
อาหารเสริมธาตุเหล็กคนท้อง ช่วยบำรุงครรภ์คุณแม่ให้แข็งแรง
ในระหว่างตั้งครรภ์ปริมาณเลือดในร่างกายของคนท้องจะเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องการธาตุเหล็กมากขึ้น หากได้รับธาตุเหล็กน้อยเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางและทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด รวมถึงส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองของทารกในครรภ์ ดังนั้นคนท้องควรได้รับอาหารเสริมธาตุเหล็กอย่างเหมาะสมตลอดการตั้งครรภ์ เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ที่แข็งแรงสมบูรณ์
สรุป
- ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารจำเป็นในระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะช่วยในการผลิตเลือดและส่งออกซิเจนไปยังทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต
- คนท้องควรได้รับธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน การขาดธาตุเหล็กในระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนท้องและการพัฒนาของทารกในครรภ์ คนท้องควรได้รับอาหารเสริมธาตุเหล็กทุกวัน เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง ภาวะติดเชื้อหลังคลอด คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ
- ภาวะขาดธาตุเหล็กในคนท้องสามารถสังเกตได้จากอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย รู้สึกหมดแรง เนื่องจากเลือดไม่มีธาตุเหล็กเพียงพอสูบฉีด
- ธาตุเหล็กสามารถพบได้ในอาหาร เช่น เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักใบเขียวเข้ม ถั่วต่าง ๆ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- อาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง คืออะไร
- คุณแม่ท้อง จะรู้ได้ยังไงว่าขาดธาตุเหล็ก
- ปริมาณธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง กินเท่าไหร่ถึงดี
- ธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง เริ่มกินตอนไหนดี
- คนท้องจำเป็นต้องกินอาหารเสริมธาตุเหล็กไหม
- อาการคนท้องได้รับอาหารเสริมธาตุเหล็กมากไป
- 5 เมนูอาหารเสริมธาตุเหล็กคนท้อง
อาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง คืออะไร
อาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง คือ อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กสูง ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ที่ปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มขึ้นถึง 70% เพื่อให้เพียงพอต่อการนำออกซิเจน และสารอาหารไปเลี้ยงทารกที่อยู่ในครรภ์ ดังนั้นการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยในการดูแลสุขภาพของคนท้องและทารกในครรภ์ ซึ่งอาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับคนท้องมีดังนี้
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น ตำลึง คะน้า บรอกโคลี ผักโขม
- สัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่
- เนื้อสัตว์ เนื้อแดงไม่ติดมัน เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว
- เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ เลือด
- ปลา เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน
- หอย เช่น หอยแมลงภู่ หอยแครง หอยนางรม
- กุ้ง
- ไข่ โดยเฉพาะไข่แดง
- ถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วขาว ถั่วแดง
- ข้าวโอ๊ตและขนมปังโฮลวีท
- เต้าหู้
- ผลไม้ เช่น แตงโม สตรอว์เบอร์รี่ ลูกเกด ลูกพีช ลูกพรุน
ธาตุเหล็กยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นอนหลับได้ดีและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคนท้องอย่างมาก
คนท้อง จะรู้ได้ยังไงว่าขาดธาตุเหล็ก
การขาดธาตุเหล็กในคนท้องสามารถสังเกตได้จากอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และผิวซีด ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะขาดธาตุเหล็ก หากไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนท้องและทารกในครรภ์ คนท้องสามารถเช็กสัญญาณร่างกายที่บ่งบอกถึงการขาดธาตุเหล็กได้ดังนี้
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย รู้สึกเหมือนหมดแรง เนื่องจากไม่มีธาตุเหล็กในเลือดเพียงพอ ที่จะสูบฉีดทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
- ผิวซีด ตัวซีด เปลือกตาด้านในซีด
- หายใจไม่ทัน หายใจติดขัด แน่นหน้าอก เมื่อต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ
- วิงเวียน หน้ามืด โดยเฉพาะเมื่อเดินขึ้นบันได
- หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่นได้ง่าย แม้จะเดินในระยะใกล้ ๆ
- เหม่อลอยบ่อยขึ้น สมองมีประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากออกซิเจนในเลือดน้อยลงเพราภาวะขาดธาตุเหล็ก
- ตรวจเลือดเพื่อยืนยัน การตรวจ ซีรั่มเฟอริติน (serum ferritin) และ ธาตุเหล็กในซีรัม (serum iron) จะช่วยประเมินปริมาณธาตุเหล็กที่สะสมในร่างกาย โดยค่าของทั้งสองนี้จะต่ำลงหากมีภาวะขาดธาตุเหล็ก นอกจากนี้ การตรวจ เปอร์เซ็นต์ความอิ่มตัวของทรานเฟอริน (transferrin saturation) หากน้อยกว่า 16% ก็เป็นอีกตัวบ่งชี้ถึงภาวะขาดธาตุเหล็ก

ปริมาณธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง กินเท่าไหร่ถึงดี
คนท้องควรได้รับธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำให้ร่างกายต้องการธาตุเหล็กมากขึ้น เพื่อช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงที่เพิ่มขึ้นและลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์ หากขาดธาตุเหล็ก อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งคนท้องและทารกในครรภ์ ดังนั้นการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ไข่ ผักใบเขียว เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยในการดูแลสุขภาพระหว่างการตั้งครรภ์
ธาตุเหล็กสำหรับคนท้อง เริ่มกินตอนไหนดี
คนท้องควรเริ่มกินธาตุเหล็กตั้งแต่การตรวจครรภ์ครั้งแรก เพราะในช่วงการตั้งครรภ์ร่างกายจะผลิตเลือดมากขึ้น เพื่อส่งออกซิเจนไปให้ทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต อีกทั้งธาตุเหล็กยังมีความสำคัญต่อพัฒนาการสมองของทารกในครรภ์อีกด้วย ดังนั้นคนท้องควรได้รับธาตุเหล็กเพียงพอในทุกวัน เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง ภาวะติดเชื้อหลังคลอด และอาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด หรือทำให้ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ
คนท้องจำเป็นต้องกินอาหารเสริมธาตุเหล็กไหม
คนท้องจำเป็นต้องกินอาหารเสริมธาตุเหล็กเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ซึ่งการเสริมธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการตั้งครรภ์แต่ละไตรมาสดังนี้
ช่วงไตรมาสแรก
ไตรมาสแรก เป็นช่วงเวลาที่ต้องระวังมาก เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแท้งสูง ตัวอ่อนกำลังฝังตัวในผนังมดลูกและเริ่มเจริญเติบโต การเสริมธาตุเหล็กให้เพียงพอ จะช่วยระบบไหลเวียนเลือด ส่งออกซิเจนจากแม่ไปสู่ทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองและการเติบโตของทารกในครรภ์
ช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3
โดยเฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ สมองของทารกในครรภ์จะเริ่มสร้างรอยหยัก เมื่อเข้าสู่อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ สมองส่วนที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และความจำจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเมื่ออายุครรภ์ 32 สัปดาห์ จะเริ่มสร้างโครงข่ายเส้นประสาท โดยจะพัฒนาต่อเนื่องจนถึงอายุ 2 ปีหลังคลอด ธาตุเหล็กจึงมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากช่วยส่งออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์ โดยออกซิเจนมากกว่า 60% ถูกส่งไปเลี้ยงสมอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์
ทั้งนี้เพื่อการได้รับปริมาณธาตุเหล็กที่ถูกต้องเหมาะกับคนท้องแต่ละคน ควรได้รับคำแนะนำจากสูตินรีแพทย์ก่อนในการเสริมธาตุเหล็ก
อาการคนท้องได้รับอาหารเสริมธาตุเหล็กมากไป
คนท้องได้รับธาตุเหล็กมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น และมักจะหายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัวเข้ากับธาตุเหล็กที่ได้รับภายในไม่กี่วัน อาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อได้รับอาหารเสริมธาตุเหล็กมากไปมีดังนี้
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง
- ท้องผูก ท้องเสีย
- อุจจาระเป็นสีเข้ม
หากคนท้องยังมีผลข้างเคียงจากการรับอาหารเสริมธาตุเหล็ก ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อปรับปริมาณอาหารเสริมธาตุเหล็กในแต่ละวันอย่างถูกต้องเหมาะสม

5 เมนูอาหารเสริมธาตุเหล็กคนท้อง
อาหารมีความสำคัญต่อคนท้อง และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเสริมธาตุเหล็กที่เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ทารกในครรภ์แข็งแรง มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ ซึ่งเมนูอาหารเสริมธาตุเหล็กคนท้องมีดังนี้
1. แกงจืดเลือดหมู
วัตถุดิบ
1. เลือดหมู | 75 | กรัม |
2. ตับหมู | 20 | กรัม |
3. ใบตำลึง | 25 | กรัม |
4. กระเทียม | ¼ | หัว |
5. น้ำมันพืช | 1 | ช้อนชา |
6. น้ำปลา | ½ | ช้อนชา |
วิธีทำ
- ล้างตับหมูและเลือดหมู หั่นชิ้นพอดีคำ เด็ดตำลึงล้างให้สะอาด
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่เลือดหมูและตับหมู พอสุกแล้วใส่ใบตำลึง ปรุงรส โรยกระเทียมเจียว
2. ผัดเผ็ดถั่วฝักยาวใส่ตับ
วัตถุดิบ
1. ถั่วฝักยาว | 15 | กรัม |
2. เนื้อหมู | 20 | กรัม |
3. ตับหมู | 20 | กรัม |
4. น้ำพริกแกงเผ็ด | ½ | ช้อนโต๊ะ |
5. น้ำตาล | ½ | ช้อนชา |
6. น้ำปลา | ½ | ช้อนชา |
7. น้ำมันพืช | ½ | ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
- ถั่วฝักยาวล้างสะอาด หั่นเป็นท่อนพอดีคำ
- หั่นเนื้อหมู ตับหมู เป็นชิ้นบาง ๆ
- ผัดน้ำพริกแกงเผ็ดให้หอม ใส่เนื้อหมู ตับหมู ผัดพอสุก ใส่ถั่วฝักยาว และเครื่องปรุง ผัดต่อให้สุก ตักใส่จาน
3. ข้าวราดผัดกะเพรา
วัตถุดิบ
1. ตับหมู | 10 | กรัม |
2. หมูสับ | 20 | กรัม |
3. เลือดหมู | 25 | กรัม |
4. ใบกะเพรา | 2.5 | กรัม |
5. กระเทียม | ½ | หัว |
6. พริกขี้หนู | 5 | กรัม |
7. น้ำมันพืช | ½ | ช้อนโต๊ะ |
8. น้ำตาลทราย | ½ | ช้อนชา |
9. น้ำปลา | ½ | ช้อนชา |
วิธีทำ
- ล้างหมูสับ ตับหมู เลือดหมู ให้สะอาด หั่นตับหมูและเลือดหมูเป็นชิ้นพอดีคำ
- โขลกกระเทียม พริกขี้หนูพอแตก นำไปผัดในน้ำมันจนหอม
- ใส่หมูสับ ตับหมู และเลือดหมู ปรุงรส ใส่ใบกะเพรา ตักราดบนข้าวสวย
4. ผัดเปรี้ยวหวานตับ
วัตถุดิบ
1. ตับหมู | 25 | กรัม |
2. เนื้อหมู | 10 | กรัม |
3. เลือดหมู | 50 | กรัม |
4. มะเขือเทศ | 10 | กรัม |
5. หอมหัวใหญ่ | 5 | กรัม |
6. แตงกวา | 15 | กรัม |
7. พริกหยวก | 5 | กรัม |
8. กระเทียม | ¼ | หัว |
9. น้ำมันพืช | ½ | ช้อนโต๊ะ |
10. น้ำปลา | ½ | ช้อนชา |
11. น้ำตาลทราย | ½ | ช้อนชา |
วิธีทำ
- ล้างตับหมู เนื้อหมู เลือดหมู หั่นเป็นชิ้นพอคำ
- ล้างมะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ แตงกวา พริกหยวก แล้วหั่นเป็นชิ้น
- เจียวกระเทียมกับน้ำมันพอหอม ใส่ตับหมู เนื้อหมู เลือดหมู ผัดจนสุก ใส่มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ แตงกวา พริกหยวก ปรุงรส ผัดต่อจนสุก แล้วตักใส่จาน
5. แกงคั่วสับปะรดใส่หอยแมลงภู่แห้ง
วัตถุดิบ
1. สับปะรด | 50 | กรัม |
2. หอยแมลงภู่แห้ง | 20 | กรัม |
3. น้ำพริกแกงคั่ว | ½ | ช้อนโต๊ะ |
4. กะทิ | 60 | กรัม |
5. น้ำตาล | ½ | ช้อนชา |
6. น้ำปลา | ½ | ช้อนชา |
วิธีทำ
- ล้างหอยแมลงภู่ให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ หั่นสับปะรดเป็นชิ้นพอดีคำ
- ผัดน้ำพริกแกงคั่วกับกะทิให้หอม ใส่หอยแมลงภู่ และสับปะรด เมื่อเดือดแล้วปรุงรส
อาหารที่คนท้องกินส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ผ่านทางรก ดังนั้นคนท้องควรกินอาหารสำหรับคนท้อง ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อได้รับสารอาหารในปริมาณที่เพียงพอและหลากหลาย โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่มีหน้าที่ในการส่งออกซิเจนจากแม่ไปสู่ทารก และช่วยในการพัฒนาสมองทารกในครรภ์ นอกจากนั้นแล้วคนท้องควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ให้ความสำคัญและปฏิบัติตามคำแนะนำของสูตินรีแพทย์อย่างเคร่งครัด พร้อมกับเข้ารับการตรวจตามนัดหมาย คุณแม่สามารถติดตามข้อมูลพัฒนาการของทารกในครรภ์ในทุก ๆ เดือนเพิ่มเติมได้ที่ โปรแกรม Womb development ตามติด 9 เดือนในครรภ์ของลูกน้อย พร้อมบทความพัฒนาการต่าง ๆ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- Health check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อย
- 12 เมนูอาหารคนท้อง คนท้องกินอะไรได้บ้าง ดีต่อสุขภาพครรภ์
- ผ่าคลอดกินข้าวเหนียวได้ไหม แผลจะหายช้าหรือเปล่า
- คนท้องกินกาแฟได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินแตงโมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินเผ็ดได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินชาเย็นได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินโซดาได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินทุเรียนได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องย้อมผมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินยาพาราได้ไหม ทำไมก่อนกินยาคนท้องต้องปรึกษาหมอ
อ้างอิง:
- ประโยชน์ของธาตุเหล็ก อาหารเสริมธาตุเหล็กมีอะไรบ้าง?, โรงพยาบาลเมดพาร์ค
- โภชนาการแม่ท้องต้องรู้, โรงพยาบาลกรุงเทพ
- แนะนำอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อป้องกันเลือดจาง, สื่ออนามัยมีเดีย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- Iron Rich Foods, The American National Red Cross, redcrossblood
- สัญญาณว่าร่างกายขาดธาตุเหล็ก, โรงพยาบาลราชวิถี
- โรคโลหิตจากจากการขาดธาตุเหล็ก, โรงพยาบาลปิยะเวท
- How Much Iron Do You Need During Pregnancy?, whattoexpect
- Are You Getting Enough Iron?, webmd
- Daily iron and folic acid supplementation during pregnancy, World Health Organization, who
- แนะนำอาหารสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ในแต่ละไตรมาสควรกินอะไรบ้าง ?, โรงพยาบาลสินแพทย์
- ภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์, โรงพยาบาลนนทเวช
- Iron supplement (oral route, parenteral route), mayoclinic
- Iron, ods.od.nih.gov
- ธาตุเหล็ก (Iron), โรงพยาบาล บีเอ็นเอช
- ตำรับอาหารอุดมด้วยธาตุเหล็ก, สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
- โภชนาการหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร, สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
อ้างอิง ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2567