คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

31.10.2024

น้ำขิง ถือเป็นเครื่องดื่มแนะนำสำหรับคนท้อง ที่มีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีเหมาะกับช่วงตั้งท้อง ช่วยแก้อาการแพ้ท้อง ขับลม และทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่ดีมีประโยชน์เหมาะสำหรับคนท้องมากมาย แต่ก็มีข้อที่ควรระวังด้วยเช่นกัน เพราะขิงเป็นพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน อาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายของคนท้องสูงขึ้น ส่งผลต่อทารกในครรภ์ บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจประโยชน์และโทษของขิงให้คุณแม่ได้ทราบกัน

headphones

PLAYING: คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

อ่าน 5 นาที

 

สรุป

  • คุณแม่ท้องสามารถกินน้ำขิงได้ เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย และมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้
  • สรรพคุณของน้ำขิง อาทิ แก้ท้องอืดบรรเทาอาการคลื่นไส้ และเวียนศีรษะ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคหวัด และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
  • ข้อควรระวังสำหรับคุณแม่ท้องในการกินน้ำขิง ไม่ควรรับประทานเข้มข้นจนเกินไป เพราะร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น จนอาจส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์ รวมถึงระวังระดับน้ำตาลในน้ำขิงเพื่อป้องกันภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม ส่งผลอะไรกับลูกหรือเปล่า

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม คุณแม่ท้องสามารถกินน้ำขิงได้ เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส รวมถึงเส้นใยและโปรตีน แต่เนื่องจากขิงมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน มีความเผ็ดร้อน ซึ่งหากคุณแม่ท้องรับประทานในปริมาณมากหรือแบบเข้มข้นจนเกินไป จะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนรู้สึกไม่สบายตัวได้ จนอาจส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์ เมื่อร่างกายคนท้องมีอุณหภูมิสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรืออาจทำให้คลอดก่อนกำหนด ได้ คุณแม่ท้องจึงควรกินน้ำขิงในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไปในแต่ละครั้ง

 

น้ำขิง มีสรรพคุณอะไรบ้าง ดีต่อคุณแม่ท้องยังไง

ขิงเป็นสมุนไพรที่สามารถนำไปประกอบอาหาร หรือรับประทานโดยตรงได้ ซึ่งมีสรรพคุณที่ดีต่าง ๆ มากมาย ดังนี้

1. ช่วยขับลม แก้ท้องอืด

เนื่องจากขิงมีสรรพคุณช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดอาการท้องอืดของคนท้องได้

 

2. บรรเทาอาการแพ้ท้อง

ขิงช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ และเวียนศีรษะและอาการแพ้ท้อง ได้ จึงทำให้อาการแพ้ท้องดีขึ้น

 

3. ลดคอเลสเตอรอล

พบว่าขิงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ควรระมัดระวังในการกินขิงสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะอาจทำให้ระดับอินซูลินลดลงผิดปกติจนก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานขิงสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

 

4. ลดการอักเสบ

มีผลการศึกษาพบว่าขิงช่วยสกัดฮอร์โมนที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบ ซึ่งช่วยให้ลดความเจ็บปวดจากโรคไมเกรน หรืออาการไขข้ออักเสบ จนถึงโรคข้อเข่าเสื่อมให้มีอาการดีขึ้นได้

 

5. ป้องกันโรคหวัด

เพราะขิงมีสรรพคุณเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จึงช่วยป้องกันอาการหวัด อาการระคายคอ

 

6. กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตของคนท้องทำงานได้ดี ทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายลง

 

คุณแม่ท้องกินน้ำขิงทุกวันได้ไหม ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า

คุณแม่ท้องสามารถกินน้ำขิงได้ทุกวัน เพราะช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย และคลื่นไส้ได้ดี รวมถึงช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น คุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เข้มข้นจนเกินไป และเป็นสูตรไม่มีน้ำตาลหรือน้ำตาลน้อยเพราะอาจทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงจนไม่สบายตัว ส่งผลต่อการเต้นผิดปกติของหัวใจและระคายเคืองกระเพาะอาหาร จนถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจส่งผลอันตรายต่อการตั้งครรภ์ ฉะนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ขิงเพื่อช่วยลดการแพ้ท้อง

 

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม กินน้ำขิงช่วงเวลาไหนดีต่อสุขภาพ

 

คนท้องกินน้ำขิงได้ไหม กินน้ำขิงช่วงเวลาไหนดีต่อสุขภาพ

คุณแม่ท้องคงทราบดีเกี่ยวกับข้อดีของการดื่มน้ำขิงต่าง ๆ มากมาย แต่อาจมีคำถามเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกินน้ำขิงอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งแนะนำเป็น 2 ช่วงเวลานี้

  • ช่วงเช้า เนื่องจากขิงมีสรรพคุณในการกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยขับลม ทำให้ลดอาการท้องอืด จึงช่วยในการย่อยหลังอาหารมื้อเช้าได้
  • เวลาแพ้ท้อง เพราะจะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อีกทั้งฤทธิ์ร้อนของขิง ช่วยให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่น ระบบไหลเวียนเลือดที่ดี ก็จะทำให้คุณแม่ท้องผ่อนคลายสบายตัวมากยิ่งขึ้น

 

คุณแม่กินน้ำขิงได้ไหม มีอะไรบ้างที่คุณแม่ต้องระวัง

ขิงมีประโยชน์และสรรพคุณมากมายที่เหมาะสมกับคนท้อง แต่การรับประทานน้ำขิง ก็มีข้อควรระวังเพื่อให้คุณแม่ท้องได้รับคุณค่าจากขิงอย่างแท้จริง ดังนี้

  1. ระวังน้ำตาลในน้ำขิง เนื่องจากน้ำขิงสำเร็จรูปหาซื้อได้ง่าย และสะดวกในการพกพาเพราะแค่ชงกับน้ำร้อนก็สามารถดื่มได้ทันที แต่การเลือกซื้อน้ำขิงสำเร็จรูป คุณแม่ท้องควรสังเกตปริมาณน้ำตาล โดยเลือกขิงผงที่ไม่มีน้ำตาลหรือเป็นสูตรน้ำตาลน้อย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงภาวะเบาหวานระหว่างตั้งท้องได้
  2. ไม่ควรกินน้ำขิงก่อนนอน ฤทธิ์ของขิงที่มีความเผ็ดร้อน หากรับประทานแล้วนอนทันที อาจทำให้นอนไม่หลับ เพราะรู้สึกไม่สบายตัวได้
  3. อย่ากินน้ำขิงแล้วปล่อยให้ท้องว่าง เพราะอาจทำให้ระคายเคือง รู้สึกแสบร้อนที่กระเพาะอาหารได้
  4. ไม่ควรกินน้ำขิงค้างคืน เพราะหากต้มน้ำขิงดื่มเอง ควรต้มในปริมาณที่พอดี ไม่เหลือค้างคืน เพราะสรรพคุณของขิงอาจสูญเสียลงได้ รวมถึงหากเก็บรักษาไม่ดีเพียงพออาจมีสิ่งเจือปนได้

 

เมนูน้ำขิงสำหรับคนท้อง ช่วยให้คุณแม่กินง่ายขึ้น

คุณแม่ท้องบางคนอาจรับประทานขิงได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ถูกปากกับกลิ่นฉุนและรสชาติที่เผ็ดร้อนมากนัก ซึ่งคุณแม่ท้องสามารถนำเมนูเหล่านี้ไปประยุกต์ให้รับประทานขิงได้ง่ายขึ้น

1. เต้าฮวยน้ำขิง

โดยเต้าฮวยทำจากน้ำเต้าหู้ แป้งข้าวโพด เจี๊ยะกอ และน้ำสะอาด ส่วนน้ำขิงอาจจะใส่น้ำตาลเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กัน รับประทานขณะร้อน จะกินตอนเช้าหรือรองท้องตอนสาย ๆ ก็ได้

 

2. บัวลอยน้ำขิง

นำแป้งบัวลอยห่องาดำ รับประทานคู่กับน้ำขิงร้อน ๆ หอมอร่อย รับประทานน้ำขิงได้ง่ายขึ้น

 

3. ไข่หวานน้ำขิง

ควรใช้ไข่ไก่ที่สดใหม่ เพราะไข่ขาวจะไม่กระจายตัว ตอกไข่ไก่ลงในหม้อต้มน้ำขิง รับประทานคู่กัน จะรู้สึกสดชื่นและช่วยลดอาการท้องอืดได้

 

4. น้ำขิงผสมน้ำผึ้ง

นอกจากสรรพคุณที่ดีของน้ำขิงแล้ว การใส่น้ำผึ้งนอกจากจะช่วยให้รับประทานน้ำขิงได้ง่ายขึ้น ยังช่วยบรรเทาอาการทางเดินหายใจต่าง ๆ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้

 

5. น้ำขิงผสมมะนาว

รสเปรี้ยวของมะนาวจะช่วยให้สดชื่นและรับประทานง่ายมากขึ้น สามารถทานได้ทั้งแบบร้อนและเย็น หรือใส่โซดาเพิ่มความสดชื่นได้อีกด้วย

 

6. ฟองเต้าหู้น้ำขิง

นำฟองเต้าหู้ที่แช่น้ำจนนิ่ม มาต้มในน้ำขิง ปรุงรสหวานตามชอบ แช่เย็นเก็บไว้ดื่มยามกระหาย หรือ ดื่มแบบร้อน จะชุ่มคอแก้ไอได้

 

ขิง ถือเป็นสมุนไพรที่มีการศึกษาว่ามีสรรพคุณที่ดี มีประโยชน์มากมาย อีกทั้งคุณแม่ท้องยังสามารถรับประทานน้ำขิงเพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ป้องกันโรคหวัด ลดอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ลดน้ำตาลและลดการอักเสบต่าง ๆ แต่การรับประทานขิงก็มีข้อควรระวังที่คุณแม่ท้องควรศึกษาหรือปรึกษาแพทย์โดยทันทีหากมีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้น

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 


อ้างอิง:

  1. คนท้องกินน้ำขิงได้หรือไม่, มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  2. ‘ขิง’ ประโยชน์และโทษที่คาดไม่ถึง, สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดปัตตานี
  3. มารู้จัก "ขิง" กันเถอะ, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  4. เต้าฮวย น้ำขิง, Wongnai
  5. วิธีทำ “บัวลอยน้ำขิง” เมนูของหวานเพื่อสุขภาพ เสิร์ฟร้อน ๆ ซดคล่องคอ!, Wongnai
  6. ไข่หวานน้ำขิง, Wongnai
  7. น้ำผึ้งกับประโยชน์ทางการแพทย์, Pobpad
  8. แจก 10 สูตรเมนูน้ำขิงยอดฮิต รวมมิตรเครื่องดื่มสุขภาพ ซดคล่องคอ!, Wongnai
  9. ฟองเต้าหู้น้ำขิง, Cookpad

อ้างอิง ณ วันที่ 2 กันยายน 2567
 

บทความแนะนำ

มดลูกหย่อนอันตรายไหม คุณแม่ควรรับมือยังไง เมื่อมดลูกหย่อน

มดลูกหย่อนอันตรายไหม คุณแม่ควรรับมือยังไง เมื่อมดลูกหย่อน

มดลูกหย่อน คืออะไร อาการมดลูกหย่อนเป็นแบบไหน มีทั้งหมดกี่ระยะ เกิดขึ้นกับช่วงวัยไหนบ้าง รักษาให้หายขาดได้ไหม พร้อมวิธีป้องกันมดลูกหย่อนในผู้หญิง

ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฝังยาคุมเพื่อคุมกำเนิดได้ผลดีแค่ไหน การฝังยาคุมกำเนิด เหมาะกับใคร มีข้อดีข้อเสียยังไง ฝังยาคุมอยู่ได้นานกี่ปี ปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด คุณแม่มือเท้าบวม รับมือยังไงดี

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด คุณแม่มือเท้าบวม รับมือยังไงดี

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด อาการมือเท้าบวมหลังคลอด เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง คุณแม่เท้าบวมหายเองได้ไหม หากหายช้าจะเป็นอันตรายหรือเปล่า พร้อมวิธีรับมือ

ตกเลือดหลังคลอด คืออะไร อาการตกเลือดหลังคลอดอันตรายมากไหม

ตกเลือดหลังคลอด คืออะไร อาการตกเลือดหลังคลอดอันตรายมากไหม

ตกเลือดหลังคลอด คืออะไร อาการตกเลือดหลังคลอดของคุณแม่ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง หากเลือดออกเยอะและไม่หยุดไหล จะอันตรายกับคุณแม่แค่ไหน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก