คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

12.11.2024

การตั้งครรภ์คือช่วงเวลาสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ หอยแครง เป็นอาหารทะเลที่หลายคนชื่นชอบ แต่คนท้องกินหอยแครงได้ไหม? กินแล้วอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์หรือเปล่า บทความนี้จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับข้อควรระวังในการรับประทานหอยแครง และเคล็ดลับในการปรุงหอยแครงที่เป็นอาหารทะเลลดเสี่ยงเชื้อโรค เพื่อให้คุณแม่ได้อิ่มอร่อยแบบไร้กังวล และปลอดภัยจากเชื้อโรค

headphones

PLAYING: คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

อ่าน 5 นาที

สรุป

  • หอยแครงก่อนนำมารับประทานต้องล้างให้สะอาด และต้องปรุงให้สุก เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ปนเปื้อนติดมากับหอยแครง ได้แก่ เชื้อวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส และเชื้อวิบริโอ วัลนิฟิคัส
  • การรับประทานหอยแครงควรทำให้สุกด้วยการลวกในน้ำเดือดประมาณ 1-2 นาที หรือปรุงด้วยการอบและนึ่ง ให้นานประมาณ 5-7 นาที ถึงจะทำลายเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับหอยแครงได้
  • การรับประทานหอยแครงที่ไม่สะอาด และไม่สุก มีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมาในอาหารทะเล ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว มีไข้หนาวสั่น และอาจทำให้เป็นตะคริวในช่องท้องได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม

คนท้องสามารถกินหอยแครงได้ แต่ควรระมัดระวังเรื่องความสะอาดและการปรุงสุก สำหรับหอยแครงต้องปรุงให้สุกก่อนกิน เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือปรสิตที่อาจมีอยู่ในอาหารทะเลดิบ หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยของแม่และทารกในครรภ์

 

การรับประทานหอยแครงในคนท้อง เพื่อความปลอดภัยต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ แนะนำก่อนรับประทานหอยแครงให้ล้างทำความสะอาดเอาดินโคลนที่ติดมากับหอยแครงออกให้หมด จากนั้นปรุงให้สุกด้วยการลวกในน้ำเดือดประมาณ 1-2 นาที ถ้าปรุงด้วยการอบและนึ่ง ต้องให้นานประมาณ 5-7 นาที ถึงจะทำลายเชื้อโรคได้หมด สำหรับเชื้อโรคที่ปนเปื้อนติดมากับหอยแครงก็คือ เชื้อวิบริโอ พาราฮิโมไลติคัส และเชื้อวิบริโอ วัลนิฟิคัส ซึ่งเป็นเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ ทำให้เกิดอาการท้องเสียขณะตั้งครรภ์ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว มีไข้หนาวสั่น และอาจทำให้เป็นตะคริวในช่องท้องได้ด้วย

 

ทำไมคนท้อง ถึงไม่ควรกินหอยแครงเยอะเกินไป

ไม่ได้มีข้อห้ามทางการแพทย์ว่าคนท้องห้ามกินหอยแครง แต่มีข้อควรระวังในการรับประทานทั่วไป เนื่องจากอาจได้รับอันตรายต่อสุขภาพ หากหอยแครงที่นำมารับประทานไม่สะอาด และปรุงไม่สุก ได้แก่

1. เสี่ยงเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

หอยแครงดิบ หรือการปรุงหอยแครงที่มีลักษณะกึ่งสุกกึ่งดิบ เมื่อรับประทานเข้าไปอาจได้รับตัวอ่อนพยาธิที่อยู่ในหอยแครงเข้าไปด้วย ซึ่งถ้าพยาธิเข้าสู่กระแสเลือดและไปที่สมอง อาจเสี่ยงทำให้เกิดการอักเสบในเยื่อหุ้มสมอง

 

2. เสี่ยงเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร

หอยแครงที่ไม่สะอาด และปรุงไม่สุกอาจได้รับเชื้อโรคตามธรรมชาติที่อยู่ในน้ำทะเลอย่างเชื้อวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส และเชื้อวิบริโอ วัลนิฟิคัส เป็นเชื้อโรคที่ก่ออันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ลำไส้อักเสบ เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว คนท้องมีไข้หนาวสั่น และอาจทำให้เป็นตะคริวในช่องท้องได้ด้วย

 

วิธีเลือกหอยแครง สำหรับคุณแม่ท้อง

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม ระหว่างตั้งครรภ์หากคุณแม่อยากรับประทานหอยแครง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ มีคำแนะนำในการทำให้หอยแครงปลอดภัยก่อนนำมารับประทาน ดังนี้

  1. ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
  2. แช่และล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง
  3. ขัดให้สะอาดด้วยเกลือ
  4. ต้มหอยแครงจนสุกเท่านั้น

 

การเลือกหอยแครงที่ดี ควรเลือกจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรต้มสุกทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรค พยาธิที่ปนเปื้อนมากับหอยแครง ก่อนนำมารับประทานแนะนำให้ล้างให้สะอาดจนดินโคลนหลุดออกจนหมด จากนั้นให้ทำให้สุก ไม่ควรกินแบบกึ่งดิบกึ่งสุก การทำหอยแครงให้สุกมีวิธีการปรุง เช่น การลวกในน้ำเดือดประมาณ 1-2 นาที หรือการอบและนึ่ง ต้องให้นานประมาณ 5-7 นาที

 

ประโยชน์ของหอยแครง ที่คุณแม่ท้องควรรู้

 

ประโยชน์ของหอยแครง ที่คุณแม่ท้องควรรู้

หอยแครงมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ โปรตีน และกรดอะมิโนหลากหลายที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น สังกะสี ซีลีเนียม เหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม

1. บำรุงเลือด

เนื้อหอยแครงอุดมด้วย โปรตีนสูง ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันคนท้องโลหิตจาง

 

2. บำรุงกระดูกและฟัน

เนื้อหอยแครงอุดมด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมมีส่วนสำคัญในการเพิ่มความหนาของมวลกระดูก ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง

 

3. ป้องกันการเกิดสิว

เนื้อหอยแครงอุดมด้วยสังกะสี ช่วยป้องกันการเกิดสิว และในคนที่เป็นสิว จะช่วยให้หายจากสิวเร็วขึ้น

 

4. ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว

เนื้อหอยแครงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ทำให้ผิวพรรณมีความเปล่งปลั่ง

 

5. ช่วยขับลม

การรับประทานหอยแครงตามตำราแพทย์แผนไทย ยังช่วยในการขับลม ล้างลำไส้ ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว เป็นต้น

 

รวมเมนูอาหารทะเล ที่คุณแม่สามารถทานได้

นอกจากหอยแครง ยังมีอาหารทะเลอีกหลายชนิดที่คุณแม่ท้องสามารถรับประทานได้ อาทิเช่น สาหร่ายทะเล ปลาหมึก ฯลฯ โดยให้เลือกรับประทานอาหารทะเล ที่ไม่มีสารปรอทปนเปื้อนมากเกินไป และคุณแม่ไม่ได้มีการแพ้มาตั้งแต่แรกเป็นสำคัญ แนะนำให้เลือกอาหารทะเลที่สดใหม่ สะอาด และก่อนนำมารับประทานต้องทำให้สะอาดและปรุงให้สุกเท่านั้น

 

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แม้ว่าหอยแครงจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากก็จริง แต่หอยแครงก็อาจปนเปื้อนเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือติดเชื้ออื่น ๆ แนะนำให้เลือกซื้อจากแหล่งที่สดและสะอาด ทำความสะอาดและปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เพื่อลดเสี่ยงเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายคุณแม่ขณะตั้งครรภ์

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 

 

อ้างอิง:

  1. หอยที่เป็นอาหาร, มูลนิธิสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
  2. แนะนำอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อป้องกันเลือดจาง, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  3. อาหารที่คนท้องห้ามกิน เพื่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์, POBPAD
  4. เชื้อโรคในหอยแครงลวก, สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม
  5. กรมอนามัย เตือน กินหอย ต้องลวกสุกในน้ำเดือด หรืออบ – นึ่งนาน 7 นาที ลดเสี่ยงเชื้อโรค, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  6. รวมมิตร พิษภัยหอย...ดิบ, กองสุขาภิบาลอาหาร กรุงเทพมหานคร
  7. ผลิตภัณฑ์พร้อมบริโภคจากหอยแครง, กรมประมง
  8. “หอยแครง” ประโยชน์บำรุงเลือด สุขภาพดีถ้วนหน้า, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตสมุทรสงคราม
  9. แคลเซียมกับโรคกระดูกพรุน, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  10. หอยแครง ก็มีประโยชน์, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  11. คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง, โรงพยาบาลเพชรเวช

อ้างอิง ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2567
 

บทความแนะนำ

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินเผือก เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ เผือกดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินไข่เค็ม เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ไข่เค็มดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมจีน เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมจีนดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมปัง เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมปังดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินชีสได้ไหม ชีสชนิดไหนปลอดภัย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชีสได้ไหม ชีสชนิดไหนปลอดภัย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชีสได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินชีส เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ชีสชนิดไหนกินได้ ดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินทับทิมได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินทับทิมได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินทับทิมได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินทับทิม เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ทับทิมดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินพิซซ่าได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินพิซซ่าได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินพิซซ่าได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินพิซซ่า เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ พิซซ่าดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก