ทำความรู้จัก 'สฟิงโกไมอีลิน' หนึ่งในสารอาหารพัฒนาสมอง
คุณแม่รู้ไหม…สฟิงโกไมอีลิน
คือหนึ่งในสารอาหาร
สฟิงโกไมอีลิน
“สฟิงโกไมอีลิน”
ไมอีลิน ช่วยเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน
การเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณของ สมองต้องอาศัยการสร้างปลอกไมอีลิน
ความสามารถของลูกรักของคุณนั้นไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ การควบคุมการเคลื่อนไหว หรือการคิดวิเคราะห์และการวางแผนเมื่อเติบโตขึ้นไปนั้นล้วนเกิดขึ้นจากการทำงานของสมอง แต่สมองเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง ไม่สามารถที่จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัย
การเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน (brain connection) ซึ่งคือกลไกที่สำคัญที่สุดในการทำงานของสมอง ซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วการทำงานของสมองจึงจะมีประสิทธิภาพหรือเปรียบเสมือนกับการใช้อินเทอร์เน็ต 5G
เพราะสามารถส่งสัญญาณได้เร็วกว่า จึงมีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง และนี่คือความลับของสมองที่สามารถ ทำสิ่งที่เหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการคลาน เดิน การพูด การวิ่งเล่น หรือหัวเราะ ร้องไห้ของลูกรักนั้น เป็นเพราะการส่งสัญญาณหากันด้วยความรวดเร็วของสมอง แต่ละส่วนนั่นเอง
โดยสารอาหารหลัก ในการสร้างไมอีลิน ได้แก่ โปรตีน และไขมัน ซึ่ง สฟิงโกไมอีลิน (sphingomyelin) เป็นหนึ่งในไขมันจำเพาะในการสร้างไมอีลิน
การได้รับสฟิงโกไมอีลินในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นวัตถุดิบสำคัญต่อการสร้างไมอีลินในสมอง ซึ่งช่วยให้การทำงานของสมองเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยสฟิงโกไมอีลินจะพบได้มากในนมแม่ และผลิตภัณฑ์นม เช่น ครีม ชีส ดังนั้น ทารกจึงควรได้รับนมแม่อย่างเต็มที่ เพราะนมแม่เป็นแหล่งของไขมันชั้นดี ซึ่งรวมถึงสฟิงโกไมอีลินด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจัยของ Deoni ปี 2018 ที่แสดงให้เห็นว่าทารกที่ได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน จะมีปริมาณไมอีลินในสมองเพิ่มขึ้นและมีความสัมพันธ์กับผลการประเมินการเรียนรู้ที่ดีขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของสมองยังต้องอาศัยการเชื่อมต่อสัญญาณประสาทที่มีความรวดเร็ว ซึ่งการสร้างไมอีลินจะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาท เปรียบเสมือนการสร้างทางด่วนให้กับสมอง โดยสารอาหารในกลุ่มไขมัน โดยเฉพาะ “สฟิงโกไมอีลิน” จะเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างไมอีลินในสมอง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่านอกเหนือจากพันธุกรรม และการเลี้ยงดูแล้ว จึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ตระหนักถึงโภชนาการสำหรับลูกรักเพื่พัฒนาการทั้งทางร่ายกายและสมองให้เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย