เริ่มฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี มีขั้นตอนอะไรที่คุณแม่มือใหม่ต้องทำบ้าง

ควรฝากครรภ์ตอนไหน คุณแม่เริ่มเริ่มฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี

08.04.2024

เมื่อรู้ตัวแล้วว่า กำลังจะกลายเป็นคุณแม่ สิ่งแรกที่ควรทำ คือ การฝากครรภ์ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะการฝากครรภ์จะช่วยให้คุณแม่ได้ตรวจร่างกาย ประเมินความเสี่ยงสุขภาพ ให้คุณหมอได้ดูแลทารกในครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น แข็งแรง ปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อย

headphones

PLAYING: ควรฝากครรภ์ตอนไหน คุณแม่เริ่มเริ่มฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • การฝากครรภ์คุณภาพ ควรฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจดูสุขภาพร่างกายของคุณแม่ ช่วยประเมินความเสี่ยง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
  • หลังจากฝากครรภ์แล้ว คุณหมอจะนัดตรวจครรภ์อย่างต่อเนื่อง และนัดถี่มากขึ้นในช่วงก่อนคลอด ซึ่งคุณแม่ควรมาตรวจครรภ์ตามนัดเป็นประจำ

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

การฝากครรภ์ คืออะไร

การฝากครรภ์ คือ การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณแม่และลูกในท้อง ตั้งแต่เมื่อแรกเริ่มที่รู้ว่าตั้งครรภ์จวบจนถึงวันที่ลูกน้อยลืมตาออกมาดูโลก เพื่อให้คุณแม่และลูกในท้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อุ้มท้องอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน คุณแม่จึงควรฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์

 

ทำไมควรฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด

หลังจากที่รู้ว่าตั้งครรภ์ คุณแม่ควรฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด ให้คุณหมอได้ประเมินภาวะแทรกซ้อน และคัดกรองความเสี่ยง โดยข้อดีของการฝากครรภ์เร็ว เช่น

  • การฝากครรภ์เร็ว ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ ซึ่งควรฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์
  • คุณแม่ได้รับการตรวจคัดกรอง ประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน เพื่อให้คุณหมอทำการรักษาหรือควบคุมภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ หากพบว่า คุณแม่มีความเสี่ยงจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • กลุ่มโรคที่คุณหมอจะตรวจ เช่น โรคถ่ายทอดทางพันธุกรรม ได้แก่ โรคธาลัสซีเมีย ดาวน์ซินโดรม ภาวะพร่องไทรอยด์แต่กำเนิด คัดกรองเบาหวาน รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • คุณหมอจะช่วยดูแลการตั้งครรภ์ ให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น ให้คำแนะนำและความรู้ บอกวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อให้ทารกและคุณแม่ปลอดภัย

 

ประโยชน์ของการฝากครรภ์ ที่ต้องรู้

  • กำหนดวันคลอดและประเมินช่วงเวลาที่อาจจะคลอดได้: ในการฝากครรภ์ คุณหมอจะช่วยวางแผนการคลอด รวมถึงทราบอายุครรภ์ ทำให้สามารถกำหนดช่วงเวลาที่คุณแม่จะคลอดเจ้าตัวน้อยได้
  • ส่งเสริมสุขภาพกาย ดูแลจิตใจคุณแม่: ในการตั้งครรภ์ คุณแม่มักจะเผชิญกับความวิตกกังวลและความเครียด การฝากครรภ์ให้เร็วที่สุดตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ คุณแม่สามารถปรึกษา ขอคำแนะนำจากคุณหมอได้ ทำให้รู้สึกสบายใจ ลดความกังวลลง รวมถึงได้รับการดูแลสุขภาพร่างกาย ให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น
  • ดูแลสุขภาพเจ้าตัวน้อยและคอยประเมินพัฒนาการ: คุณหมอจะตรวจหาความผิดปกติและความพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ รวมถึงดูแลสุขภาพของเจ้าตัวน้อยให้มีพัฒนาการทารกในครรภ์ที่ดีในทุก ๆ เดือน
  • ประเมินและป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์: คุณหมอจะช่วยดูแล ประเมินความเสี่ยง และป้องกันภาวะแทรกซ้อนให้กับคุณแม่ เช่น ภาวะแท้งคุกคาม โรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ โรคเบาหวาน และภาวะคลอดก่อนกำหนด
  • ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น: เมื่อคุณแม่ฝากครรภ์เร็ว จะได้รับการตรวจโรคต่าง ๆ ประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ และได้รับคำแนะนำเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์
  • ช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น: คุณหมอจะดูแลสุขภาพของคุณแม่และลูกในท้อง ช่วยให้การตั้งครรภ์ของคุณแม่ราบรื่น ปลอดภัย รวมทั้งดูแลทารกในครรภ์ให้แข็งแรง

 

ฝากครรภ์ ต้องตรวจอะไรบ้าง

 

ฝากครรภ์ ต้องตรวจอะไรบ้าง

การฝากครรภ์ในครั้งแรก แพทย์จะทำการตรวจหลายอย่าง เช่น

  • ตรวจเลือด: ตรวจหาความเข้มข้นของเลือด ซึ่งคนท้องควรมีมากกว่า 33 เปอร์เซ็นต์ ตรวจหาหมู่เลือด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ ไวรัสเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี และเชื้อซิฟิลิส รวมถึงโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคเบาหวาน
  • ตรวจปัสสาวะ: ดูปริมาณน้ำตาลในปัสสาวะ รวมถึงดูโปรตีนหรือไข่ขาว ที่อาจรั่วออกมาอยู่ในปัสสาวะ
  • ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง: น้ำหนักและส่วนสูงของคุณแม่มีความสำคัญสำหรับการตั้งครรภ์ เช่น คุณแม่ที่ส่วนสูงน้อยกว่า 145 เซนติเมตร อาจมีอุ้งเชิงกรานแคบส่งผลต่อการคลอดได้

 

เอกสารที่ใช้ในการฝากครรภ์

เอกสารการฝากครรภ์จะใช้สำเนาบัตรประชาชนของคุณพ่อและคุณแม่ที่เซ็นสำเนาถูกต้อง และใบตั้งชื่อเพื่อทำสูติบัตร โดยกรอกรายละเอียดให้เรียบร้อย นอกจากนี้ ยังควรเตรียมข้อมูลการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด ประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว และการแพ้ยา มาแจ้งให้คุณหมอทราบด้วย

 

ฝากครรภ์แล้ว ต้องไปพบแพทย์บ่อยไหม

หลังจากฝากครรภ์ คุณหมอจะนัดพบบ่อยในช่วงท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ โดยช่วงแรกที่อายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์ ควรมาตรวจครรภ์ทุก 4 สัปดาห์ จากนั้นจะนัดตรวจครรภ์ทุก 2 สัปดาห์ และเมื่อตั้งครรภ์มากกว่า 36 สัปดาห์ คุณหมอจะนัดตรวจทุก 1 สัปดาห์ ไปจนกว่าคุณแม่จะคลอด

 

ฝากครรภ์แล้ว คุณแม่ต้องทำอะไรบ้าง

การฝากครรภ์และตรวจครรภ์ในแต่ละไตรมาส จะมีรายละเอียดการตรวจร่างกายที่แตกต่างกัน

  • ไตรมาสที่ 1: ดูแลสุขภาพร่างกายทั่วไปของคุณแม่ ตรวจดูโรคประจำตัวและประเมินความเสี่ยง รวมถึงประเมินอายุครรภ์และกำหนดคลอด ส่วนทารกจะตรวจภาวะดาวน์ซินโดรม
  • ไตรมาสที่ 2: คุณหมอจะเช็กการเจริญเติบโต ดูอัตราการเต้นหัวใจของลูก ด้วยการตรวจขนาดยอดมดลูก รวมถึงอัลตราซาวด์เช็กความสมบูรณ์ของเจ้าตัวน้อย ดูตำแหน่งของรก ปริมาณน้ำคร่ำ และวัดความยาวของปากมดลูก
  • ไตรมาสที่ 3: ไตรมาสสุดท้าย คุณหมอจะอัลตราซาวด์ดูความเสี่ยงของภาวะรกเกาะต่ำ และตรวจดูความผิดปกติของทารก ในช่วงนี้จะพูดคุยเพื่อให้คุณแม่ได้เตรียมตัววางแผนการคลอด และให้สังเกตอาการที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล เช่น ท้องแข็ง เลือดออกจากช่องคลอด และลูกดิ้นน้อยลง

 

ฝากครรภ์แล้ว ได้อัลตราซาวด์ครั้งแรกเมื่อไหร่

การอัลตราซาวด์ คุณหมอจะตรวจอัลตราซาวด์ครั้งแรกในช่วง 6-8 สัปดาห์ เพื่อดูว่า ตั้งครรภ์อยู่ในมดลูกหรือไม่ ตรวจขนาดและการเต้นของหัวใจเจ้าตัวน้อย ซึ่งคุณหมอจะอัลตราซาวด์ ประเมินการตั้งครรภ์ตั้งแต่แรก ๆ การฝากครรภ์เร็วจะช่วยให้คุณหมอได้รู้ว่าครรภ์เดี่ยวหรือครรภ์แฝด และประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ได้

 

เลือกฝากครรภ์ที่ไหนดี

การฝากครรภ์ ควรเลือกโรงพยาบาลที่คุณแม่ตรวจรักษาอยู่เป็นประจำ จะมีประวัติการเจ็บป่วย การแพ้ยา และโรคต่าง ๆ ที่คุณแม่เป็นอยู่ หรือเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานหรือบ้าน เมื่อเกิดการเจ็บป่วยไม่สบาย หรือเจ็บท้องคลอด จะได้มาถึงอย่างรวดเร็ว

 

การฝากครรภ์คุณภาพก่อน 12 สัปดาห์ หรือฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรใส่ใจ เมื่อฝากครรภ์แล้ว คุณหมอจะให้สมุดฝากครรภ์ ซึ่งจะมีรายละเอียดการตั้งครรภ์ สมุดเล่มนี้คุณแม่ควรพกติดตัวไว้เสมอ หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือต้องพบแพทย์ในโรงพยาบาลอื่น และอย่าลืมทำตามคำแนะนำของคุณหมอเป็นประจำ เพื่อให้การตั้งครรภ์นี้ปลอดภัย เจ้าตัวน้อยคลอดออกมาสุขภาพแข็งแรง

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. การดูแลสตรีในระยะตั้งครรภ์, คณะพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
  2. 4 เหตุผลดี ๆ ว่าทำไม ควรฝากท้องเร็ว, กรมอนามัย
  3. ฝากครรภ์เร็ว ฝากครรภ์คุณภาพ ฝากก่อน 12 สัปดาห์, กรมอนามัย
  4. การฝากครรภ์สำคัญอย่างไร?, โรงพยาบาลบางปะกอก
  5. คำแนะนำการฝากครรภ์ครั้งแรก, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  6. ฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์, โรงพยาบาลพญาไท
  7. ฝากครรภ์: เตรียมความพร้อมเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก, โรงพยาบาลศิครินทร์
  8. ฝากครรภ์แต่ละครั้ง ตรวจอะไรบ้าง?, โรงพยาบาลเปาโล

อ้างอิง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567

บทความแนะนำ

น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย คุณแม่ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม

น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย คุณแม่ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม

น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม คุณแม่กินน้ำเย็นแล้วน้ำนมจะหดจริงหรือเปล่า พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเองหลังคุณแม่ผ่าคลอด

คนท้องไปงานศพได้ไหม เพราะอะไร ทำไมคนท้องไปงานศพไม่ได้

คนท้องไปงานศพได้ไหม เพราะอะไร ทำไมคนท้องไปงานศพไม่ได้

คนท้องไปงานศพได้ไหม เพราะอะไรคนท้องถึงไปงานศพไม่ได้ หากคนท้องไปงานศพจะเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีความเชื่อว่าคนท้องไม่ควรไปงานศพ ไปทำความเข้าใจพร้อมกัน

อารมณ์คนท้องระยะแรกเป็นแบบไหน คนท้องอารมณ์ขึ้น ๆ ลงๆ รับมืออย่างไร

อารมณ์คนท้องระยะแรกเป็นแบบไหน คนท้องอารมณ์ขึ้น ๆ ลงๆ รับมืออย่างไร

อารมณ์คนท้องระยะแรกเป็นแบบไหน คุณแม่ท้องอารมณ์ขึ้นๆ ลง เกิดจากอะไรได้บ้าง คุณพ่อมือใหม่มีวิธีรับมือกับอารมณ์คนท้องระยะแรกของคุณแม่ได้อย่างไร ไปดูกัน

คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ อันตรายไหม

คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ อันตรายไหม

คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน เกิดจากอะไร คุณแม่คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ ลูกมีโอกาสรอดแค่ไหน อันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า พร้อมสัญญาณเตือนการคลอดก่อนกำหนด

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก