ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง คุณแม่ท้องกลมท้องแหลม บอกอะไรได้บ้าง

ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง คุณแม่ท้องกลมท้องแหลม บอกอะไรได้บ้าง

25.10.2024

ลักษณะและขนาดของท้องในระหว่างการตั้งครรภ์ของแม่แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ลักษณะท้องจะแหลมหรือกลมขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่ตั้งครรภ์ ว่าจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง และมดลูกลักษณะแบบใด หน้าท้องกลม หน้าท้องแหลม ลักษณะของท้องคุณแม่ไม่สามารถบอกเพศลูกได้แม่นยำ เป็นเพียงความเชื่อโบราณที่เชื่อมต่อ ๆ กันมา หากอยากทราบเพศลูกอย่างแม่นยำควรปรึกษาสูติแพทย์ เพื่อตรวจหาเพศลูกอย่างถูกวิธีตามหลักการแพทย์เท่านั้น

headphones

PLAYING: ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง คุณแม่ท้องกลมท้องแหลม บอกอะไรได้บ้าง

อ่าน 5 นาที

 

สรุป

  • ลักษณะท้อง และขนาดครรภ์ของคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนจะมีขนาดไม่เท่ากัน คุณแม่ตั้งครรภ์ตัวสูงมักจะมีหน้าท้องกว้างหรือกางออก คุณแม่ตั้งครรภ์รูปร่างไม่สูง หน้าท้องจะแคบลงจนแหลม ความกว้างของหน้าท้องยังบ่งบอกถึงตำแหน่งของทารกในครรภ์
  • ความเชื่อโบราณมักเชื่อกันว่า หากคุณแม่ท้องแหลมและอยู่ต่ำ เชื่อว่าจะได้ลูกชาย หากมีท้องที่กลมและอยู่สูง เชื่อว่าจะได้ลูกสาว หากต้องการทราบเพศลูกที่แม่นยำควรตรวจกับแพทย์
  • โดยปกติแล้วท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะปรากฎให้เห็นชัดเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 12-16 สัปดาห์ ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะเห็นชัดเจน ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่และพัฒนาการของการตั้งครรภ์

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง แต่ละแบบต่างกันมากไหม

ในทางการแพทย์คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีลักษณะของหน้าท้องแตกต่างกัน หน้าท้องแหลม หน้าท้องกว้าง ขนาดครรภ์ของคุณแม่จะมีขนาดไม่เท่ากัน คุณแม่ตั้งครรภ์ตัวสูงมักจะมีหน้าท้องกว้างหรือกางออก เนื่องจากมีเนื้อที่ว่างบริเวณลำตัวมากกว่า ในทางตรงกันข้าม คุณแม่ตั้งครรภ์รูปร่างไม่สูง หน้าท้องจะแคบลงจนแหลม ความกว้างของหน้าท้องยังบ่งบอกถึงตำแหน่งของทารกในครรภ์ได้อีกด้วย หน้าท้องที่กว้างอาจเป็นสัญญาณว่าทารกนอนท่าขวาง นอนในแนวยาวของมดลูก ในขณะที่หน้าท้องแหลมหรือยื่นออกมา อาจหมายถึงกระดูกสันหลังของทารกในครรภ์หันออกด้านนอก

 

ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง แบบไหนได้ลูกสาว แบบไหนได้ลูกชาย

หน้าท้องของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์ จะมีลักษณะแตกต่างกันไป ตามสรีระร่างกายของคุณแม่แต่ละคน

  1. หน้าท้องคุณแม่ที่มีลักษณะแหลม: ท้องจะพุ่งยื่นไปข้างหน้า ยอดมดลูกจะไม่สูงมาก
  2. หน้าท้องคุณแม่ที่มีลักษณะกลม: ยอดมดลูกจะสูงกว่าปกติเล็กน้อย

 

ลักษณะท้องจะแหลมหรือกลม ขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่ตั้งครรภ์ ว่าจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง และมดลูกลักษณะแบบใด แต่ความเชื่อของคนโบราณ มักเชื่อกันว่าลักษณะท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถบ่งบอกเพศของลูกในท้องได้ หากคุณแม่ท้องแหลมและอยู่ต่ำ เชื่อว่าจะได้ลูกชาย หากมีท้องที่กลมและอยู่สูง เชื่อว่าจะได้ลูกสาว

 

ท้องกลมท้องแหลม บอกเพศลูกได้กี่เปอร์เซ็นต์

ความเชื่อของคนโบราณที่เชื่อกันว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีท้องกลมจะได้ลูกสาว คุณแม่ท้องแหลมจะได้ลูกชาย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ ลักษณะของท้องคุณแม่ตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของทารกในครรภ์ ความตึงตัวของมดลูกและกล้ามเนื้อ ยิ่งใกล้คลอดทารกในครรภ์ก็ยิ่งลดต่ำลงมาอยู่ใกล้อุ้งเชิงกรานมากขึ้น ลักษณะของท้องคุณแม่ตั้งครรภ์ จึงไม่ได้บ่งบอกเพศของทารกในครรภ์แต่อย่างใด

 

ทำไมลักษณะท้องของแม่แต่ละคนถึงไม่เหมือนกัน

ลักษณะท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนแตกต่างกัน คุณแม่จะเริ่มมองเห็นท้องที่โตขึ้นได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่ และพัฒนาการของการตั้งครรภ์ เช่น

1. ตำแหน่งของทารก

ทารกในครรภ์ของคุณแม่จะขยับตัวไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้คุณแม่มีรูปร่างหน้าท้องที่แตกต่างกัน

 

2. กล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน

มีหน้าที่ในการพยุงมดลูกตลอดระยะเวลาในการตั้งครรภ์ ยิ่งกล้ามเนื้อตึงมากเท่าไหร่ ก็จะใช้เวลานานขึ้นในการเห็นความเปลี่ยนแปลงของหน้าท้อง หรือเห็นหน้าท้องชัดเจนขึ้น

 

3. ส่วนสูงของคุณแม่

สามารถส่งผลต่อความสูงของท้องขณะตั้งครรภ์ได้ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตัวสูงมักจะอุ้มท้องสูง ท้องจะอยู่ใกล้หน้าอกมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ทารกมีพื้นที่ในการเติบโตในแนวตั้งมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตัวไม่สูง จะอุ้มท้องต่ำ ท้องของคุณแม่จะกว้างและต่ำ เนื่องจากมีพื้นที่ในการเติบโตในแนวตั้งน้อยลง

 

4. น้ำหนักของคุณแม่

ดัชนีมวลกายหรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ทำให้ท้องของคุณแม่จะยิ่งดูใหญ่ขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไขมันในร่างกายที่สูงอาจบดบังขนาดของท้องได้

 

ท้องกลมท้องแหลม จะเห็นชัด ๆ ตอนเดือนที่เท่าไหร่

 

ท้องกลมท้องแหลม เห็นชัด ตอนเดือนที่เท่าไหร่

โดยปกติแล้ว ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะปรากฎให้เห็นชัดเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 12-16 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงก่อนเข้าไตรมาสที่ 2 คุณแม่ตั้งครรภ์จะเห็นท้องชัดเจน ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่ตั้งครรภ์และพัฒนาการของการตั้งครรภ์

 

อยากรู้เพศลูก ดูได้จากวิธีไหนบ้าง

อยากรู้เพศลูก ท้องกี่เดือนรู้เพศลูก ตามหลักการแพทย์แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะรู้เพศของทารกในครรภ์ได้ โดยการตรวจเพศของทารกในครรภ์นั้นสามารถทำได้หลายวิธี นอกจากจะรู้เพศของลูกแล้ว ยังสามารถรู้ถึงความสมบูรณ์ของรก ปริมาณน้ำคร่ำ การเจริญเติบโต ขนาดของทารกในครรภ์ รวมไปถึงตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ด้วย ซึ่งวิธีตรวจเพศทารกมีดังนี้

1. อัลตราซาวด์

วิธีอัลตราซาวด์นี้ คือการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ใช้คลื่นเสียงในการสร้างภาพทารกในครรภ์ โดยอุปกรณ์จะปล่อยคลื่นทางร่างกายคุณแม่ คลื่นเสียงจะสะท้อนกับอวัยวะในช่องท้องและร่างกายของทารก น้ำคร่ำ ที่อยู่ในมดลูก แล้วสะท้อนกลับมาที่อุปกรณ์และแปลงเป็นภาพทางหน้าจอ สูตินรีแพทย์จะแนะนำให้ตรวจอัลตราซาวด์เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 18-21 สัปดาห์ เพื่อประเมินสุขภาพของทารก และตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์

 

2. เจาะน้ำคร่ำ

การเจาะน้ำคร่ำ เป็นการนำตัวอย่างน้ำคร่ำของคุณแม่ตั้งครรภ์ไปตรวจหาความผิดปกติทางโครโมโซม หรือพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม และการตรวจน้ำคร่ำยังสามารถตรวจหาโรคพันธุกรรมที่รุนแรง เช่น โรคธาลัสซีเมีย นอกจากนั้นยังทำให้ทราบเพศของทารกได้อีกด้วย การเจาะน้ำคร่ำจะตรวจเมื่ออายุครรภ์ได้ 16-20 สัปดาห์ โดยสูตินรีแพทย์วินิจฉัยจากผลตรวจครรภ์ และสงสัยว่าทารกมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว

 

3. ตัดชิ้นเนื้อรก

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความเสี่ยง เช่น คุณแม่อายุ 35 ปี เคยมีลูกที่มีประวัติเป็นโรคทางพันธุกรรม ตรวจพบความผิดปกติในการอัลตราซาวด์ สูติแพทย์จะให้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากรกของคุณแม่ไปตรวจ เพื่อหาความผิดปกติทางพันธุกรรมและโครโมโซม มักตรวจเมื่ออายุครรภ์ได้ 10-13 สัปดาห์

 

4. ตรวจเอ็นไอพีที หรือ NIPT

เป็นการเจาะตรวจเลือดคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อคัดกรองหาความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ โดยการเจาะเลือดและนำตัวอย่างเลือดของคุณแม่ ไปวิเคราะห์ดีเอ็นเอที่ไหลเวียนในเลือดในห้องปฏิบัติการ สามารถตรวจได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป การตรวจเอ็นไอพีที หรือ NIPT ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ถึงความผิดปกติของโครโมโซม ความเสี่ยงในกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม และทำให้ทราบเพศของทารกในครรภ์ได้ 

 

ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นมาก หากคุณพ่อคุณแม่อยากทราบเพศของทารกในครรภ์ หรือตรวจประเมินสุขภาพของทารก ตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ หรือ ความผิดปกติของโครโมโซม สามารถตรวจได้ตามวิธีการตรวจต่าง ๆ ตามหลักทางการแพทย์ การดูขนาดและลักษณะของท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ภายนอกจึงไม่สามารถบอกเพศของลูกได้

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด

 


อ้างอิง:

  1. Pregnant Belly Stages: Shapes, Sizes & More, sneakpeektest.com
  2. 6 เทคนิค ทายเพศลูกน้อยในท้องคุณ ตามความเชื่อ (How to tell if you're having a boy or a girl?, drnoithefamily.com
  3. ความเชื่อขณะตั้งครรภ์, haijai.com
  4. 10 ความเชื่อเกี่ยวกับคนท้อง ที่คนมักเข้าใจผิด !!, pobpad
  5. รู้เพศตอนกี่เดือน อัลตราซาวด์ตอนไหนแม่นยำที่สุด, Hello Khunmor
  6. ตรวจอัลตราซาวด์บ่อย ๆ จะส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์หรือไม่?, โรงพยาบาลพญาไท

อ้างอิง ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2567
 

บทความแนะนำ

คนท้องกินอินทผาลัมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินอินทผาลัมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินอินทผาลัมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คุณแม่ท้องอยากกินอินทผาลัม สามารถกินได้บ่อยแค่ไหน ควรกินเท่าไรถึงพอดีและได้ประโยชน์ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

คนท้องนวดได้ไหม นวดตัว นวดเท้าบ่อย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องนวดได้ไหม นวดตัว นวดเท้าบ่อย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องนวดได้ไหม คุณแม่ปวดเมื่อยตัวบ่อย อยากหายปวดตัว ทำอย่างไรได้บ้าง นวดตัว นวดเท้าบ่อย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนไปนวดไหม

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม คุณแม่ท้องชอบกินหอยแครง กินเท่าไหร่ถึงพอดี กินเยอะเกินไป จะเป็นอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า กินหอยแครงแบบไหนให้ปลอดภัยกับลูกในครรภ์

คนท้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ไหม ส่งผลอะไรกับลูกในครรภ์บ้าง

คนท้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ไหม ส่งผลอะไรกับลูกในครรภ์บ้าง

คนท้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จได้ไหม คนท้องอยากกินมาม่า ต้องกินวันละเท่าไหร่ถึงพอดี หากคุณแม่ท้องกินมาม่ามากไป จะส่งผลอะไรกับลูกในครรภ์บ้าง แค่ไหนถึงปลอดภัยและไม่อันตราย

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก