ที่ตรวจไข่ตกแม่นยำแค่ไหน ตรวจไข่ตกได้จริงไหม พร้อมวิธีใช้งาน
หากคุณกำลังอยากมีลูก การใช้ที่ตรวจไข่ตก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเตรียมความพร้อมของคู่รักทั้งสามีและภรรยา เตรียมตัววางแผนหาวันที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ เพราะช่วงวันไข่ตกเป็นวันที่อสุจิของเพศชายมีโอกาสปฏิสนธิกับไข่ของเพศหญิง ทำให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากยิ่งขึ้น
PLAYING: ที่ตรวจไข่ตกแม่นยำแค่ไหน ตรวจไข่ตกได้จริงไหม พร้อมวิธีใช้งาน
สรุป
- ที่ตรวจไข่ตกโดยใช้ปัสสาวะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ระบุหาระดับฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ซึ่งมีค่าสัมพันธ์กับโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ถ้าพบค่าฮอร์โมนนี้สูง โอกาสที่อสุจิจะได้ปฏิสนธิกับไข่ก็จะเพิ่มขึ้น
- การตรวจหาไข่ตกด้วยปัสสาวะเป็นวิธีที่แม่นยำถึง 99 เปอร์เซ็นต์ โดยคุณผู้หญิงเพียงปัสสาวะใส่ที่ตรวจไข่ตก หรือปัสสาวะใส่ถ้วยและใช้ที่ตรวจไข่ตกจุ่มลงไป รอสักครู่ก็จะทราบผล
- ถ้ามีรอบเดือนสม่ำเสมอ ไข่จะตกที่วันครบครึ่งรอบของการมาของรอบเดือน เช่น รอบเดือน 28 วัน ไข่ตกประมาณวันที่ 14 เมื่อนับ 1 ในวันที่ประจำเดือนวันแรก ดังนั้นควรทดสอบไข่ตกตั้งแต่วันที่ 10 หรือ 11
- หากรอบเดือนมาสม่ำเสมอทุกเดือน จะตรวจทดสอบไข่ตกแค่เพียงครั้งเดียวต่อเดือนก็ได้ ในกรณีที่รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ การนับวันไข่ตกอาจคลาดเคลื่อน ใช้ไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการปรึกษา
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ทำไม “ที่ตรวจไข่ตก” ถึงสำคัญสำหรับคนอยากมีลูก
- ลักษณะของที่ตรวจไข่ตก เป็นแบบไหน
- ที่ตรวจไข่ตก ให้ผลแม่นยำมากแค่ไหน
- ชุดตรวจไข่ตก มีกี่แบบ วิธีใช้งานต่างกันไหม?
- วิธีอ่านผลตรวจไข่ตก เหมือนกับการตรวจครรภ์ไหม
- ในหนึ่งเดือน ควรตรวจไข่ตกบ่อยแค่ไหน
- ควรตรวจไข่ตก เวลาไหนดีที่สุด
ทำไม “ที่ตรวจไข่ตก” ถึงสำคัญสำหรับคนอยากมีลูก
ชุดตรวจไข่ตก ถือเป็นอุปกรณ์ตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการมีลูก
- ช่วยให้ระบุช่วงเวลาไข่ตกที่แม่นยำมากขึ้นในระหว่างรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งช่วงเวลาที่ว่าจะเพิ่มโอกาสให้อสุจิและไข่ปฏิสนธิสำเร็จ
- ตรวจจับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ในปัสสาวะ และบอกให้รู้ว่าช่วงตกไข่กำลังใกล้เข้ามา สามารถกะคร่าว ๆ สมมติว่ารอบเดือนสม่ำเสมอ อาจจะเป็น 28 วัน เป็นไปได้ที่ไข่จะตกวันที่ 14 เมื่อนับ 1 วันแรกที่มีประจำเดือน ก็ควรทดสอบประมาณวันที่ 10 หรือ 11 ช่วงนี้เป็นช่วงที่จะถือว่าเป็นโอกาสที่ผู้หญิงจะตั้งครรภ์ได้มากที่สุด
- การตรวจไข่ตก ด้วยที่ตรวจไข่ตกเช่นนี้จะช่วยลดความคลาดเคลื่อนจากการคาดคะเน และผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน เมื่อคู่รักสามารถหาเวลามีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมและเป็นช่วงเวลาตกไข่ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ได้มากขึ้น
ลักษณะของที่ตรวจไข่ตก เป็นแบบไหน
- เหมือนกับนักสืบที่ตรวจจับหาฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH): ทำงานโดยการตรวจสอบระดับฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ในปัสสาวะของคุณผู้หญิง
- ช่วยกำหนดเวลาเพื่อทำกิจกรรมทางเพศได้เหมาะสม: ชุดตรวจตกไข่ เพื่อให้ทราบว่าฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) เพิ่มขึ้นหรือไม่ การตกไข่ปกติจะเกิดขึ้นภายในประมาณ 36 ชั่วโมงหลังจากตรวจพบว่าฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) เพิ่มขึ้นสูง ดังนั้นนี่เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับคู่รักที่อยากตั้งครรภ์
- การใช้งานง่ายต่อผู้ใช้: จะปัสสาวะใส่เลย หรือว่าปัสสาวะไว้ในถ้วยแล้วค่อยเอาไปจุ่มก็ได้ และใช้เวลารอผลไม่นาน
ที่ตรวจไข่ตก ให้ผลแม่นยำมากแค่ไหน
- การทดสอบการตกไข่เมื่อใช้อย่างถูกต้องจะมีอัตราความแม่นยำโดยประมาณที่ 99 เปอร์เช็นต์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการตกไข่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 36 ชั่วโมงข้างหน้าโดยประมาณ
- อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทราบก็คือ แม้ว่าจะสามารถตรวจจับฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) เพิ่มขึ้น ได้อย่างแม่นยำ แต่อย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลบวกลวงได้ (False positive) และไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ในทางการแพทย์
ชุดตรวจไข่ตก มีกี่แบบ วิธีใช้งานต่างกันไหม?
ชุดตรวจไข่ตกแบ่งได้ 2 แบบ แบ่งตามสิ่งที่นำไปตรวจสอบ
1. ชุดอุปกรณ์ที่ใช้ปัสสาวะ
- การตรวจหาช่วงไข่ตกโดยใช้ปัสสาวะ ชุดตรวจนี้ระบุหาฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนช่วงที่ไข่จะตก
- ถ้าคุณผู้หญิงฉี่ใส่บนแท่งทดสอบ (หรือจุ่มแถบทดสอบลงในถ้วยปัสสาวะ) และพบว่ามีค่าฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) เป็นบวก ก็มีแนวโน้มว่าจะตกไข่ใน 24 ถึง 36 ชั่วโมงต่อมา
- ชุดอุปกรณ์บางตัวยังมีขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อวัดฮอร์โมนเอสโทรน 3-กลูคูโรไนด์ (E3G) ซึ่งอาจปรากฏในปัสสาวะช่วงเวลาที่มีการตกไข่อีกด้วย ฮอร์โมนตัวหลังนี้เกี่ยวกับการตกขาวซึ่งร่างกายผลิตขึ้นเพื่อให้สนับสนุนการทำงานของอสุจิ ทำให้อสุจิแหวกว่ายเข้าไปหาและผสมกับไข่ได้ง่าย
2. ชุดอุปกรณ์ที่ใช้น้ำลาย
- ชุดทดสอบรูปแบบนี้จะใช้ร่วมกับกล้องจุลทรรศน์ขนาดเล็ก และกระจกสไลด์ ให้คุณผู้หญิงใส่น้ำลายลงบนสไลด์ จากนั้นปล่อยให้แห้ง แล้วก็ใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูเพื่อวิเคราะห์รูปแบบของผลึกในน้ำลาย
- อาจเห็นจุด ๆ เป็นรูปวงกลม รูปแบบคล้ายเฟิร์น หรือเห็นสามจุดรวมกัน ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในช่วงใดของรอบเดือน ลายเฟิร์นบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มาพร้อมกับการตกไข่
- แต่การทดสอบด้วยน้ำลายมีผลลัพธ์น่าเชื่อถือน้อยกว่าการตรวจสอบด้วยปัสสาวะ กิจกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น การดื่ม กิน หรือสูบบุหรี่ รวมถึงความชำนาญในการตรวจของผู้ตรวจ อาจทำให้ผลเพี้ยนได้
วิธีอ่านผลตรวจไข่ตก เหมือนกับการตรวจครรภ์ไหม
การอ่านผลการทดสอบการตกไข่จะค่อนข้างคล้ายกับการอ่านผลการทดสอบการตั้งครรภ์ แต่ก็มีข้อแตกต่างกัน เมื่อเริ่มต้นการตรวจหาไข่ตก ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- จุ่มแท่งทดสอบด้านที่มีลูกศรลงในปัสสาวะตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ ประมาณ 5 วินาที
- นำแท่งทดสอบวางไว้แนวราบ
- รอประมาณ 5 นาที จึงค่อยอ่านผลทดสอบ
เส้นควบคุม: เส้นนี้จะปรากฏขึ้นเสมอ เป็นการยืนยันว่าการทดสอบทำงานอย่างถูกต้อง
เส้นทดสอบ: ความเข้มของเส้นนี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระดับของฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ที่ตรวจพบในปัสสาวะ
- ถ้าเส้นทดสอบมีสีเข้มกว่าหรือมองเห็นได้ชัดมากเมื่อเทียบกับเส้นควบคุม แสดงว่าใกล้ถึงช่วงไข่ตกฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ของคุณผู้หญิงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มที่จะตกไข่ภายใน 12-48 ชั่วโมงข้างหน้า
- เส้นที่จะขึ้นมาและตรวจสอบดู คล้ายกับที่ทดสอบการตั้งครรภ์ แต่การทดสอบ 2 แบบนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบฮอร์โมนที่แตกต่างกัน การทดสอบการตกไข่จะตรวจหาฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ในขณะที่การทดสอบการตั้งครรภ์จะตรวจหา chorionic gonadotropin (hCG) ตัวหลังเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายคุณผู้หญิงผลิตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เท่านั้น
ในหนึ่งเดือน ควรตรวจไข่ตกบ่อยแค่ไหน
ความถี่ของการทดสอบการตกไข่ในหนึ่งเดือนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของรอบประจำเดือนของผู้หญิง
- สำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอ การตรวจเดือนละครั้งก็เพียงพอแล้ว
- สำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสั้น การทดสอบควรเริ่ม 4 ถึง 6 วันก่อนถึงจุดกึ่งกลางของรอบเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่มีแนวโน้มที่จะเกิดการตกไข่
- สำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนไม่ปกติ จำเป็นต้องมีการตรวจบ่อยกว่าปกติ ควรเริ่มการทดสอบหลังจากมีประจำเดือนไม่กี่วัน และทำการทดสอบสัปดาห์ละครั้งหลังจากนั้นด้วย
ควรตรวจไข่ตก เวลาไหนดีที่สุด
- เวลาที่ดีที่สุดในการตรวจหาช่วงไข่ตกจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรอบประจำเดือนของแต่ละบุคคล
- สำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนปกติ ไข่ตกมักเกิดขึ้นในช่วงกลางของรอบเดือน ดังนั้นจึงแนะนำให้เริ่มการทดสอบ 4-5 วันก่อนวันที่เชื่อว่าไข่ตก
- อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มั่นใจขึ้น ควรตรวจปัสสาวะในตอนเช้าต่อไปด้วย เนื่องจากฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นระหว่างเที่ยงคืนถึง 8.00 น. ซึ่งคือตรวจพบได้ในปัสสาวะที่ออกมาใน 3-6 ชั่วโมงต่อมา
แม้ว่าการตรวจนับวันไข่ตกจะเป็นตัวช่วยในการวางแผน ทำให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทุกท่านตั้งครรภ์ได้เสมอไป หากมีการเตรียมความพร้อมและวางแผนมีเพศสัมพันธ์ด้วยการตรวจสอบวันไข่ตกแล้ว ยังไม่ตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ขอให้ทุกท่านโชคดี ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ ที่แม่มือใหม่ห้ามพลาด
- อาการแพ้ท้องของคุณแม่ แพ้ท้องพะอืดพะอม แก้ยังไง พร้อมวิธีรับมือ
- น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรับมือ
- อาการท้องแข็งบ่อย ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายหรือไม่ ทำไมคุณแม่ต้องรู้
- เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
- ตั้งครรภ์ มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง คืออะไร อันตรายไหม สำหรับแม่ตั้งครรภ์
- อาการคนท้องระยะแรก สัญญาณการตั้งครรภ์เป็นแบบนี้
- เมนูคนท้อง อาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ท้อง ดีต่อลูกในครรภ์
- คนท้องห้ามกินอะไร อาหารที่ส่งผลเสียต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
- อาหารคนท้องไตรมาสแรก โภชนาการที่สำคัญสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์
- วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด
- สัญญาณอาการใกล้คลอด เจ็บท้องคลอด อาการก่อนคลอดของคุณแม่
- ของใช้เตรียมคลอด ที่คุณแม่มือใหม่ควรเตรียมของไปคลอด
- การผ่าคลอดและคลอดธรรมชาติ ต่างกันยังไง พร้อมขั้นตอนเตรียมผ่าคลอด
- ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที พร้อมข้อดี-ข้อเสีย คลอดเองกับผ่าคลอด
- แผลผ่าคลอดกี่วันหาย พร้อมวิธีดูแลรอยแผลผ่าคลอดให้ฟื้นตัวไว
- แผลฝีเย็บหลังคลอด แผลคลอดธรรมชาติ ดูแลยังไงให้ปลอดภัย
- หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง คนผ่าคลอดห้ามกินอะไรบ้างช่วยให้แผลหายเร็ว
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังคลอด
- ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก
อ้างอิง:
- Trying to Conceive? Here’s When to Take an Ovulation Test, Healthline
- Ovulation tests: How they work and when to take them, Flo Health
- Best ovulation tests, BabyCenter
- How to Read Ovulation Test Results, WebMD
- Can an Ovulation Test Detect Pregnancy?, What to Expect
- When is the Best Time to Take an Ovulation Test?, Proov Test
- มาฝึกดูวันไข่ตกกันเถอะ, โรงพยาบาลวิภาวดี
อ้างอิง ณ วันที่ 27 มีนาคม 2567