คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ อันตรายไหม

คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน แม่คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ อันตรายไหม

คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน แม่คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ อันตรายไหม

คุณแม่ตั้งครรภ์
บทความ
ส.ค. 24, 2024
11นาที

คุณแม่ทุกคนย่อมอยากประคับประคองลูกน้อยให้อยู่ในครรภ์แม่จนครบกำหนดคลอด แต่หากลูกน้อยคลอดก่อนกำหนด 7 เดือน หรือคลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ ซึ่งระบบต่าง ๆ ในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ ทำให้คุณแม่มีความกังวลว่า ลูกจะรอดไหม อันตรายหรือเปล่า สาเหตุมาจากอะไรบ้าง ป้องกันได้หรือไม่ และควรดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดอย่างไร บทความนี้มีคำตอบให้คุณแม่ได้ทราบกัน

 

สรุป

  • ทารกคลอดก่อนกำหนดเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากสุขภาพของคุณแม่ ความผิดปกติในมดลูก และสาเหตุจากทารกในครรภ์
  • ทารกคลอดก่อนกำหนด 7 เดือน มีโอกาสรอดชีวิต แต่มักเผชิญกับปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากปอดที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายไปด้วย
  • ทารกคลอดก่อนกำหนด 7 เดือน มักมีพัฒนาการล่าช้า เนื่องจากสมองยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ กระตุ้นพัฒนาการด้วยเสียงดนตรีเบา ๆ พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ใช้สีและแสงสว่างอย่างเหมาะสม
  • การดูแลตัวเองให้ดีระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยลดความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ และพัฒนาการของทารก

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คลอดก่อนกำหนด เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

สาเหตุที่ทำให้คลอดก่อนกำหนด อาจเกิดได้ทั้งจากสุขภาพของคุณแม่ ความผิดปกติในมดลูก และสาเหตุจากทารกในครรภ์ ดังนี้

1. สาเหตุจากสุขภาพของคุณแม่

  • โรคประจำตัว คุณแม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต กระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก และอาจทำให้มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด
  • ความเครียด ส่งผลต่อฮอร์โมน ทำให้อารมณ์คุณแม่แปรปรวน และกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว จนอาจเกิดการคลอดก่อนกำหนดได้
  • ประวัติการคลอดก่อนกำหนด หากคุณแม่เคยคลอดก่อนกำหนด มักมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ แพทย์จะประเมินและวางแผนดูแลเป็นพิเศษ
  • การติดเชื้อและการอักเสบ แบคทีเรียจากช่องคลอดลุกลามสู่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กระตุ้นให้มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด
  • พฤติกรรมเสี่ยง การทำงานหนัก สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคุณแม่ เพิ่มความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้

 

2. สาเหตุจากความผิดปกติในมดลูก

  • ปากมดลูกสั้น ในกรณีที่คุณแม่มีปากมดลูกสั้นกว่า 2-2.5 เซนติเมตร กล้ามเนื้อปากมดลูกอ่อนแอ ไม่สามารถรั้งทารกไว้ได้ จึงมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้ง่าย
  • มีเนื้องอกที่มดลูก เนื้องอกขวางการขยายตัวของมดลูก กระตุ้นให้มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด เป็นสาเหตุให้คลอดก่อนกำหนดได้
  • รูปร่างของมดลูกที่ผิดปกติ มดลูกมีรูปร่างผิดรูปแต่กำเนิด ส่งผลต่อการรองรับทารก เป็นสาเหตุหนึ่งของการคลอดก่อนกำหนด
  • การติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำหรือภาวะถุงน้ำคร่ำอักเสบ ทำให้เชื้อโรคผ่านจากช่องคลอดไปสู่มดลูก ทารกอาจติดเชื้อได้

 

3. สาเหตุจากทารกในครรภ์

  • ทารกเสียชีวิตในครรภ์ ทารกตายก่อนคลอด อาจเกิดจากความผิดปกติของทารก ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ หรือแม่ประสบอุบัติเหตุระหว่างตั้งครรภ์
  • ทารกมีความผิดปกติหรือพิการ ในระหว่างตั้งครรภ์ ทารกอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลต่อสุขภาพ หรือการเจริญเติบโตของทารก แพทย์จำเป็นที่จะต้องประเมินและวางแผนการรักษา อาจต้องผ่าคลอดก่อนกำหนดเพื่อช่วยชีวิตทารกเอาไว้
  • ครรภ์แฝด การตั้งครรภ์แฝดทำให้มดลูกขยายตัวเร็ว เพิ่มโอกาสคลอดก่อนกำหนด โดยกว่าร้อยละ 50 ของการตั้งครรภ์แฝดมักจะคลอดก่อนกำหนด แพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิด

 

คลอดก่อนกําหนด 7 เดือน ลูกมีโอกาสรอดไหม

ทารกที่คลอดก่อนกำหนด 7 เดือน หรือช่วงอายุครรภ์ 28-34 สัปดาห์ กลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เนื่องจากอวัยวะต่าง ๆ ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ในอดีตสมาคมสูตินรีแพทย์เคยกำหนดไว้ว่า หากอายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์ การคลอดออกมานั้น ถือเป็นการแท้ง แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทารกคลอดก่อนกำหนดในกลุ่มนี้ มีโอกาสรอดชีวิตเพิ่มมากขึ้น

 

คลอดก่อนกำหนด 32 สัปดาห์ เป็นอันตรายกับลูกไหม

ทารกคลอดก่อนกำหนดในอายุครรภ์ต่ำกว่า 34 สัปดาห์ มักเผชิญกับปัญหาสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากปอดที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายตามไปด้วย
อันตรายที่พบได้บ่อยในทารกคลอดก่อนกำหนด ได้แก่

  • ปอด ขาดสารลดแรงตึงผิว ทำให้ถุงลมปอดแฟบ ทารกหายใจลำบาก อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
  • หัวใจ หลอดเลือดแดงใหญ่ที่เชื่อมต่อกับหลอดเลือดปอด มีเลือดไหลเวียนผิดปกติ ทำให้ทารกหายใจหอบ และหัวใจล้มเหลวได้
  • ระบบประสาท มีเลือดออกในสมอง ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดเปราะบาง มักพบในทารกน้ำหนักน้อยกว่า 1,500 กรัม
  • ระบบย่อยอาหาร ลำไส้เปราะบาง ย่อยและดูดซึมอาหารได้ไม่ดี ต้องให้นมทีละน้อย ๆ และอาจต้องให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำด้วย
  • ดวงตา จอประสาทตาพัฒนาไม่สมบูรณ์ อาจส่งผลต่อการมองเห็นของทารก
  • ระบบหู ทารกมีความเสี่ยงที่จะบกพร่องทางการได้ยิน พบได้บ่อยในทารกที่มีปัญหาหลายอย่าง
  • ระบบภูมิคุ้มกัน ติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่

 

เด็กคลอดก่อนกําหนด 7 เดือน จะสมบูรณ์แค่ไหน

เด็กคลอดก่อนกำหนด 7 เดือน ต้องเผชิญกับการปรับตัวสู่โลกภายนอกมากกว่าทารกคลอดตามกำหนด ยิ่งในกรณีที่คลอดก่อนกำหนดมาก (อายุครรภ์ 32-33 สัปดาห์) หรือมีน้ำหนักตัวแรกคลอดน้อย (ต่ำกว่า 1.5 กิโลกรัม) ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการ และอาจมีปัญหาสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ตามสัดส่วนของระยะการตั้งครรภ์ที่น้อยลง

 

ทารกคลอดก่อนกำหนดมักมีพัฒนาการล่าช้า เนื่องจากระบบสมองเจริญเติบโตเร็วที่สุด ในช่วง 6-7 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ การคลอดก่อนกำหนดส่งผลต่อการพัฒนาสมองที่ยังไม่สมบูรณ์

 

อย่างไรก็ตาม แพทย์จะคอยติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการได้ยิน และการมองเห็นของทารก รวมถึงส่งเสริมพัฒนาการ โดยแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ กระตุ้นพัฒนาการด้วยเสียงดนตรีเบา ๆ พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ใช้สีและแสงสว่างอย่างเหมาะสม

 

เด็กคลอดก่อนกําหนด 7 เดือน เสี่ยงมีโรคประจำตัวไหม

เด็กคลอดก่อนกำหนด 7 เดือน มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และโรคประจำตัวมากกว่าทารกคลอดตามกำหนด จึงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนี้

  • การเจริญเติบโต ทารกคลอดก่อนกำหนดมักตัวเล็ก น้ำหนักตัวน้อย อวัยวะต่าง ๆ พัฒนาไม่สมบูรณ์ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตในระยะยาว
  • โรคเรื้อรัง เมื่อโตขึ้น ทารกคลอดก่อนกำหนด มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ไขมันสูง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ มากกว่าเด็กทั่วไป ส่งผลต่อโอกาสการเสียชีวิต และความพิการ

 

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้แม่ท้องต้องคลอดก่อนกำหนด

 

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้แม่ท้องต้องคลอดก่อนกำหนด

การคลอดก่อนกำหนด เป็นภาวะที่น่ากังวลสำหรับคุณแม่และลูกน้อย เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการของทารกในระยะยาว คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรทราบถึงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด เพื่อที่คุณแม่จะได้เข้าใจและดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง โดยปัจจัยเสี่ยงที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • อายุ คุณแม่ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี หรือมากกว่า 35 ปี มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดมากกว่า
  • โรคประจำตัว คุณแม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ล้วนเพิ่มความเสี่ยง
  • มีประวัติการคลอดก่อนกำหนด หากคุณแม่เคยคลอดก่อนกำหนดมาก่อน มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ถัดไป
  • ภาวะมดลูกผิดปกติ มดลูกขยายตัวมากเกินไปจากการตั้งครรภ์แฝด หรือมีน้ำคร่ำมากกว่าปกติ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยง
  • การติดเชื้อ การติดเชื้อในช่องคลอด ทางเดินปัสสาวะ หรืออวัยวะอื่น ๆ ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และมีโอกาสเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด
  • พฤติกรรมเสี่ยง คุณแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ใช้สารเสพติด ฟันผุ และมีโรคเหงือกขณะตั้งครรภ์
  • ความผิดปกติของทารกในครรภ์ หากลูกน้อยมีความผิดปกติของโครโมโซมหรือมีภาวะติดเชื้อ คุณแม่มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้

 

สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด ที่คุณแม่ต้องรู้

คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรทราบสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด เพื่อรีบมาพบแพทย์โดยด่วน ดังนี้

  • การบีบตัวของมดลูกที่ถี่ขึ้น แรงขึ้น โดยปกติหลัง 30 สัปดาห์ มดลูกจะมีการบีบตัวบ้าง แต่ไม่บ่อย ไม่ถี่ และไม่สม่ำเสมอ หากมีการบีบตัวมากกว่าปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
  • น้ำใส ๆ ไหลออกจากช่องคลอด หรือที่เรียกว่า น้ำเดิน เกิดจากถุงน้ำคร่ำแตกหรือรั่ว มีน้ำคร่ำไหลออกมา มักเกิดตอนใกล้คลอด แต่บางกรณีอาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด
  • มูกปนเลือดออกจากช่องคลอด มูกนี้เป็นมูกที่อุดปากช่องคลอด แสดงว่าปากมดลูกมีแนวโน้มที่จะเปิด เป็นสัญญาณว่าใกล้คลอดแล้ว
  • ลูกดิ้นน้อยลง อาจเกิดจากภาวะการขาดออกซิเจน กระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด
  • บวมและความดันโลหิตสูง พบได้ในคุณแม่ที่มีโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือตั้งครรภ์แฝด อาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • ปวดหลังช่วงล่างหรือบริเวณเอว อาจจะเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นต่อเนื่อง แม้จะเปลี่ยนท่าทาง


ดูแลตัวเองให้ดี ช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้

การตั้งครรภ์ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญทั้งคุณแม่และลูกน้อย การดูแลตัวเองให้ดีจะช่วยลดความเสี่ยงการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ และพัฒนาการของทารก

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

  • คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีน และไขมันดี
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารแปรรูป และอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง

 

2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ปรับเวลานอนหลับให้สม่ำเสมอ เข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา

 

3. ดื่มน้ำเยอะ ๆ

  • ดื่มน้ำเปล่าสะอาด อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และน้ำหวาน

 

4. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์

  • คุณแม่ตั้งครรภ์ควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยประมาณ 12.5 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดัชนีมวลกายของคุณแม่ก่อนตั้งครรภ์ด้วย
  • หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักมากเกินไป หรือมีน้ำหนักน้อยเกินไป

 

5. หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก และยกของหนัก

  • หลีกเลี่ยงการทำงานที่หนักเกินไป หรือยกของหนัก
  • งดออกกำลังกายหนัก หรือกีฬาที่มีความเสี่ยง

 

6. หลีกเลี่ยงความเครียด

  • หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การนั่งสมาธิ โยคะ ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ
  • พูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือปรึกษาแพทย์ หากรู้สึกเครียดมาก

 

7. ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ติดตามอาการ

  • ฝากครรภ์กับแพทย์ และไปพบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจสุขภาพ ติดตามพัฒนาการของทารก และรับคำแนะนำ

 

วิธีดูแลเด็กคลอดก่อนกําหนด 7 เดือน ที่คุณแม่ควรรู้

การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด มีความสำคัญและท้าทายเป็นพิเศษ เนื่องจากระบบต่าง ๆ ของร่างกายยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน คุณแม่จึงควรใส่ใจ และดูแลอย่างใกล้ชิด

1. หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปเจอผู้คนเยอะ ๆ

หลีกเลี่ยงการพาเด็กออกไปในที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า เพราะภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

 

2. ให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก

ให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ทำความสะอาดบ้าน เปลี่ยนผ้าปูที่นอน และดูแลความสะอาดของอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นประจำ

 

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่มีความอ่อนโยน

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กแรกเกิดที่มีความอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและสารเคมี เพื่อลดการระคายเคืองและการแพ้

 

4. ให้ลูกกินนมแม่ เพื่อรับสารอาหารเต็มที่

นมแม่ เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน คุณแม่ควรเรียนรู้วิธีการให้นมลูก ทั้งการเข้าเต้าและการปั๊มนม เพื่อให้ลูกได้รับนมแม่อย่างเพียงพอ

 

5. หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของลูก

เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน คุณแม่ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น การหายใจลำบาก ตัวเขียว ซึม อาเจียน หรือถ่ายเหลว รวมทั้งจดบันทึกการกิน การนอน การขับถ่าย และพฤติกรรมของลูก เพื่อติดตามสุขภาพ และแจ้งแพทย์เมื่อพบสิ่งผิดปกติ

 

การคลอดก่อนกำหนด เป็นภาวะที่อาจป้องกันได้จากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ คุณแม่ควรดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิด หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ และปรึกษาแพทย์เมื่อมีข้อสงสัย สำหรับการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด 7 เดือน ต้องอาศัยความอดทน ความเอาใจใส่ และความร่วมมือจากทุกคนในครอบครัว แนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด มีจุลินทรีย์สุขภาพหลายชนิด เช่น บีแล็กทิส (B. lactis) และพรีไบโอติกมากมาย เช่น 2’FL ซึ่งจุลินทรีย์สุขภาพ บีแล็กทิส (B. lactis) เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์สุขภาพในกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) และ 2’FL ยังเป็นพรีไบโอติก ที่สามารถส่งต่อเพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ลูกน้อย ลูกน้อยจะได้เติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัย

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้! สัญญาณเตือนแบบไหน..ที่เสี่ยง ‘คลอดก่อนกำหนด’, โรงพยาบาลพญาไท
  2. การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด, โรงพยาบาลพญาไท
  3. ปัญหาของเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจะตัวเหลือง หายใจลำบาก ต้องทำอย่างไร, โรงพยาบาลวิภาวดี
  4. เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการ คลอดก่อนกำหนด, โรงพยาบาลสมิติเวช
  5. คุณแม่ตั้งครรภ์ มีโอกาสเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  6. สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด ที่คุณแม่ต้องระวัง, โรงพยาบาลวิชัยเวช
  7. การดูแลตนเองเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด, โรงพยาบาลพญาไท
  8. คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ในแต่ละไตรมาส, โรงพยาบาลนครธน

อ้างอิง ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2567

บทความที่เกี่ยวข้อง

View details ท้องกี่เดือนรู้เพศ คุณแม่รู้เพศตอนกี่เดือน ต้องรอนานแค่ไหน
บทความ
ท้องกี่เดือนรู้เพศ อัลตร้าซาวด์เพศลูก กี่เดือนรู้เพศ ต้องรอนานแค่ไหน

ท้องกี่เดือนรู้เพศ คุณแม่รู้เพศตอนกี่เดือน ต้องรอนานแค่ไหน

คุณแม่ท้องกี่เดือนรู้เพศ จะรู้เพศตอนกี่เดือน อายุครรภ์เท่าไหร่ คุณแม่ถึงสามารถรู้เพศของลูกตัวเองได้ วิธีไหนบ้างที่สามารถตรวจเพศลูกระหว่างตั้งครรภ์ ไปดูกัน

6นาที อ่าน

View details อาการคนท้องไม่รู้ตัว สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีตรวจครรภ์
บทความ
อาการคนท้องไม่รู้ตัว สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีตรวจครรภ์

อาการคนท้องไม่รู้ตัว สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีตรวจครรภ์

อาการท้องไม่รู้ตัวของคุณแม่ท้องแรก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ อาการท้องไม่รู้ตัว สังเกตได้อย่างไร จะรู้ได้ยังไงว่าท้องแล้ว

5นาที อ่าน

View details ตั้งครรภ์มีเลือดออกไม่ปวดท้อง เสี่ยงภาวะแท้งคุกคามไหม
บทความ
ตั้งครรภ์มีเลือดออกไม่ปวดท้อง เสี่ยงภาวะแท้งคุกคามไหม

ตั้งครรภ์มีเลือดออกไม่ปวดท้อง เสี่ยงภาวะแท้งคุกคามไหม

คุณแม่ตั้งครรภ์มีเลือดออกไม่ปวดท้อง มีมูกเลือดออกทางช่องคลอดแต่ไม่ปวดท้อง เกิดจากสาเหตุอะไร มีเลือดออกสีน้ำตาลและสีแดงสด อันตรายกับแม่แค่ไหน

5นาที อ่าน

View details อาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงว่าที่คุณแม่ให้มีลูกง่ายขึ้น
บทความ
อาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงว่าที่คุณแม่ให้มีลูกง่ายขึ้น

อาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงว่าที่คุณแม่ให้มีลูกง่ายขึ้น

อาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงว่าที่คุณแม่ให้มดลูกแข็งแรง เพิ่มโอกาสการมีลูกให้ง่ายมากขึ้น อาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง ไปดูกัน

9นาที อ่าน

View details คลอดก่อนกำหนด ภาวะที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม
บทความ
คลอดก่อนกำหนด ภาวะที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม

คลอดก่อนกำหนด ภาวะที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม

ทำความเข้าใจ ทารกคลอดก่อนกำหนด เกิดจากอะไร สัญญาณเตือนทารกคลอดก่อนกำหนดที่แม่ใกล้คลอดควรรู้มีอะไรบ้าง พร้อมวิธีดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด

8นาที อ่าน

View details คนท้องฉี่สีอะไร สีปัสสาวะคนท้องบอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง
บทความ
คนท้องฉี่สีอะไร สีปัสสาวะคนท้องบอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง

คนท้องฉี่สีอะไร สีปัสสาวะคนท้องบอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง

อาการคนท้องฉี่สีอะไร ต่างจากคนที่ไม่ได้ท้องไหม สีปัสสาวะคนท้องแต่ละสีบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของอย่างไร มีวิธีสังเกตสีปัสสาวะคนท้องยังไงบ้าง ไปดูกัน

6นาที อ่าน

View details คนท้องนอนหงายได้ไหม ท่านอนคนท้อง 1-3 เดือน ท่าไหนปลอดภัย
บทความ
คนท้องนอนหงายได้ไหม ท่านอนคนท้องท่าไหน ปลอดภัยที่สุด

คนท้องนอนหงายได้ไหม ท่านอนคนท้อง 1-3 เดือน ท่าไหนปลอดภัย

คนท้องนอนหงายได้ไหม ท่านอนคนท้อง 1-3 เดือน และ ท่านอนคนท้อง 8-9 เดือน แบบไหนเหมาะกับคุณแม่ท้อง ไปดูท่านอนคนท้องที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่กัน

6นาที อ่าน

View details อาการก่อนเมนส์มากับท้องต่างกันยังไง ทำไมถึงคล้ายกัน
บทความ
อาการก่อนเมนส์มากับท้องต่างกันยังไง ทำไมถึงคล้ายกัน

อาการก่อนเมนส์มากับท้องต่างกันยังไง ทำไมถึงคล้ายกัน

อาการก่อนเมนส์มากับท้องต่างกันยังไง ทำไมถึงมีความคล้ายกันและมักแยกกันไม่ออก ไปดูความแตกต่างอาการก่อนเมนส์มากับท้อง เพื่อสังเกตอาการเบื้องต้น

7นาที อ่าน

View details เข็มกลัดคนท้องจำเป็นไหม ทำไมคนท้องติดเข็มกลัดคนท้อง
บทความ
เข็มกลัดคนท้องจำเป็นไหม ทำไมคนท้องติดเข็มกลัดคนท้อง

เข็มกลัดคนท้องจำเป็นไหม ทำไมคนท้องติดเข็มกลัดคนท้อง

เข็มกลัดคนท้องสำคัญแค่ไหนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ติดเข็มกลัดคนท้องช่วยป้องกันลูกน้อยจากสิ่งชั่วร้ายได้จริงไหม ไปดูประโยชน์ของเข็มกลัดคนท้องที่คุณแม่ควรรู้กัน

5นาที อ่าน

View details ควรฝากครรภ์ตอนไหน คุณแม่เริ่มเริ่มฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี
บทความ
ควรฝากครรภ์ตอนไหน คุณแม่เริ่มเริ่มฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี

ควรฝากครรภ์ตอนไหน คุณแม่เริ่มเริ่มฝากครรภ์เมื่อไหร่ดี

ฝากครรภ์ตอนไหนดีที่สุด การฝากครรภ์มีประโยชน์อย่างไร ทำไมคุณแม่ต้องรีบไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด ไปดูข้อดีของการฝากครรภ์กับคุณหมอที่คุณแม่ควรรู้กัน

7นาที อ่าน

View details คนท้องกินหน่อไม้ได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
บทความ
คนท้องกินหน่อไม้ได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหน่อไม้ได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินหน่อไม้ได้ไหม คุณแม่ท้องกินหน่อไม้เยอะเกินไป จะเป็นอันตรายกับลูกในครรภ์หรือเปล่า ไปดูสารอาหารสำคัญในหน่อไม้และประโยชน์ของหน่อไม้กัน

5นาที อ่าน

View details ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดจากอะไร สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีป้องกัน
บทความ
ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดจากอะไร สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีป้องกัน

ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดจากอะไร สังเกตได้อย่างไร พร้อมวิธีป้องกัน

ภาวะเเท้งคุกคาม เกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง ช่วงไหนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวัง เพื่อป้องกันภาวะแท้งคุกคาม ไปดูสาเหตุ อาการและวิธีป้องกันภาวะแท้งคุกคามเบื้องต้น

7นาที อ่าน

View details อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ กินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก
บทความ
อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ กินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ กินอะไรให้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก

อาหารเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ให้เหมาะสมมีอะไรบ้าง คุณแม่ควรบำรุงครรภ์ให้แข็งแรงด้วยการกินอาหารเพิ่มน้ำหนักลูกที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการและครรภ์ของคุณแม่โดยตรง

9นาที อ่าน

View details คุณแม่ปวดท้องข้างขวาจี๊ด ๆ หน่วง ๆ บอกอะไรได้บ้าง
บทความ
คุณแม่ปวดท้องข้างขวาจี๊ด ๆ หน่วง ๆ บอกอะไรได้บ้าง

คุณแม่ปวดท้องข้างขวาจี๊ด ๆ หน่วง ๆ บอกอะไรได้บ้าง

ว่าที่คุณแม่ปวดท้องข้างขวา มีอาการปวดท้องน้อยหน่วง ๆ เกิดจากอะไร อาการแบบนี้เกิดกับคุณแม่ท้องทุกคนหรือไม่ คุณแม่มีอาการปวดท้องข้างขวา ควรดูแลตัวเองยังไง ไปดูกัน

6นาที อ่าน

View details คนท้องไอบ่อย ไอขณะตั้งครรภ์ อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
บทความ
คนท้องไอบ่อย ไอขณะตั้งครรภ์ อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องไอบ่อย ไอขณะตั้งครรภ์ อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องไอบ่อย คุณแม่ไอขณะตั้งครรภ์ เกิดจากสาเหตุอะไร คนท้องไอบ่อยมาก อันตรายกับลูกในท้องไหม คุณแม่มีวิธีรับมืออย่างไร เมื่อมีอาการไอขณะตั้งครรภ์

8นาที อ่าน

View details มดลูกหย่อน อันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมดลูกต่ำ
บทความ
มดลูกหย่อน อันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมดลูกต่ำ

มดลูกหย่อน อันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมดลูกต่ำ

มดลูกหย่อน คืออะไร อาการมดลูกหย่อนเป็นแบบไหน มีทั้งหมดกี่ระยะ เกิดขึ้นกับช่วงวัยไหนบ้าง รักษาให้หายขาดได้ไหม พร้อมวิธีป้องกันมดลูกหย่อนในผู้หญิง

6นาที อ่าน

View details อาการคนแพ้ท้องเริ่มเมื่อไหร่ พร้อมวิธีรับมืออาการแพ้ท้อง
บทความ
อาการคนแพ้ท้องเริ่มเมื่อไหร่ พร้อมวิธีรับมืออาการแพ้ท้อง

อาการคนแพ้ท้องเริ่มเมื่อไหร่ พร้อมวิธีรับมืออาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องเริ่มเมื่อไหร่ คุณแม่มือใหม่แพ้ท้องพะอืดพะอมตลอดเวลา ต้องแก้ยังไง ไปดูสาเหตุและอาการที่คุณแม่ต้องเจอ พร้อมวิธีรับมืออาการคนแพ้ท้อง

5นาที อ่าน

View details เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้
บทความ
เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้

เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้

เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร ทำไมเลือดล้างหน้าเด็กถึงออกมาจากช่องคลอดแบบกระปริบกระปรอย เลือดล้างหน้าเด็กต่างจากเลือดประจำเดือนอย่างไร ไปดูกัน

5นาที อ่าน

View details ขนาดหน้าท้องแต่ละเดือน พุงคนท้องแต่ละเดือน บอกอะไรได้บ้าง
บทความ
ขนาดหน้าท้องแต่ละเดือน พุงคนท้องแต่ละเดือน บอกอะไรได้บ้าง

ขนาดหน้าท้องแต่ละเดือน พุงคนท้องแต่ละเดือน บอกอะไรได้บ้าง

ขนาดหน้าท้องแต่ละเดือนของคุณแม่บอกอะไรเกี่ยวกับลูกน้อยได้บ้าง ขนาดท้องแต่ละเดือนจะใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจริงไหม ไปดูขนาดท้องแต่ละเดือนของแม่กันภ์

8นาที อ่าน