วิธีฝึกลูกนอนยาว ฝึกลูกนอนเอง ช่วยให้หลับสบายตลอดคืน

วิธีฝึกลูกนอนยาว ฝึกลูกนอนเอง ช่วยให้หลับสบายตลอดคืน

20.11.2024

คุณแม่ลูกอ่อนในช่วงหลังคลอดใหม่ ๆ อาจจะเหนื่อยล้ากับการดูแลทารกที่ต้องตื่นมากินนมบ่อย ทำให้คุณแม่พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ลูกน้อยเริ่มนอนได้นานขึ้น จึงเป็นเวลาเหมาะที่คุณแม่จะเริ่มฝึกให้ลูกนอนยาว เพื่อให้คุณแม่ได้พักผ่อน การฝึกลูกนอนยาว คืออะไร มีข้อดีอย่างไร คุณแม่จะเริ่มฝึกลูกนอนยาวตอนอายุเท่าไหร่ดี และมีวิธีการฝึกลูกนอนเองอย่างไรให้สำเร็จภายใน 7 วัน ไปดูพร้อมกันเลย

headphones

PLAYING: วิธีฝึกลูกนอนยาว ฝึกลูกนอนเอง ช่วยให้หลับสบายตลอดคืน

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • ฝึกลูกนอนยาว คือ การฝึกให้ลูกน้อยเรียนรู้ที่จะนอนหลับได้เองโดยไม่ต้องอาศัยการปลอบโยนหรืออุ้มกล่อมจากพ่อแม่
  • การฝึกลูกนอนยาว ทำให้ลูกได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ส่งผลดีต่อพัฒนาการของร่างกายและสมอง เสริมสร้างนิสัยการนอนที่ดีติดตัวลูก และยังช่วยให้พ่อแม่มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ลดความเครียดในการดูแลลูกอีกด้วย
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฝึกลูกนอนยาว คือเมื่อลูกน้อยมีอายุประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกน้อยเริ่มพัฒนาความสามารถในการนอนหลับต่อเนื่องยาวนานขึ้น และมีวงจรการนอนหลับ-ตื่นที่เป็นปกติมากขึ้น
  • การฝึกลูกนอนเองอาจทำให้ลูกน้อยร้องไห้งอแงได้ในช่วงแรก ๆ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะลูกน้อยกำลังปรับตัวเข้ากับวิธีการนอนแบบใหม่ แต่โดยทั่วไปแล้ว ลูกน้อยมักจะนอนได้เองสำเร็จภายใน 7 วัน

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ฝึกลูกนอนยาว คืออะไร มีข้อดีอย่างไร

การฝึกลูกนอนยาวเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้ลูกน้อยเรียนรู้ที่จะนอนหลับได้เองโดยไม่ต้องอาศัยการปลอบโยนหรืออุ้มกล่อมจากพ่อแม่ เป้าหมายหลักคือการสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีให้กับลูกน้อย ทำให้ลูกหลับได้นานขึ้น ตื่นน้อยลงในเวลากลางคืน และช่วยให้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

  • ประโยชน์ต่อพ่อแม่ การที่มีลูกน้อยที่นอนหลับง่ายและหลับได้นาน ทำให้พ่อแม่มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ลดความเครียด และมีพลังงานในการดูแลลูก
  • ลูกได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อลูกน้อยสามารถนอนหลับได้เองและหลับได้นานขึ้น จะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกายและสมอง
  • เสริมสร้างนิสัยการนอนที่ดีติดตัวลูก การฝึกลูกนอนยาวจะช่วยให้ลูกน้อยมีวินัยในการนอนหลับ ทำให้ลูกรู้จักแยกแยะช่วงเวลาการนอนและการตื่น

 

เริ่มฝึกลูกนอนยาว ตอนอายุเท่าไรดี

โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เริ่มฝึกลูกนอนยาว เมื่อลูกน้อยมีอายุประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกน้อยเริ่มพัฒนาความสามารถในการนอนหลับต่อเนื่องยาวนาน และมีวงจรการนอนหลับและการตื่นที่เป็นปกติมากขึ้น การที่ลูกได้นอนหลับยาว มีประโยชน์ ดังนี้

  1. พัฒนาการของสมอง: สมองของลูกน้อยเริ่มพัฒนาความสามารถในการควบคุมวงจรการนอนหลับได้ดีขึ้น
  2. ไม่ต้องการนมกลางคืน: ลูกน้อยหลายคนในช่วงอายุนี้สามารถหลับยาวไปได้โดยไม่ต้องกินนมกลางดึก
  3. พร้อมที่จะเรียนรู้: ลูกน้อยเริ่มมีพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจที่พร้อมจะเรียนรู้ทักษะการนอนหลับใหม่ ๆ

 

ถึงแม้ว่า 4-6 เดือนจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ไม่ใช่กฎตายตัว ลูกน้อยแต่ละคนจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน บางคนอาจพร้อมที่จะฝึกลูกนอนยาวเร็วกว่านี้ ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลามากกว่านี้ หากคุณแม่ไม่แน่ใจว่าลูกน้อยพร้อมสำหรับการฝึกนอนหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์

 

การจัดห้องนอน ช่วยสร้างบรรยากาศให้ลูกน้อย

การจัดห้องนอนให้เหมาะสมเป็นก้าวสำคัญในการฝึกลูกนอนยาว ลองปรับเปลี่ยนห้องนอนของลูกน้อยตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้ลูกน้อยหลับสบาย

1. เครื่องนอนสะอาด นุ่มสบาย

เลือกผ้าปูที่นอน หมอน และผ้าห่มที่ทำจากวัสดุที่นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี และเหมาะกับอากาศในห้อง เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัวขณะนอนหลับ

 

2. ห้องมืด เงียบสงบ

ปิดไฟให้มืดสนิทหรือเปิดไฟนวล ๆ เพื่อสื่อให้ลูกน้อยรู้ว่าถึงเวลาเข้านอนแล้ว ลดเสียงรบกวนต่าง ๆ เช่น เสียงโทรศัพท์ เสียงทีวี หรือเสียงคนคุย

 

3. อุณหภูมิกำลังพอดี

ควบคุมอุณหภูมิในห้องให้อยู่ในระดับที่ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป อุณหภูมิที่พอดีจะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับได้สบายตลอดคืน

 

วิธีฝึกลูกนอนยาว ให้ลูกนอนได้นานด้วยตัวเอง

 

วิธีฝึกลูกนอนยาว ให้ลูกนอนได้นานด้วยตัวเอง

การฝึกลูกนอนยาวและฝึกลูกนอนเองไม่ใช่เรื่องยาก เพียงทำตามขั้นตอนอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ลูกน้อยหลับสบายและคุณพ่อคุณแม่ก็ได้พักผ่อนเต็มที่ มาดูวิธีฝึกลูกนอนยาวที่สามารถทำได้ภายใน 7 วันกัน

1. เริ่มแยกเตียงนอนกับลูก ให้ลูกชินกับการนอนคนเดียว

ก่อนเริ่มฝึกลูกนอนเอง ควรแยกเตียงนอนของลูกน้อยออกจากเตียงของคุณพ่อคุณแม่ก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ลูกน้อยชินกับการนอนในสภาพแวดล้อมใหม่

 

2. ให้เข้านอนตรงเวลาทุกวัน คอยปลอบลูกเมื่อร้องไห้

การฝึกลูกนอนยาว กำหนดเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้ชัดเจน และพยายามให้ลูกน้อยปฏิบัติตามตารางเวลาทุกวัน เมื่อลูกน้อยร้องไห้ ให้เข้าไปปลอบโยนได้ แต่ไม่ต้องอุ้มขึ้นมา ค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาในการเข้าไปปลอบให้ห่างขึ้นทีละน้อย

 

3. แยกห้องนอนกับลูก และเข้าไปดูเป็นระยะ

ในช่วงแรกที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มฝึกลูกนอนยาว อาจเข้าไปตรวจสอบลูกน้อยเป็นระยะ ๆ ทุก 15 นาที เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัย

 

4. ยืดระยะห่างในการเข้าไปดูลูกมากขึ้น

เมื่อลูกน้อยเริ่มคุ้นเคย ให้ค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาในการเข้าไปตรวจสอบทีละน้อย เช่น ทุก 30 นาที

 

5. ปล่อยให้ลูกหลับยาว ไม่ต้องแวะเข้าไปกวน

ทารกหลายคนเรียนรู้ที่จะนอนหลับได้เองโดยไม่ร้องไห้ภายในเวลาไม่กี่คืน ทารกบางคนใช้เวลานานกว่านั้น เช่น ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่การร้องไห้จะค่อย ๆ น้อยลงในแต่ละคืน

 

6. บอกให้ลูกรู้เวลาเข้านอนและตื่นนอน เพื่อความเคยชิน

พยายามปลุกลูกน้อยให้ตื่นในเวลาเดิมทุกเช้า และเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกวัน ความสม่ำเสมอและการคาดเดาได้นี้ จะช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลาย รู้สึกปลอดภัย และนอนหลับได้ง่ายขึ้น

 

7. พ่อแม่ต้องหลับสนิทเหมือนกับลูก

เมื่อลูกน้อยเข้านอนแล้ว พ่อแม่ก็ควรพยายามหลับสนิทเช่นกัน พยายามรักษาความสงบในห้องนอน เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลายและหลับได้นาน

 

หากการฝึกลูกนอนยาว ฝึกลูกนอนเอง ไม่สำเร็จใน 7 วัน แสดงว่าลูกน้อยอาจยังไม่พร้อมที่จะนอนเอง ควรลองวิธีอื่น และพูดคุยกับกุมารแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ หากการฝึกให้ลูกนอนยาวไม่ได้ผลหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์

 

ฝึกลูกนอนเอง แต่ลูกร้องไห้งอแง ทำยังไงดี

การฝึกลูกนอนเอง อาจทำให้ลูกน้อยร้องไห้งอแงได้ในช่วงแรก ๆ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะลูกน้อยกำลังปรับตัวเข้ากับวิธีการนอนแบบใหม่ ลองทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของคุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น

1. สร้างกิจวัตรก่อนนอนให้ลูกรู้ตัวว่าใกล้ถึงเวลาเข้านอน

ก่อนนอนประมาณ 30 นาที ควรทำกิจกรรมที่สงบ เช่น อ่านนิทานให้ลูกฟัง หรือฟังเพลงกล่อมเด็ก พยายามให้ลูกเข้านอนในเวลาที่ใกล้เคียงกันทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวเข้ากับวงจรการนอนหลับ ปรับแสงในห้องให้มืดและเงียบ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการนอนหลับ


2. อดทนให้ลูกร้องจนหลับไปเอง

การฝึกลูกนอนเองต้องใช้เวลาและความอดทน เมื่อลูกน้อยร้องไห้ ให้เข้าไปปลอบโยน เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัยได้ แต่ไม่ต้องอุ้มลูกขึ้นมา จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาในการเข้าไปดูลูกน้อยให้ห่างขึ้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะนอนหลับตลอดคืนได้เร็วขึ้น

 

3. พูดคุยให้กำลังใจ หรือกำหนดรางวัลจูงใจ

การฝึกลูกนอนยาวด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยกับลูกน้อยเบา ๆ สั้น ๆ ด้วยการโต้ตอบกันให้น้อยที่สุด การตบหลังเบา ๆ หรือลูบหลังลูกน้อยเป็นสิ่งที่ทำได้เพื่อให้กำลังใจ แต่ควรหลีกเลี่ยงการอุ้มหรือป้อนนมลูกน้อย เพราะจะทำให้ลูกน้อยเข้าใจผิดว่าการร้องไห้จะได้รับการอุ้มหรือได้รับอาหาร

 

4. ใช้ตุ๊กตา หรือผ้าห่มที่ชอบ ให้อยู่กับลูก

ของเล่นบนเตียงหลาย ๆ ชิ้นอาจไม่ดีเท่ากับของเล่นชิ้นโปรดสักชิ้น ให้ลูกน้อยนอนกอดตุ๊กตาหรือผ้าห่มที่ชอบ เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยและปลอบประโลมให้ลูกรู้สึกอบอุ่นใจ

 

5. เลี่ยงการให้ลูกกินช็อกโกแลต หรือขนมที่มีคาเฟอีน

เด็กเล็กไม่ควรดื่มคาเฟอีน อาจทำให้ลูกนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท แม้ว่าจะดื่มก่อนเข้านอนหลายชั่วโมงก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม เด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน ระยะเวลาในการฝึกลูกนอนยาวของแต่ละคนจะแตกต่างกันด้วย ขอให้คุณพ่อคุณแม่อย่าท้อแท้ การฝึกลูกนอนเองอาจใช้เวลาและความอดทน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าแน่นอน นอกจากนี้ การดูแลลูกน้อยให้นอนหลับได้เองอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยล้าไปบ้าง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 


อ้างอิง:

  1. Baby sleep training: When and how to start, Babycenter
  2. How to Sleep Train Your Baby, Parents
  3. How to Sleep Train Your Baby, The New York Times
  4. How to try the Ferber method of sleep training for your baby, Babycenter
  5. Sleep Training Guide: When and how to start, โรงพยาบาลสมิติเวช
  6. Sleep Tips for Kids of All Ages, WebMD

อ้างอิง ณ วันที่ 7 กันยายน 2567