนท้องกินชาเขียวได้ไหม ชาเขียวมีคาเฟอีน อันตรายกับคนท้องหรือเปล่า คุณแม่ชอบกินชาเขียว ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ถึงเหมาะสมและไม่เป็นอันตรายกับลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ให้เหมาะสม คุณแม่ควรกินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ ควรกินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ให้เหมาะสมมีอะไรบ้าง คุณแม่ควรบำรุงครรภ์ให้แข็งแรงด้วยการกินอาหารเพิ่มน้ำหนักลูกที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการและครรภ์ของคุณแม่โดยตรง

คนท้องกินเผ็ดได้ไหม คุณแม่ชอบกินเผ็ดอันตรายกับลูกหรือเปล่า

คนท้องกินเผ็ดได้ไหม คุณแม่ชอบกินเผ็ดอันตรายกับลูกแค่ไหน

คนท้องกินเผ็ดได้ไหม คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบกินของเผ็ดจะอันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า ระดับความเผ็ดแค่ไหนที่คุณแม่สามารถทานได้และไม่เป็นอันตรายกับลูก

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก