
เสียงหัวใจเด็กในครรภ์บอกอะไรได้บ้าง การฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์
จริงหรือเปล่า? เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ จะมีจังหวะการเต้นดังเหมือนเสียงม้าควบ และเต้นเร็วเฉลี่ย 110 ถึง 160 ครั้งต่อนาที บทความนี้จะมาไขคำตอบเกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ ว่าทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับการฟังเสียงหัวใจรวมถึงเมื่อไหร่ถึงเริ่มได้ยินเสียงหัวใจของลูกน้อย
สรุป
- เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ปกติจะเต้นเร็วโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระหว่าง 110 ถึง 160 ครั้งต่อนาที และมีจังหวะการเต้นเหมือนเสียงม้าควบ
- เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ที่ตรวจแล้วไม่ได้ยิน อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักตัวของคุณแม่ ตำแหน่งของทารกในครรภ์ และการมีน้ำคร่ำมากเกินไป เป็นต้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ คืออะไร
- ทำไมต้องมีการฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์
- ทารกในครรภ์มีหัวใจตอนกี่สัปดาห์ เริ่มได้ยินตอนไหน
- เสียงหัวใจเด็กในครรภ์เป็นยังไง
- เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ปกติเท่าไหร่
- หัวใจของทารกในครรภ์เต้นพร้อมกับคุณแม่ไหม
- หัวใจทารกในครรภ์เต้นเร็ว ถือว่าอันตรายไหม
- ตำแหน่งที่คุณพ่อ คุณแม่ฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ได้
- วิธีฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์
- สาเหตุที่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจเด็กในครรภ์
เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ คืออะไร
เสียงหัวใจ (Heart sound) คือเสียงที่เกิดขึ้นขณะลิ้นหัวใจปิด ซึ่งเสียงหัวใจปกติจะมีอยู่ 2 เสียง คือ เสียง 1(S1) กับเสียง 2(S2) และเต้นเสียงดังตุบ ๆ (lubb-dupp) ในจังหวะที่สม่ำเสมอ สำหรับเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ เริ่มต้นพัฒนาขึ้นเมื่อคุณแม่อายุครรภ์ได้ 4 สัปดาห์ ที่มีการรวมตัวของกลุ่มเซลล์ขึ้นภายในตัวอ่อน (embryo) แล้วพัฒนาไปเป็นหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดให้กับทารก และต่อมาในสัปดาห์ที่ 5 โครงสร้างเบื้องต้นก็จะพัฒนามาเป็นหัวใจของทารกพร้อมเริ่มเต้นเป็นจังหวะโดยธรรมชาติ
ทำไมต้องมีการฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์
การฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ ก็เพื่อเป็นการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ Nonstress Test (NST) โดยที่แพทย์จะคัดกรองสุขภาพให้กับทารกในครรภ์ด้วยการวัดอัตราการเต้นหัวใจขณะที่ทารกดิ้น เพื่อประเมินการได้รับออกซิเจนของทารกว่าได้รับอย่างเพียงพอหรือไม่ สำหรับการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ Nonstress Test แพทย์จะทำการตรวจให้คุณแม่หลังจากอายุครรภ์ครบ 28 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นช่วงที่หัวใจจะมีการเต้นตอบสนองขณะทารกดิ้น
ทารกในครรภ์มีหัวใจตอนกี่สัปดาห์ เริ่มได้ยินตอนไหน
เมื่อคุณแม่อายุครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ กลุ่มเซลล์ที่จะแปรสภาพเป็นหัวใจของทารกเริ่มพัฒนาขึ้นและเริ่มเต้นเป็นจังหวะ ซึ่งหากสูตินรีแพทย์ตรวจอัลตราซาวนด์ให้กับคุณแม่ในช่วงไตรมาสแรก (ประมาณสัปดาห์ที่ 6 หรือหลังจากนั้น) ก็อาจเป็นไปได้ว่าจะได้ ตรวจดูลักษณะกิจกรรมการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ การอัลตราซาวนด์ยังยืนยันได้วันครบกำหนดคลอดโดยประมาณ รวมถึงจำนวนทารกที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อีกด้วย
เมื่ออายุครรภ์ได้สัปดาห์ที่ 17 ถึง 20 จำนวนห้องต่าง ๆ ของหัวใจทารกจะพัฒนาเพียงพอที่จะมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในอัลตราซาวนด์ แต่หากมีการอัลตราซาวนด์ตอนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ (เรียกว่า อัลตราซาวนด์ระดับ 2) คุณแม่จะได้เห็นและได้ยินเสียงเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
เสียงหัวใจเด็กในครรภ์เป็นยังไง
น่าตื่นเต้นที่จะได้ยินเสียงหัวใจเด็กในครรภ์เป็นครั้งแรก สำหรับเสียงหัวใจเล็ก ๆ ของทารกในครรภ์จะเต้นดังเหมือนเสียงม้าควบ ซึ่งหากคุณแม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังวูบ นั่นไม่ใช่เสียงหัวใจเต้น แต่อาจเกิดจากการเคลื่อนไหวหรือเกิดจากเครื่องตรวจเคลื่อนที่ผ่านรกของคุณแม่ และถ้าได้ยินเสียงเต้นของหัวใจสองครั้ง อย่าเพิ่งสรุปว่ามีลูกแฝด เพราะเสียงหัวใจเต้นที่ได้ยินนั้นอาจเป็นเสียงหัวใจของคุณแม่เอง
เสียงหัวใจเด็กในครรภ์ปกติเท่าไหร่
อัตราการเต้นของเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ปกติจะเต้นเร็วโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระหว่าง 110 ถึง 160 ครั้งต่อนาที โดยอาจมีการแปรผันได้ 5 ถึง 25 ครั้งต่อนาที อัตราการเต้นของหัวใจทารกอาจเปลี่ยนแปลงตามการตอบสนองของทารกต่อสภาวะในมดลูก หากพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจทารกไม่ปกติ อาจหมายความว่าทารกไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ หรือมีปัญหาอื่น ๆ เกิดขึ้นได้ ซึ่งสูตินรีแพทย์จะเป็นผู้ตรวจและประเมินเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ว่าปกติ หรือไม่ปกติให้กับคุณแม่ในการตรวจสุขภาพครรภ์
หัวใจของทารกในครรภ์เต้นพร้อมกับคุณแม่ไหม
มีผลการศึกษาเผยให้เห็นว่าระหว่างการเต้นของหัวใจแม่และทารกในครรภ์นั้นสอดคล้องกัน แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่แม่หายใจเป็นจังหวะเท่านั้น ทารกในครรภ์สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงจังหวะการเต้นของหัวใจของแม่ และปรับการเต้นหัวใจของตนเองให้เข้ากับจังหวะนั้นได้ สำหรับการหายใจตามปกติทั่วไป จะเป็นการหายใจตื้น ๆ ส่วนการหายใจเป็นจังหวะ จะเป็นการฝึกลมหายใจให้เข้าและออกอย่าง ช้า ๆ ลึก ๆ ซึ่งการหายใจเป็นจังหวะจะทำให้หัวใจเต้นช้าลง
หัวใจทารกในครรภ์เต้นเร็ว ถือว่าอันตรายไหม
หากหัวใจของทารกในครรภ์เต้นเร็ว (Fetal tachycardia) ถือเป็นการเต้นของหัวใจผิดปกติประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ (fetal arrhythmia) โดยจะเกิดขึ้นกับทารกที่อยู่ในระยะกำลังพัฒนา ซึ่งจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่า 180 ครั้งต่อนาที สำหรับภาวะหัวใจเต้นเร็วของทารกในครรภ์นี้พบได้น้อย มักเกิดขึ้นชั่วคราวและไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตามในบางกรณีทารกอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาภาวะแทรกซ้อนอันตรายจากการเต้นเร็วของหัวใจ เช่น ภาวะทารกบวมน้ำ (hydrops fetalis) สาเหตุเกิดจากมีสารน้ำเข้าไปสะสมมากผิดปกติตรงเนื้อเยื่อหรือช่องว่างในร่างกาย เช่น น้ำในช่องปอด น้ำในช่องท้องหรือ น้ำในช่องหัวใจ ฯลฯ ทำให้ทารกบวมน้ำทั้งตัว
ตำแหน่งที่คุณพ่อ คุณแม่ฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ได้
ตำแหน่งเสียงหัวใจทารกจะดังที่สุดตรงบริเวณหน้าอกส่วนบนหรือตรงหลังส่วนบนของทารก ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าขณะที่ฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ทารกได้มีการหันหน้าไปทางไหน สำหรับการฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์อาจต้องฟังในหลายตำแหน่งบนหน้าท้องของคุณแม่ เพื่อให้พบจุดที่เสียงหัวใจดังและชัดเจนที่สุด
- ตำแหน่งเหนือหรือต่ำกว่าสะดือ: หากคุณแม่ฟังเสียงหัวใจลูกจากตำแหน่งเหนือหรือต่ำกว่าสะดือ แล้วได้ยินเสียงหัวใจดังที่สุดบริเวณหน้าท้องช่วงต่ำกว่าสะดือ แสดงว่าลูกอยู่ในท่าเอาศีรษะลง แต่ถ้าหากฟังเสียงหัวใจได้ดังที่สุดตรงบริเวณหน้าท้องที่อยู่เหนือสะดือขึ้นมา แสดงว่าลูกอาจอยู่ในท่าเอาก้นลง
ทั้งนี้การฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ ด้วยเครื่องตรวจคลื่นเสียงทารกในครรภ์(Doppler) คุณแม่ไม่สามารถใช้เครื่องตรวจคลื่นเสียงทารกในครรภ์ที่บ้านแทนการไปพบแพทย์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง อาจจะใช้ระหว่างการไปพบแพทย์ แต่ไม่ใช่ใช้แทนการไปพบแพทย์ สำหรับเครื่องตรวจคลื่นเสียงทารกในครรภ์ (Doppler) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสุขภาพครรภ์โดยแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ที่ได้รับการฝึกอบรม ที่รู้ถึงวิธีการใช้ และเสียงที่ได้ยินจากการใช้เครื่องตรวจคลื่นเสียงทารกในครรภ์หมายถึงอะไร รู้ว่าอะไรที่น่าเป็นห่วง หรือไม่น่าเป็นห่วง ดังนั้นการฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ ควรได้รับการตรวจโดยแพทย์ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความแม่นยำและมีความปลอดภัย และหากคุณแม่มีความกังวลใจ หรือข้อสงสัยจากการฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ ก็ยังสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ได้ทันที
วิธีฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์
วิธีฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ คือการตรวจติดตามหัวใจของทารกในครรภ์ (External Fetal Heart Monitoring) จากภายนอก โดยมีแพทย์เป็นผู้ตรวจให้ สำหรับขั้นตอนการตรวจเริ่มแรกจะให้คุณแม่นอนหงายลงบนเตียงตรวจ แพทย์จะมีการทาเจลใสลงบนหน้าท้องคุณแม่ จากนั้นจะกดเครื่องตรวจจับสัญญาณเสียง (Transducer) ให้เคลื่อนไหวไปมาบนผิวหนังหน้าท้องเพื่อตรวจหาชีพจรของทารก ซึ่งคุณแม่จะสามารถได้ยินเสียงอัตราการเต้นของหัวใจทารกผ่านเครื่องตรวจคลื่นเสียงทารกในครรภ์ (Doppler) หรือจอภาพอิเล็กทรอนิกส์
สาเหตุที่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจเด็กในครรภ์
สำหรับสาเหตุที่ตรวจติดตามอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ แล้วไม่ได้ยินเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ อาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยบางอย่าง เช่น
- น้ำหนักตัวของแม่
- ตำแหน่งของทารกหรือแม่
- น้ำคร่ำมากเกินไป หรือน้ำคร่ำมากเกินปกติ (Polyhydramnios)
- ปากมดลูกไม่เปิดหรือถุงน้ำคร่ำไม่แตก
การฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ เป็นการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ เพื่อผลการตรวจที่ถูกต้องควรได้รับการตรวจจากสูตินรีแพทย์ ทั้งนี้หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการตรวจติดตามอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์ที่ดูแลครรภ์คุณแม่อีกครั้ง เพื่อขอรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพครรภ์ที่เหมาะสมตลอดการตั้งครรภ์ สำหรับว่าที่คุณแม่คนใหม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เพื่อไม่ให้พลาดทุกช่วงพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ตลอด 9 เดือน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.s-momclub.com/member-privilege
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ แนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพราะในนมแม่มีสารอาหารสำคัญที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อลูกน้อยมากกว่า 200 ชนิด รวมทั้ง แอลฟา-แล็คตัลบูมิน และ สฟิงโกไมอีลิน ซึ่งช่วยในพัฒนาการสมอง สติปัญญา และการเจริญเติบโตให้กับลูกน้อย
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- Health check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อย
- จุกหลอก ดีกับลูกน้อยจริงไหม จุกนมหลอก ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง
- สายสะดือทารก สะดือใกล้หลุดเป็นแบบไหน พร้อมวิธีทำความสะอาด
- กลากน้ำนม เกิดจากอะไร โรคผิวหนังในเด็ก พร้อมวิธีดูแลเกลื้อนน้ำนม
- ลูกเลือดกำเดาไหลตอนกลางคืน อันตรายไหม พ่อแม่รับมืออย่างไรดี
- วิธีห่อตัวทารกที่ถูกต้อง ให้ลูกน้อยสบายตัว เหมือนอยู่ในท้องแม่
- โรคซางในเด็กเล็กมีจริงไหม เกิดจากอะไร ดูแลและป้องกันได้หรือเปล่า
- ลูกหัวแบน ทารกหัวแบน คุณแม่ทำอย่างไรได้บ้าง พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น
- วิธีบรรเทาอาการไอของลูกน้อย เมื่อลูกไอไม่หยุด พร้อมวิธีดูแลและป้องกัน
- วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด อาการทารกเป็นไข้ ทารกตัวร้อน พร้อมวิธีวัดไข้
- นิทานเด็กทารกสำคัญกับลูกไหม คุณแม่ควรอ่านเรื่องอะไรให้ลูกน้อยฟังดี
อ้างอิง:
- When can I hear my baby's heartbeat?, babycenter
- เมื่อลูกน้อยตรวจพบเสียงฟู่ของหัวใจ (Heart murmur), โรงพยาบาลกรุงเทพ
- Your Baby’s Heartbeat, what to expect
- ตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ (NST) ขั้นตอน และผลตรวจ, โรงพยาบาล MedPark
- Fetal Heart Monitoring, JOHNS HOPKIN MEDICINE The Johns Hopkins University
- Synchronisation between mother and foetus heartbeats understood for the first time, Aberdeen University
- Fetal Tachycardia, Cincinnati Children's Hospital Medical Center
- ภาวะทารกบวมน้ำ (Hydrops fetalis), คณะแพทย์สติศาสตร์ล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- Finding the baby’s position by listening to the heartbeat, OpenLearn Create The Open University
- What You Need to Know About Using a Fetal Doppler at Home, healthline
- ฝึกการหายใจ ผ่อนคลายความเครียด, โรงพยาบาลราชวิถี
อ้างอิง ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2567