อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง คืออะไร พร้อมวิธีเช็กอาการตัวเอง

อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง พร้อมวิธีเช็กอาการตัวเอง

23.08.2024

อาการมโนว่าท้อง ท้องหลอก ท้องทิพย์ อาการนี้มีอยู่จริง ที่ในทางการแพทย์เรียกว่า Spurious Pregnancy หรือ Pseudocyesis อาการที่คุณผู้หญิงรู้สึกว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง แต่ในความเป็นจริงไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น อาการมโนว่าท้องจัดเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ 

headphones

PLAYING: อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง พร้อมวิธีเช็กอาการตัวเอง

อ่าน 6 นาที

 

สรุป

  • อาการมโนว่าท้อง ท้องหลอก ท้องทิพย์ ในทางการแพทย์เรียกว่า (Pseudocyesis) เป็นอาการผิดปกติทางจิต ที่เกิดจากความเครียดในการอยากมีลูก
  • อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง จะมีอาการแสดงเหมือนกับอาการคนท้องปกติทั่วไป เช่น ประจำเดือนขาด คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกคัดตึงเต้านม ปัสสาวะบ่อย และรู้สึกว่ามีลูกกำลังดิ้นอยู่ในท้อง

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

รู้สึกเหมือนท้อง แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ท้อง เคยไหม รู้สึกว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ มีอาการแพ้ท้อง ท้องโต คัดตึงเต้านม ประจำเดือนขาด รู้สึกเหมือนลูกดิ้นในท้อง แต่พอไปตรวจกับคุณหมอ กลับไม่พบการตั้งครรภ์ อาการเหล่านี้คือ "ภาวะท้องหลอก” (Pseudocyesis) นั่นเอง ภาวะนี้พบได้ไม่บ่อย แต่ก็สร้างความสับสนและกังวลให้กับผู้หญิงที่ประสบอยู่ไม่น้อย วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัย ล้วงลึกถึงสาเหตุ อาการมโนว่าท้องกัน

 

อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง คืออะไร

อาการมโนว่าท้อง หรือ ท้องหลอก ท้องทิพย์ ทางการแพทย์เรียกว่า Spurious Pregnancy หรือ Pseudocyesis ถือเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ในผู้หญิงที่มีอาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง มักจะมีอาการทุกอย่างเหมือนคนท้อง ซึ่งสาเหตุของอาการท้องหลอก เกิดขึ้นมาจากสภาพทางจิตใจ ที่มีความเครียดเพราะอยากมีลูก แต่ไม่มีลูก ไม่ท้องสักที ความเครียดที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบทำให้ต่อมใต้สมองสร้างฮอร์โมนมากระตุ้นที่รังไข่ พอรังไข่ถูกกระตุ้น รังไข่ก็จะสร้างฮอร์โมนเพื่อไปกระตุ้นมดลูกทำให้ผนังมดลูกเกิดการหนาตัวขึ้นทำให้ไม่มีประจำเดือน พอไม่มีประจำเดือนก็คิดไปว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์

 

อาการมโนว่าท้อง จำเป็นต้องพบแพทย์ไหม

สำหรับผู้หญิงที่มีอาการมโนว่าท้อง จะมีอาการคนท้องเริ่มแรก เหมือนกับคนท้องปกติ ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน คัดตึงเต้านมทั้งสองข้าง ประจำเดือนไม่มา รู้สึกว่าตัวเองมีขนาดท้องโตขึ้น หรือในบางคนก็คิดว่าลูกกำลังดิ้นอยู่ในท้อง ในผู้หญิงที่มีอาการท้องหลอกเกิดขึ้น แนะนำให้ไปโรงพยาบาลพบแพทย์ เพื่อจะได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริงหรือไม่ เนื่องจากอาจเป็นการเจ็บป่วยที่มีอาการแสดงเหมือนกับการตั้งครรภ์ อาทิเช่น โรคของต่อมใต้สมองที่อาจมีการสร้างฮอร์โมนบางชนิดมากเกินไป หรือในคนที่กินยารักษาโรค เช่น ยากันชัก และยารักษาอาการนอนไม่หลับ เป็นต้น ซึ่งควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด

 

ประจำเดือนไม่มาหลายเดือน จะท้องไหม

ผู้หญิงที่สังเกตตัวเองว่าประจำเดือนไม่มา 1-2 เดือน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นหรือไม่ แพทย์อาจจะใช้การตรวจภายใน ซึ่งหากตรวจภายในแล้วพบว่าช่องคลอดและปากมดลูกมีสีม่วงคล้ำจากการที่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก และมดลูกโตจนคลำได้ชัดเจน แสดงว่าอาจมีการตั้งครรภ์ หรือถ้าหากตรวจภายในแล้วได้ผลที่ไม่ชัดเจนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ แพทย์จะใช้วิธีการตรวจด้วยผลเลือดอีกครั้ง

 

สังเกตอาการให้ชัวร์ ท้องจริง หรือท้องทิพย์

 

สังเกตอาการให้ชัวร์ ท้องจริง หรือท้องทิพย์

1.    อาการท้องจริง หรือ (Symptoms of pregnancy) เป็นอาการเริ่มแรกที่เกิดขึ้น 1-2 สัปดาห์หลังจากประจำเดือนไม่มาในรอบการมีประจำเดือนปกติ ได้แก่

 

2.    อาการท้องทิพย์ (Pseudocyesis) เป็นอาการผิดปกติทางจิต ที่มาจากความเครียดมากในการอยากมีลูก ซึ่งจะทำให้รู้สึกมีอาการเหมือนกับคนท้องปกติ ได้แก่

  • ปัสสาวะบ่อย
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ประจำเดือนขาด
  • รู้สึกคัดตึงเต้านม
  • รู้สึกว่ามีลูกกำลังดิ้นในท้อง
  • รู้สึกว่ามีขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้น

 

ในผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และรู้สึกเหมือนมีอาการตั้งครรภ์ขึ้น เพื่อให้แน่ใจได้ว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ ก็จะทราบผลที่ถูกต้องและชัวร์กว่าค่ะ

 

อาการแบบไหน ที่บ่งบอกว่าเริ่มตั้งครรภ์

อาการคนท้องเริ่มแรกที่บ่งชี้ว่ามีการตั้งครรภ์ เป็นอาการแสดงที่เกิดขึ้น 1-2 สัปดาห์ หลังจากที่ประจำเดือนขาดไป คุณแม่สามารถสังเกตตัวเองได้ดังนี้

  • รู้สึกคัดตึงที่เต้านม
  • เลือดออกกะปริดกะปรอย
  • รู้สึกอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน แพ้ท้อง
  • ตกขาวมากกว่าปกติ
  • รู้สึกปวดหน่วงที่ตรงบริเวณท้องน้อย
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
  • ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ

 

วิธีตรวจครรภ์ที่ถูกต้อง ป้องกันอาการมโนว่าท้อง

เช็กให้แน่ใจว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริงหรือไม่ สามารถทดสอบหาฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ การตรวจครรภ์ด้วยตัวเองโดยใช้อุปกรณ์ทดสอบการตั้งครรภ์ และการตรวจครรภ์โดยแพทย์

  1. การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง ใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ หรือที่ตรวจครรภ์ จะทดสอบด้วยการใช้ปัสสาวะของคุณแม่ ซึ่งที่ตรวจครรภ์จะมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ แบบปัสสาวะแบบปล่อยผ่าน แบบหยด หรือแบบตลับ และ แบบแถบจุ่ม สำหรับการแสดงผลของชุดตรวจครรภ์หากขึ้น 2 ขีด (ขีด C และ T) คือ ผลบวก แสดงว่า มีโอกาสตั้งครรภ์ และ ขึ้นขีดเดียวที่ขีด C คือ ผลลบ แสดงว่า ไม่มีการตั้งครรภ์
  2. การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยแพทย์ เป็นการตรวจหาค่าฮอร์โมน hCG ด้วยการตรวจเลือด ซึ่งจะใช้เวลาในการรอผลตรวจประมาณ 1-2 ชั่วโมง การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยแพทย์เป็นวิธีที่บอกผลการตั้งครรภ์ได้แม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์

 

ในคู่รัก หรือคู่แต่งงาน หากฝ่ายหญิงมีอาการท้องหลอก ท้องทิพย์ กังวลไปเองว่าท้อง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาการมโนว่าท้องเป็นอาการผิดปกติทางจิต ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษาสภาวะทางจิตใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติและมีความสุข จะได้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์จริงตามที่ตั้งใจไว้ให้ประสบผลสำเร็จ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. ท้องลม...ท้องหลอก, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  2. ท้องลม (Blighted Ovum) คืออะไร?, โรงพยาบาลพระราม 9
  3. อาการคนท้อง ระยะแรก ยืนยันว่าคุณตั้งครรภ์แล้วแน่ๆ, สมาคมแพทย์สตรี
  4. 18 อาการคนท้องเริ่มแรก ข้อสังเกต วิธียืนยันการตั้งครรภ์, โรงพยาบาล MedPark
  5. ท้องไม่ท้อง รู้ให้แน่ ด้วยการตรวจครรภ์หาค่าเอชซีจี (hCG), โรงพยาบาลนครธน

อ้างอิง ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2567

บทความแนะนำ

รกเกาะต่ำเกิดจากอะไร อันตรายแค่ไหน สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

รกเกาะต่ำเกิดจากอะไร อันตรายแค่ไหน สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

รกเกาะต่ำเกิดจากอะไร คุณแม่มีภาวะรกเกาะต่ำ อันตรายไหม แม่ท้องจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองมีภาวะรกเกาะต่ำ พร้อมวิธีสังเกตอาการและวิธีป้องกันรกเกาะต่ำในคนท้อง

คนท้องเป็นริดสีดวงอันตรายไหม แม่ท้องเป็นริดสีดวงสังเกตยังไง

คนท้องเป็นริดสีดวงอันตรายไหม แม่ท้องเป็นริดสีดวงสังเกตยังไง

แม่ท้องเป็นริดสีดวง เกิดจากอะไร คุณแม่ท้องจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเป็นริดสีดวง พร้อมวิธีสังเกตริดสีดวงคนท้อง พร้อมวิธีป้องกันริดสีดวงคนท้องระหว่างตั้งครรภ์

เข็มขัดพยุงครรภ์ควรใช้ตอนไหน ใช้เข็มขัดพยุงครรภ์อันตรายไหม

เข็มขัดพยุงครรภ์ควรใช้ตอนไหน ใช้เข็มขัดพยุงครรภ์อันตรายไหม

เข็มขัดพยุงครรภ์คืออะไร เข็มขัดพยุงครรภ์ดีไหม จำเป็นกับคุณแม่ตั้งครรภ์จริงหรือเปล่า คุณแม่ท้องควรเริ่มใส่เข็มขัดพยุงครรภ์ตอนอายุครรภ์กี่เดือน

ท้องแฝดเกิดจากอะไร คุณแม่ตั้งท้องแฝดอันตรายจริงไหม

ท้องแฝดเกิดจากอะไร คุณแม่ตั้งท้องแฝดอันตรายจริงไหม

คุณแม่ตั้งครรภ์ท้องแฝดยากไหม เกิดจากอะไร ตั้งครรภ์ท้องแฝดสี่ยงอันตรายจริงหรือเปล่า ลูกแฝดเกิดจากอะไรได้บ้าง พร้อมวิธีเตรียมตัวมีลูกแฝดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก