ลูกหัวแบน ทารกหัวแบน คุณแม่ทำอย่างไรได้บ้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

ลูกหัวแบน ทำยังไงดี พร้อมวิธีแก้ไขเมื่อทารกหัวแบน

11.04.2024

คุณแม่มือใหม่ มักมีความกังวลเรื่องลูก หัวแบน หรือ หัวเบี้ยว อาการเหมือนทรงหัวไม่เท่ากัน กังวลว่าลูกโตมาจะมีปัญหาหรือเปล่า แม้ส่วนใหญ่แล้ว ภาวะลูกหัวแบนจะมักไม่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมอง และพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็ก แต่เด็กที่มีภาวะหัวแบนมักมีภาวะคอเอียงร่วมด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการเจริญเติบโตของเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่ที่พบว่าลูกหัวแบนที่ค่อนข้างรุนแรง ควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์ ลูกหัวแบนอาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การนอนอยู่ท่าเดียวหรือหันข้างเดียวนาน ๆ หรืออาจจะเพราะสาเหตุอื่น ๆ

headphones

PLAYING: ลูกหัวแบน ทำยังไงดี พร้อมวิธีแก้ไขเมื่อทารกหัวแบน

อ่าน 6 นาที

 

สรุป

  • อาการหัวแบนไม่ใช่ความผิดปกติที่จะมีผลต่อการพัฒนาสมอง อาศัยขยันจัดท่าทางของลูกทั้งยามนอนและพาไปไหนด้วย สามารถป้องกันหรือแก้ไขได้
  • ภาวะลูกหัวแบนนั้น มีปัญหามาจากกระดูกที่มาประกอบกันเป็นกะโหลกศีรษะของทารกมีการเชื่อมติดกันผิดปกติก่อนวัย จึงส่งผลให้กระดูกกะโหลกศีรษะของทารกเกิดการผิดรูป ในทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า ภาวะกะโหลกศีรษะเชื่อมติดผิดปกติ (Craniosynostosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ควรได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง หากคุณแม่นั้นมีความกังวลในเรื่องสุขภาพของลูก อาจพาลูกน้อยไปให้คุณหมอช่วยยืนยันว่าอาการหัวแบนที่เห็น ว่ามีผลกระทบ หรือเป็นอันตรายหรือเปล่า
  • หากพบว่าลูกหัวแบน คุณพ่อคุณแม่อาจลองเปลี่ยนทิศ เปลี่ยนท่าทางการหันศีรษะของลูกในขณะที่ลูกนอนหลับอยู่ ด้วยการจัดท่าให้ศีรษะฝั่งที่ไม่แบนแนบลงกับหมอนแทน แต่ต้องระวัดระวังไม่ให้ลูกนอนหลับในท่าคว่ำ เพราะท่านอนคว่ำอาจส่งผลให้ทารกเสี่ยงต่อภาวะ Sudden Infant Death Syndrome หรือเกิดโรคไหลตายได้ ส่วนระหว่างวันในขณะที่ลูกยังตื่นอยู่ ควรช่วยให้ลูกได้เปลี่ยนท่าทางการนอนบ่อย ๆ อาจจะให้เด็กอยู่ในท่านอนคว่ำตัวลง ท้องสัมผัสกับพื้น เพื่อเป็นการฝึกการชันคอของลูกด้วย หรืออุ้มลูกบ่อย ๆ และควรเปลี่ยนท่าให้นมลูกสลับกันไป เพื่อไม่ให้ลูกต้องอยู่ในท่าเดิม ๆ การจัดท่านอนที่เหมาะสมกับทารกนี้ สามารถช่วยป้องกันแก้ไขรูปทรงของศีรษะที่แบนได้
  • หมอนที่สื่อโฆษณาว่าดูแลจัดการเรื่องลูกหัวแบนได้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ เพราะท่านอนที่ปลอดภัยสำหรับทารกแรกเกิดนั้น คือท่านอนหงายโดยไม่ต้องมีหมอนหนุนเลยนะคะ และช่วงอายุที่แนะนำให้ใช้หมอนอยู่ที่ 1 ปีครึ่ง หรือ 2 ปีขึ้นไปค่ะ

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

วิธีสังเกตว่าลูกหัวแบนหรือเปล่า

อาการหัวแบนในทางการแพทย์ สังเกตได้จาก

  • จุดที่แบนบนหัว ด้านหลังหรือด้านข้าง
  • มีขนบริเวณหนึ่งบนหัวที่น้อยลง เป็นสัญญาณเตือนถึงการกดแรง ๆ หรือทิ้งน้ำหนักบ่อยครั้งในจุดดังกล่าว
  • หูหรือหน้าผาก ด้านหนึ่งของหัวมีการเติบโตยื่นออกมาเล็กน้อยด้านหน้า

 

ลูกหัวแบน เป็นอันตรายไหม

ลูกน้อยที่มีหัวแบนอาจไม่เป็นอันตราย อาการนี้โดยมากมีผลแค่กับรูปร่างของหัวเด็กค่ะ

 

ลูกหัวแบน อันตรายไหม คุณแม่จะทำอย่างไรดี

 

ลูกหัวแบน เกิดจากการให้ลูกนอนท่าเดิมจริงไหม

  • นั่นเป็น ‘ความจริง’ การวางลูกน้อยในท่าเดียวกันทุกวัน เช่น นอนหงายหลังหรือหันหัวไปทางขวาหรือซ้าย จะทำให้เกิดแรงกดต่อส่วนเดียวกันของกะโหลกอยู่เรื่อย ๆ ลูกน้อยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการหัวแบน โดยในช่วงเริ่มแรกสี่เดือน ลูกน้อยยังไม่มีความสามารถในการพลิกตัวด้วยตัวเอง
  • อย่างไรก็ตาม ก็ยังแนะนำให้คุณแม่วางลูกน้อยนอนหงายหลังเสมอเพื่อลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตที่เกิดจากการขาดอาการหายใจ
  • อาจลองเปลี่ยนทิศทางการหันศีรษะของลูกในขณะที่ลูกนอนหลับ โดยการจัดท่าทางให้ศีรษะฝั่งที่ไม่แบนแนบกับหมอน แต่ไม่ควรให้ลูกนอนหลับในท่าคว่ำ เนื่องจากท่านอนคว่ำอาจส่งผลให้ทารกเสี่ยงที่จะหายใจไม่ออก หรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคไหลตายได้

 

หัวแบน เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

  • ท่านอนที่ไม่มีการจัดเปลี่ยน นอนท่าเดียวเป็นเวลานาน
  • ขนาดหัวของลูกน้อยขณะอยู่ในมดลูกมีขนาดใหญ่เลยโดนกล้ามเนื้อมดลูกบีบตัว
  • ลูกน้อยที่คลอดก่อนกำหนดหรือผ่าคลอด มีกระดูกกะโหลกที่บางและนุ่มกว่าเด็กแรกเกิดที่คลอดตามกำหนด ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดหัวแบนสูงกว่า
  • เครื่องมือที่ใช้ในการช่วยทำคลอด ออกแรงกดที่ส่งผลถึงรูปหัวของลูกน้อยของคุณแม่
  • กล้ามเนื้อที่คอตึง อาจจะทำให้ยกคอลำบาก และนำไปสู่การหันด้านใดด้านหนึ่งอยู่เป็นปกติ ทำให้เกิดอาการหัวแบนได้

 

ไม่อยากให้ลูกน้อยหัวแบน ป้องกันไว้ก่อนได้ไหม

คุณแม่ไม่สามารถป้องกันการเกิดอาการหัวแบนจากทุกสาเหตุได้ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณแม่สามารถจัดการกับท่านอนของลูกน้อยได้ เป็นวิธีป้องกันหัวแบนที่คุณแม่ทุกคนทำได้แน่นอนค่ะ

  • เปลี่ยนด้านที่วางหน้าของลูกน้อยแนบในแต่ละวัน ทำสลับกันซ้ายบ้างขวาบ้าง
  • หากไม่ได้รับคำแนะนำจากคุณหมอ ไม่ควรวางลูกน้อยในตอนหลับแบบคว่ำหน้า
  • ภายใน 2-3 วันหลังคลอดสามารถจับลูกน้อยนอนคว่ำหน้าตอนที่ลูกน้อยตื่นได้ โดยจับลูกนอนคว่ำหน้า 3-5 นาทีต่อครั้ง แล้วสลับมานอนหงาย สลับไปสลับมาเป็นเวลา 40-60 นาทีต่อวันค่ะ
  • เปลี่ยนท่าในการป้อนนมลูกจากที่ให้นอนบนแขนขวา ก็ให้สลับ ไปนอนบนแขนซ้ายแทนด้วยค่ะ

 

รวมเคล็ดลับและวิธีแก้ไข เมื่อลูกหัวแบน

ถ้าหัวแบนไปแล้วหรือดูทรงว่ากำลังจะมีลักษณะเช่นนั้น ก็ยังพึ่งพาการจัดท่าทางได้อยู่นะคะ แต่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

1. วิธีการปรับท่านอนของลูก

วางลูกน้อยให้หันศีรษะไปที่ด้านตรงข้ามของศีรษะที่แบนลง วางผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าพันรอบไหล่รองตัวลูกด้านหลังและสะโพก วางลูกน้อยเอียงทำมุม 45 องศาเพื่อให้มองไปที่ของเล่นหรือวัตถุที่น่าสนใจด้านตรงข้ามเตียงซึ่งวางไว้เพื่อดึงดูดความสนใจ อย่าวางผ้าใต้ศีรษะรองศีรษะทั้งหมดของลูกรัก เพราะอาจทำให้หายใจไม่ออกได้

 

2. วิธีการป้องกันการกดแรงที่ศีรษะของลูก

เมื่อป้อนอาหารตามวัย หรืออุ้มพาเคลื่อนที่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการกดแรงโดยไม่จำเป็นที่ด้านที่แบนของศีรษะ ปรับเปลี่ยนท่าและด้านที่ลูกน้อยมีการพิงตัวอยู่ตลอดค่ะ

 

ทารกหัวแบนแบบไหน ต้องพาไปพบแพทย์

อาการหัวแบนตามที่กล่าวไปแล้ว แม้อาจไม่มีอันตราย แต่ถ้าคุณแม่กังวล ก็ไม่เสียหายที่จะพาลูกน้อยไปปรึกษากับคุณหมอโดยเฉพาะถ้าอาการหัวแบนไม่คุ้นตาหรือกังวลจริง ๆ เพราะยังมีความผิดปกติที่เรียกว่า Craniosynostosis ที่เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดที่จะทำให้เกิดอาการหัวแบนได้ แต่ว่าศีรษะเบี้ยว หรือสภาพหัวเบี้ยว อาจพบได้ ในเด็กทุก ๆ 2,000 ถึง 2,500 คน จะมีโอกาสที่เด็กเกิดมาพร้อมกับอาการนี้หนึ่งคนค่ะ

 

ลูกหัวแบน ควรใช้หมอนแบบไหน

  • ไม่มีหมอนที่ปลอดภัยจริง ๆ สำหรับลูกน้อย
  • อายุที่เหมาะสำหรับการใช้หมอนจริง ๆ คือเมื่ออายุมากกว่า 2 ปี เมื่อลูกน้อยสามารถเคลื่อนที่ไปมา พลิกตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่ช่วย
  • คุณหมอแนะนำว่าให้วางลูกน้อยบนฟูกที่มีความแข็งอยู่ตัวโดยไม่มีหมอน
  • ไม่มีหมอนที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่าสามารถดูแลอาการหัวแบนได้จริง ๆ
  • อาการหัวแบนเกิดขึ้นได้ และไม่มีความผิดปกติหลงเหลือให้เห็นในกรณีทั่วไปเมื่อโตขึ้น คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจ เมื่อลูกน้อยโตพอแล้ว ค่อยหาหมอนที่เหมาะสมให้ลูก เน้นที่ขนาดเล็กพอเหมาะและมีความแน่น นอนได้สบาย

 

คุณแม่มั่นใจได้เลยนะคะว่าอาการหัวแบนไม่เกินกว่ากำลังคุณแม่จะจัดการดูแลเบื้องต้นด้วยตัวเอง โดยลงมือได้เลย เริ่มใส่ใจกับท่าทางของลูกน้อยระหว่างการนอนหลับ ส่งเสริมพัฒนาการความแข็งแรงของคอให้เจ้าตัวเล็ก ด้วยการปล่อยให้เขานอนคว่ำตัวลงตอนตื่นบ่อย ๆ แต่ถ้าสังเกตดูแล้วยังกังวลอยู่จริง ๆ ควรปรึกษาคุณหมอ ยิ่งเริ่มเร็วในการดูแลจัดท่าทางการนอนให้ก็จะยิ่งดี และหลีกเลี่ยงการใช้หมอนที่โฆษณาเกินจริง ก็จะทำให้สบายใจในทุก ๆ วันที่ใช้เวลาด้วยกันกับลูกค่ะ

 

บทความแนะนำสำหรับพัฒนาการลูกน้อย

 

 

อ้างอิง:

  1. An Overview of Flat Head Syndrome, Verywell Health
  2. Understanding Flat Head Syndrome (Plagiocephaly) in Babies, Healthline
  3. If Your Baby's Head Looks Flat, It Could Be A Treatable Condition Called Positional Plagiocephaly, ScienceDaily
  4. Is it safe to let a baby sleep with a pillow?, WebMD
  5. Do Not Use Infant Head Shaping Pillows to Prevent or Treat Any Medical, FDA
  6. ทำไมลูกหัวแบน ทำอย่างไรให้ลูกหัวสวย, pobpad
  7. กะโหลกศีรษะเชื่อมติดผิดปกติ (CRANIOSYNOSTOSIS), pobpad
  8. ความหมาย โรคไหลตายในเด็ก, pobpad
  9. ท่าให้นมลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่, pobpad
  10. ควรเริ่มฝึกให้ ลูกนอนหนุนหมอน เมื่อไหร่ดี, hellokhunmor

อ้างอิง ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567

บทความแนะนำ

ตุ่มใสที่นิ้วอันตรายไหม ลูกมีตุ่มใสขึ้นที่มือคัน คุณแม่รับมือยังไงดี

ตุ่มใสที่นิ้วอันตรายไหม ลูกมีตุ่มใสขึ้นที่มือคัน คุณแม่รับมือยังไงดี

ตุ่มใสที่นิ้วลูก เกิดจากอะไร ลูกมีตุ่มใสที่มือคัน อันตรายไหม คุณพ่อคุณแม่จะรับมืออย่างไร หากลูกมีตุ่มใส ๆ ที่มือ พร้อมวิธีบรรเทาตุ่ม ใสที่นิ้ว

ลูกถ่ายวันละ 3-4 ครั้งปกติไหม ลูกถ่ายกะปริบกะปรอย อันตรายหรือเปล่า

ลูกถ่ายวันละ 3-4 ครั้งปกติไหม ลูกถ่ายกะปริบกะปรอย อันตรายหรือเปล่า

ลูกถ่ายวันละ 3-4 ครั้งปกติไหม หากลูกถ่ายกะปริบกะปรอยบ่อย ๆ ทุกวัน อันตรายกับลูกน้อยหรือเปล่า อาการถ่ายบ่อยของลูกแบบไหนที่คุณแม่ควรรีบพาไปพบแพทย์

เปลี่ยนชื่อลูกทำยังไง เปลี่ยนชื่อลูกในสูติบัตร มีขั้นตอนอย่างไร

เปลี่ยนชื่อลูกทำยังไง เปลี่ยนชื่อลูกในสูติบัตร มีขั้นตอนอย่างไร

อยากเปลี่ยนชื่อลูกทำยังไง เปลี่ยนชื่อลูกในสูติบัตรต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อลูกยังไง ไปดูเอกสารที่ต้องเตรียมและขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อกัน

ลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก เป็นเพราะอะไร เป็นสัญญาณอันตรายไหม

ลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก เกิดจากอะไร อันตรายกับลูกน้อยไหม

อาการลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกน้อยให้ดี เมื่อลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูก

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก