อาการแพ้ท้องบอกเพศลูกได้จริงไหม เดาเพศลูกจากอาการแพ้ท้องลูกสาว ลูกชาย

อาการแพ้ท้องบอกเพศลูก ทายเพศลูกจากการแพ้ท้องได้ไหม

17.02.2024

เมื่อคุณแม่หลายคนรู้ตัวว่าเริ่มตั้งครรภ์ อีกหนึ่งเรื่องที่มักตื่นเต้นตามมานั่นก็คือเพศของลูก ซึ่งก็จะมีการคาดเดากันตามความเชื่อสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นการทายจากหน้าตาผิวพรรณของคุณแม่ ทายจากอาการแพ้ท้อง ทายจากขนาดหน้าอก ทายจากรูปร่างของท้อง ทายจากลักษณะปัสสาวะ โดยจะมีความแตกต่างกันไปตามความเชื่อของแต่ละบุคคล 

headphones

PLAYING: อาการแพ้ท้องบอกเพศลูก ทายเพศลูกจากการแพ้ท้องได้ไหม

อ่าน 4 นาที

 

สรุป

  • หากคุณแม่ต้องการทราบเพศลูก สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการตรวจ โดยอาจเป็นการอัลตราซาวด์ การเจาะน้ำคร่ำ หรือการตรวจโคโมโซม เพื่อทำให้ทราบเพศลูกได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • การคาดเดาเพศลูกจากอาการแพ้ท้องไม่มีความแม่นยำ ดังนั้นหากต้องการความแม่นยำที่มากขึ้น ควรได้รับการตรวจจากแพทย์โดยตรง

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

การสังเกตอาการแพ้ท้องเพื่อเดาเพศลูกนั้นถือว่ายังไม่มีความแม่นยำ เพราะอาการที่คุณแม่บางท่านเป็น คุณแม่ท่านอื่นก็อาจจะไม่ได้เป็น ซึ่งบางครั้งเป็นเพียงการดูจากการเก็บสถิติ และแนวโน้มเท่านั้น รวมทั้งยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับสมมุติฐานนี้อีกด้วย แต่หากคุณแม่ต้องการสังเกตอาการเพื่อลุ้นเพศลูกน้อยสนุก ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

รวมสัญญาณที่บอกว่ากำลังท้องลูกชาย

 

ในทางการแพทย์ อาการแพ้ท้องบอกเพศลูก ได้ชัวร์หรือไม่

ปัจจุบันในทางการแพทย์ยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่มารองรับว่าอาการแพ้ท้องของคุณแม่สามารถระบุเพศของทารกในครรภ์ได้ แต่วิธีที่สามารถทำให้ทราบเพศของทารกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำนั่นก็คือการอัลตราซาวด์เพศลูก โดยสามารถตรวจได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 18-20 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีความแม่นยำสูงถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์

 

5 ความเชื่อว่ากำลังท้องลูกชาย

  • ผิวพรรณของคุณแม่ หากคุณแม่ผิวพรรณเปล่งหลั่ง มีน้ำมีนวล ไม่ค่อยเป็นสิว โบราณมีความเชื่อว่าจะได้ลูกชาย แต่ในทางการแพทย์ระบุว่าผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงไปของคุณแม่นั้นมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับระบบหมุนเวียนเลือดและปริมาตรเลือดในร่างกายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในทุก ๆ การตั้งครรภ์
  • ลักษณะท้อง ถ้าสังเกตท้องของคุณแม่จะเห็นว่าท้องมีลักษณะแหลมต่ำลงด้านล่าง ซึ่งทางการแพทย์ลักษณะท้องของคุณแม่ขึ้นอยู่กับรูปร่าง รวมไปถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ของคุณแม่ ที่จะเป็นตัวกำหนดลักษณะหน้าท้องว่าต่ำหรือสูงแค่ไหน
  • สีปัสสาวะ มีความเชื่อว่าหากปัสสาวะของคุณแม่มีสีเหลืองเข้ม ทารกในครรภ์จะเป็นผู้ชาย แต่ในการแพทย์ระบุว่าปัสสาวะจะมีความแตกต่างกันไปตลอดทั้งวัน ทั้งสี กลิ่น และปริมาณของปัสสาวะ
  • ขนาดของหน้าอก หากขนาดหน้าอกของคุณแม่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก มีความเชื่อว่าจะได้ลูกชาย เพราะทารกเพศชายทำให้ฮอร์โมนเพศชายในตัวคุณแม่สูงขึ้น จึงทำให้หน้าอกขยายได้ไม่เต็มที่
  • อาหารที่คุณแม่ชอบทานขณะตั้งครรภ์ มีความเชื่อว่าหากทารกในครรภ์เป็นเพศชาย คุณแม่จะอยากทานอาหารรสเค็มและเผ็ด ซึ่งในทางการแพทย์ยังไม่มีวิจัยที่เชื่อมโยงเรื่องความอยากอาหารขณะตั้งครรภ์

 

5 ความเชื่อว่ากำลังแพ้ท้องลูกสาว

  • ผิวพรรณของคุณแม่ โบราณมีความเชื่อว่าหากคุณแม่หน้าตาดูโทรม คล้ำ เป็นสิว ผิวไม่เปล่งปลั่งสดใส แปลว่าจะได้ลูกสาว เพราะลูกสาวจะขโมยความสวยจากคุณแม่ไป
  • ลักษณะท้อง หากท้องของคุณแม่นูนสูง มีโอกาสที่จะได้ลูกสาว แต่ในการทางแพทย์ระบุว่านอกจากรูปร่างและกล้ามเนื้อของคุณแม่แล้ว ความสูงต่ำของท้องยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทารกอยู่ด้วย
  • สีปัสสาวะ ความเชื่อที่ว่าหากปัสสาวะมีลักษณะเหลืองใส แปลว่าจะได้ลูกสาว แต่ความจริงแล้วลักษณะของปัสสาวะขึ้นอยู่กับการดื่มน้ำ การรับประทานอาหาร การติดเชื้อ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ทำให้ปัสสาวะมีความแตกต่างกันไปตลอดทั้งวัน
  • ขนาดของหน้าอก ถ้าทารกในครรภ์เป็นลูกสาว หน้าอกของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขนาดหน้าอกของคุณแม่ที่ขยายเพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพียงสถิติและแนวโน้มเท่านั้น ยังไม่ได้มีการทดลอง หรือมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ
  • อาหารที่คุณแม่ชอบทานขณะตั้งครรภ์ โบราณเชื่อว่าหากคุณแม่อยากทานของหวาน เช่น ช็อกโกแลต ลูกกวาด เครื่องดื่มที่มีรสหวาน จะได้ลูกสาว ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีผลวิจัยที่เชื่อมโยงกับความอยากอาหารของคุณแม่ แต่อาจเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย

 

อาหารบำรุงครรภ์สำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

อาหารบำรุงครรภ์สำคัญที่สุด ไม่ว่าลูกน้อยจะเป็นเพศไหน

สิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากเรื่องเพศนั่นก็คือสารอาหารที่ทารกควรได้รับ เพราะไม่ว่าลูกน้อยจะเป็นเพศไหน ก็ควรได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน เพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยในทุก ๆ ด้าน โดยอาหารบำรุงครรภ์ที่คุณแม่ควรรับประทานให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ตัวอย่างอาหารที่มีประโยชน์แก่คุณแม่ ได้เเก่ ปลาหรืออาหารที่มีส่วนประกอบของโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาช่อน ปลาสลิด เพราะมีส่วนช่วยในการช่วยบำรุงสมอง ผักใบเขียวและผลไม้อื่น ๆ เพื่อให้ลูกได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่หลากหลาย รวมไปถึงไข่ ชีส มันหวาน และถั่วต่าง ๆ ที่จะช่วยเติมเต็มสารอาหาร โปรตีน วิตามิน ให้ทารกในครรภ์ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

 

แม้ว่าการคาดเดาเพศทารกในครรภ์จากอาการแพ้ท้องของคุณแม่จะยังไม่มีความแม่นยำ แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับคุณแม่และคนรอบข้าง โดยคุณแม่แต่ละท่านก็จะมีอาการแพ้ท้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไป และสิ่งสำคัญที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญก็คือการดูแลตนเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อทั้งตนเองและทารกในครรภ์ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ เตรียมพร้อมสำหรับการเป็นคุณแม่เต็มตัว

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. Can You Predict Your Baby's Sex?, WebMD
  2. What Science Says About 'Signs' You're Pregnant With a Boy, Parent
  3. เมนูอาหารคุณแม่ท้อง บำรุงสมองลูกในครรภ์, โรงพยาบาลบางปะกอก

อ้างอิง ณ วันที่ 4 มกราคม 2567

บทความแนะนำ

มดลูกหย่อนอันตรายไหม คุณแม่ควรรับมือยังไง เมื่อมดลูกหย่อน

มดลูกหย่อนอันตรายไหม คุณแม่ควรรับมือยังไง เมื่อมดลูกหย่อน

มดลูกหย่อน คืออะไร อาการมดลูกหย่อนเป็นแบบไหน มีทั้งหมดกี่ระยะ เกิดขึ้นกับช่วงวัยไหนบ้าง รักษาให้หายขาดได้ไหม พร้อมวิธีป้องกันมดลูกหย่อนในผู้หญิง

ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฝังยาคุมเพื่อคุมกำเนิดได้ผลดีแค่ไหน การฝังยาคุมกำเนิด เหมาะกับใคร มีข้อดีข้อเสียยังไง ฝังยาคุมอยู่ได้นานกี่ปี ปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด คุณแม่มือเท้าบวม รับมือยังไงดี

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด คุณแม่มือเท้าบวม รับมือยังไงดี

คนท้องเท้าบวมหลังคลอด อาการมือเท้าบวมหลังคลอด เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง คุณแม่เท้าบวมหายเองได้ไหม หากหายช้าจะเป็นอันตรายหรือเปล่า พร้อมวิธีรับมือ

ตกเลือดหลังคลอด คืออะไร อาการตกเลือดหลังคลอดอันตรายมากไหม

ตกเลือดหลังคลอด คืออะไร อาการตกเลือดหลังคลอดอันตรายมากไหม

ตกเลือดหลังคลอด คืออะไร อาการตกเลือดหลังคลอดของคุณแม่ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง หากเลือดออกเยอะและไม่หยุดไหล จะอันตรายกับคุณแม่แค่ไหน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก