15 คำถามยอดฮิต ที่คุณแม่หลังคลอดอยากรู้

15 คำถามยอดฮิตหลังคลอดลูกน้อย ที่คุณแม่หลังคลอดอยากรู้

03.07.2020

แม้จะคลอดลูกรักมาอย่างปลอดภัยแล้ว แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่คุณแม่ยังคงกังวลใจและสงสัยใคร่รู้ คุณหมอเองก็มักถูกถามด้วยคำถามคล้าย ๆ กันอยู่ทุกครั้งที่มีการนัดตรวจหลังคลอด วันนี้เราจึงรวบรวม 15 คำถามยอดฮิต ที่คุณแม่หลังคลอดอยากรู้ มาฝากค่ะ

headphones

PLAYING: 15 คำถามยอดฮิตหลังคลอดลูกน้อย ที่คุณแม่หลังคลอดอยากรู้

อ่าน 5 นาที

15 คำถามยอดฮิต ที่คุณแม่หลังคลอดอยากรู้


•    มดลูกจะเข้าอู่เมื่อไร ?
คำว่า มดลูกเข้าอู่ หมายถึง มดลูกจะค่อย ๆ เล็กลงจนใกล้เคียงกับขนาดเดิมก่อนตั้งครรภ์ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด


•    น้ำคาวปลา มีกี่วันถึงจะหมด ?
โดยทั่วไป น้ำคาวปลา จะค่อย ๆ จางลง และหมดภายใน 7 – 14 วัน แต่ในบางรายอาจมีน้ำคาวปลาได้นานถึง 6 สัปดาห์ ดังนั้น หากคุณแม่มีน้ำคาวปลานานผิดปกติ มีสีแดงไม่จางลง หรือมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ควรปรึกษาสูติแพทย์


•    ตกขาวปนเลือด ผิดปกติหรือไม่ ?
หลังคลอด สารคัดหลั่งที่ออกมาจากช่องคลอด มักเป็น น้ำคาวปลา โดยช่วงแรกจะมีลักษณะเป็นเลือด แล้วจะค่อย ๆ มีสีจางลง ซึ่งปกติจะไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่คัน ดังนั้นหากผิดไปจากนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ


•    หลังคลอด 1 เดือน มีตกขาวสีน้ำตาลคล้ำ ใช่น้ำคาวปลาหรือไม่ ?
โดยปกติ น้ำคาวปลา จะค่อย ๆ จางลง และหมดภายใน 7 – 14 วัน แม้ในบางคนจะมีน้ำคาวปลานานถึง 6 สัปดาห์ แต่ถ้าหลังคลอดแล้ว 2 เดือน ยังมีตกขาวหรือเลือดสีคล้ำ อาจมีความผิดปกติได้ แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ค่ะ

 

15 คำถามยอดฮิต ที่คุณแม่หลังคลอดอยากรู้


•    หลังคลอดแล้วประจำเดือนยังไม่มา ผิดปกติหรือไม่ ?
สำหรับคุณแม่ให้นมบุตร ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่มีผลยับยั้งการตกไข่ ทำให้คุณแม่ไม่มีประจำเดือนชั่วคราว จึงไม่ถือว่าผิดปกติ แต่การขาดประจำเดือนชั่วคราว ก็ไม่ได้เกิดกับคุณแม่ทุกคน และระยะเวลาที่ประจำเดือนขาดไปก็ไม่เท่ากันด้วย


•    เริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไร ?
คุณแม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อน้ำคาวปลาหมด แผลหายดี และมดลูกกลับสู่ขนาดใกล้เคียงกับช่วงก่อนตั้งครรภ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่หลังจากคลอดแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ 


•    เวลามีเพศสัมพันธ์แล้วรู้สึกเจ็บมาก เป็นเพราะแผลฝีเย็บฉีกใช่ไหม ?
หากการตรวจหลังคลอดแล้วคุณหมอแจ้งว่าปกติ แสดงว่าแผลฝีเย็บน่าจะหายแล้ว แต่การจะมีเพศสัมพันธ์อาจยังไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากช่องคลอดยังแห้งอยู่ แต่สามารถมีเพศสัมพันธ์โดยใช้สารหล่อลื่นช่วยได้ ซึ่งภาวะช่องคลอดแห้งมักจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ถ้าคุณแม่มีอาการเจ็บทุกครั้ง ควรเข้ารับการปรึกษาจากคุณหมอค่ะ


•    ยาคุมกำเนิดแบบไหน แม่ให้นมบุตรกินได้ ?
ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานที่เหมาะกับคุณแม่ให้นมบุตร ควรเป็นยาคุมกำเนิดที่มีเฉพาะฮอร์โมน Progestin ไม่ควรกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมที่มี Estrogen รวมอยู่ เพราะจะมีผลค้างเคียงทำให้การผลิตน้ำนมลดลงได้ ดังนั้น แม่ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์และเภสัชกร ก่อนใช้ยาคุมกำเนิด


•    ควรเริ่มกินยาคุมเมื่อไร ?
สำหรับคุณแม่ให้นมบุตร สามารถกินยาคุมได้เมื่อ 6 สัปดาห์หลังคลอด เพราะหากรอให้ประจำเดือนมาแล้วค่อยกินยาคุม อาจเสี่ยงตั้งครรภ์หากระหว่างนั้นมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถเลือกวิธีคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ ได้ เช่น ฉีดยาคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด ใส่ห่วงคุมกำเนิด ใช้ถุงยางอนามัย โดยสามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ได้


•    ลืมกินยาคุมกำเนิด 3 วัน ควรทำอย่างไร ?
สำหรับคุณแม่ให้นม ควรกินยาคุมกำเนิดในเวลาเดิมอย่างสม่ำเสมอจึงจะมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ลืมกินยามา 3 วัน แนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยไว้ก่อน จะลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้ดี และควรรับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนใช้ยาคุมกำเนิดรอบใหม่ เพื่อตรวจให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ในระหว่างนี้


•    ออกกำลังกายหลังคลอด ทำได้แค่ไหน ?
การออกกำลังกายหลังคลอด สำหรับการคลอดธรรมชาติ สามารถทำได้หลังจากคลอดแล้ว 2 – 3 วัน ส่วนคุณแม่ผ่าคลอด ควรเริ่มออกกำลังกายในสัปดาห์ที่ 3 โดยเลือกออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ เมื่อคลอดได้ราว 6 สัปดาห์ ก็สามารถออกกำลังกายง่าย ๆ เริ่มจากการ เดินในระยะทางสั้น ๆ ช้า ๆ แล้วสังเกตว่ามีความผิดปกติ เช่น มีเลือดออก ปวดท้อง หรือไม่ หากปกติดี ก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะทาง ความเร็ว หรือเลือกเล่นกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายมากขึ้นได้


•    คุณแม่หลังคลอดเป็น ริดสีดวง ต้องผ่าออกหรือไม่ ?
ริดสีดวงมีหลายลักษณะ หากคุณแม่พบว่าตัวเองเป็นริดสีดวง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจประเมินความรุนแรง อธิบายวิธีการรักษา และมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด


•    ทำไมถึง รู้สึกหนาวทั้ง ๆ ที่อากาศร้อน ?
คุณแม่หลังคลอดอาจมีอาการขี้ร้อน หรือขี้หนาวได้ แต่มักไม่ใช่อาการถาวร สำหรับคุณแม่บางราย อาจมีอาการขี้หนาว เนื่องจากต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ จำเป็นต้องได้รับการตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่าตัวเองขี้หนาวกว่าปกติ ควรปรึกษาคุณหมอค่ะ


•    หลังคลอดใช้ยาสระผมแล้วหนังศีรษะเป็นแผล ทำอย่างไรดี ?
แนะนำให้หยุดใช้ยาสระผมที่ใช้อยู่ทุกชนิด แล้วปรึกษาแพทย์เพื่อทดสอบหาสาเหตุของอาการแพ้
 
เมื่อตรวจพบความผิดปกติหลังคลอด คุณแม่ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง ทันท่วงที และเพื่อความปลอดภัยชองทารกน้อย ในกรณีที่เป็นคุณแม่ให้นมบุตรค่ะ 

 


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

15 เรื่องชวนสงสัย ที่แม่ให้นมอยากรู้ 

15 คำถามเรื่องเบบี๋ ที่แม่มือใหม่อยากรู้

อ้างอิง

โดย แพทย์หญิงพัฎ  โรจน์มหามงคล 
กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม  โรงพยาบาลศิริราช

บทความแนะนำ

คนท้องกินอินทผาลัมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินอินทผาลัมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินอินทผาลัมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คุณแม่ท้องอยากกินอินทผาลัม สามารถกินได้บ่อยแค่ไหน ควรกินเท่าไรถึงพอดีและได้ประโยชน์ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

คนท้องนวดได้ไหม นวดตัว นวดเท้าบ่อย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องนวดได้ไหม นวดตัว นวดเท้าบ่อย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องนวดได้ไหม คุณแม่ปวดเมื่อยตัวบ่อย อยากหายปวดตัว ทำอย่างไรได้บ้าง นวดตัว นวดเท้าบ่อย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนไปนวดไหม

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหอยแครงได้ไหม คุณแม่ท้องชอบกินหอยแครง กินเท่าไหร่ถึงพอดี กินเยอะเกินไป จะเป็นอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า กินหอยแครงแบบไหนให้ปลอดภัยกับลูกในครรภ์

คนท้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ไหม ส่งผลอะไรกับลูกในครรภ์บ้าง

คนท้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ไหม ส่งผลอะไรกับลูกในครรภ์บ้าง

คนท้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จได้ไหม คนท้องอยากกินมาม่า ต้องกินวันละเท่าไหร่ถึงพอดี หากคุณแม่ท้องกินมาม่ามากไป จะส่งผลอะไรกับลูกในครรภ์บ้าง แค่ไหนถึงปลอดภัยและไม่อันตราย