น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย คุณแม่ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม

น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย คุณแม่ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม

29.08.2024

หลังการผ่าคลอด หรือคลอดธรรมชาติ คุณแม่ทุกคนจะมีน้ำคาวปลา ลักษณะคล้ายประจำเดือน ไหลผ่านทางช่องคลอดออกมา การทำความเข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังคลอดนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรที่จะรู้ และเตรียมพร้อมรับมือว่าน้ำคาวปลานั้นจะหมดเมื่อไหร่ ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อมีน้ำคาวปลา หากมีน้ำคาวปลาที่ผิดปกติเกิดขึ้นจะต้องทำอย่างไร เพื่อสุขภาพที่ดีหลังคลอดและลดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย

headphones

PLAYING: น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย คุณแม่ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม

อ่าน 10 นาที

 

สรุป

  • การดื่มน้ำเย็นหลังผ่าคลอด ไม่ได้ทำให้ร่างกายหลังคลอดฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หรือช้าลง การฟื้นตัวของคุณแม่หลังคลอดจะเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่ที่การคลอด ปัญหาสุขภาพของแต่ละคน หรือ ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ของร่างกาย
  • การดื่มน้ำที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดสดชื่น ไม่เกิดภาวะขาดน้ำ อีกทั้งน้ำยังช่วยผลิตน้ำนมแม่ คุณแม่ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 ถึง 12 แก้วต่อวัน
  • น้ำคาวปลาหลังคลอด คือ ของเหลวที่ถูกขับออกมาหลังคลอด ผ่านทางช่องคลอด ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด จะมีน้ำคาวปลาทุกคน ลักษณะน้ำคาวปลาจะคล้ายเลือดประจำเดือน ระยะเวลาในการขับน้ำคาวปลานั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละคน และจะค่อย ๆ หมดไปเอง ซึ่งการใช้ยาใด ๆ เพื่อขับน้ำคาวปลา ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง หากคุณแม่อยากให้เกิดการขับน้ำคาวปลาได้ดี หลังคลอดควรขยับตัว มีการเคลื่อนไหว เพื่อช่วยให้น้ำคาวปลาไหลสะดวกขึ้น
  • การให้ลูกกินนมแม่จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว หดรัดตัวได้ดี ช่วยขับน้ำคาวปลา คุณแม่ควรหมั่นสังเกตน้ำคาวปลาของตัวเองให้ดี หากน้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีสีแดงสดนานเกิน 4 วัน หรือมีเลือดออกมาจากช่องคลอดจนชุ่มผ้าอนามัย 1 แผ่น ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ควรไปพบแพทย์ตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

น้ำคาวปลายังไม่หมด คุณแม่ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้มั้ย

คุณแม่หลังผ่าคลอดสามารถกินน้ำเย็นได้ เนื่องจากการดื่มน้ำเย็นหลังผ่าคลอดไม่ได้ช่วยให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ หลังคลอดหรือไม่ได้ทำให้ร่างกายคุณแม่หลังคลอดฟื้นตัวได้ช้าลง คุณแม่สามารถกินน้ำเย็นได้ตามปกติ นอกจากนี้การฟื้นตัวของคุณแม่จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่ที่การคลอดหรือปัญหาสุขภาพ ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ในร่างกาย การดื่มน้ำที่เพียงพอจะช่วยให้สดชื่นและช่วยให้คุณแม่ผลิตน้ำนมแม่ได้และไม่เกิดภาวะขาดน้ำ ท้องผูก หรือติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ คุณแม่ควรดื่มน้ำวันละ 8 ถึง 12 แก้วต่อวัน

 

น้ำคาวปลาหมดไปเองไหม กี่วันถึงจะหมดไปเอง

หลังการคลอดลูก คุณแม่อาจเกิดความกังวลว่า น้ำคาวปลาจะหมดไปเองได้ไหม น้ำคาวปลาจะหมดไปเองภายในกี่วัน แท้จริงแล้ว น้ำคาวปลาหลังคลอดจะหมดไปเองได้ตามธรรมชาติ โดยน้ำคาวปลานั้นจะมีประมาณ 2 สัปดาห์ และสามารถหมดไปเองในสัปดาห์ที่ 3 และสัปดาห์ที่ 4 ทั้งนี้ระยะเวลาในการขับน้ำคาวปลาขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน น้ำคาวปลา คือ ของเหลวที่ถูกขับออกมาหลังคลอด ผ่านทางช่องคลอด ประกอบไปด้วย เนื้อเยื่อรก เยื่อบุโพรงมดลูก เลือด ไม่ว่าจะผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติ คุณแม่หลังคลอดทุกคนจะมีน้ำคาวปลา โดยลักษณะทั่วไป น้ำคาวปลาจะคล้ายเลือดประจำเดือน ปริมาณมากน้อยไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน ระยะเวลาในการขับน้ำคาวปลานั้นจะแตกต่างกันออกไป โดยปกติแล้วหลังคลอด น้ำคาวปลาจะมีประมาณ 2 สัปดาห์ เริ่มจากสีแดง ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพู และสีน้ำตาลในช่วง 10 วันหลังคลอด และจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 และสัปดาห์ที่ 4 หลังคลอด คุณแม่ควรหมั่นสังเกตน้ำคาวปลาของตัวเองให้ดี หากมีเลือดออกมาจากช่องคลอดจนชุ่มผ้าอนามัย 1 แผ่นภายในเวลา 1 ชั่วโมง หรือ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีสีแดงสดนานเกิน 4 วัน หรือ น้ำคาวปลาไม่ไหล ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคุณแม่คลอด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และรักษาสุขภาพหลังคลอดอย่างถูกวิธี

 

คุณแม่หลังคลอด กินยาขับน้ำคาวปลาอันตรายไหม

คุณแม่ไม่ควรกินยาขับน้ำคาวปลา เนื่องจากอาจทำให้เกิดอันตรายได้และไม่ดีกับร่างกายของคุณแม่ เนื่องจากน้ำคาวปลา จะถูกขับออกมาจากการบีบรัดตัวของมดลูกในช่วงหลังคลอด จะค่อย ๆ หมดไปเอง ซึ่งการใช้ยาใด ๆ เพื่อขับน้ำคาวปลา ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง หากคุณแม่อยากให้การขับน้ำคาวปลาได้ดีหลังคลอด ควรขยับตัว มีการเคลื่อนไหว เพื่อช่วยให้น้ำคาวปลาไหลสะดวกขึ้น

 

สำหรับคุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ การให้ลูกกินนมแม่จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว หดรัดตัวได้ดี ช่วยขับน้ำคาวปลา ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด ไม่แนะนำให้คุณแม่ที่ให้นมลูกทานยาใด ๆ หรือยาขับน้ำคาวปลา ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง เพราะส่วนประกอบในยาขับน้ำคาวปลาที่มีขายอาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งถ้าคุณแม่ทานเข้าไป จะสามารถส่งผ่านไปทางน้ำนม แอลกอฮอล์ จะปนออกมากับน้ำนม ส่งผลอันตรายต่อทารกได้

 

ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม กินแล้วน้ำนมจะหดหรือเปล่า

น้ำคาวปลายังไม่หมดกินน้ำเย็นได้มั้ย หลังการผ่าคลอด คุณแม่สามารถดื่มน้ำเย็นได้ตามปกติ ไม่ได้มีข้อห้ามในการทานอาหารใด ๆ ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ว่าการกินน้ำเย็นหลังผ่าคลอดจะมีผลใด ๆ ต่อการสมานแผลของการผ่าคลอด

 

ส่วนการให้นมลูกแล้วกินน้ำเย็นนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำนมลด น้ำนมน้อย การที่น้ำนมผลิตน้อยลงนั้นมีหลากหลายสาเหตุ เช่น

  • ท่าดูดนมของทารกไม่ถูกต้อง ท่าอุ้มลูกเข้าเต้าของคุณแม่ไม่ถูกท่า
  • คุณแม่หัวนมบอด หัวนมแบน หรือ ภาวะลิ้นติดในทารก ทำให้ลูกแนบเต้านมไม่ดี
  • คุณแม่ให้ลูกกินนมแม่หลังคลอดล่าช้า
  • คุณแม่ดื่มน้ำ ทานอาหาร พักผ่อนไม่เพียงพอ คุณแม่ควรดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อเพียงพอต่อการผลิตน้ำนม
  • คุณแม่ทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • ลูกทารกนอนนาน คุณแม่ไม่ได้ปลุกให้ตื่นมากินนม
  • คุณแม่มีปัญหาสุขภาพ เช่น เต้านมอักเสบ
  • คุณแม่ให้นมอื่นเสริม
  • คุณแม่ให้นมสูบบุหรี่

 

ผ่าคลอดกินน้ำเย็นได้ไหม ช่วยให้น้ำนมไหลดีขึ้นไหม

 

คุณแม่หลังคลอดกินน้ำอุ่น ช่วยให้น้ำนมไหลดีขึ้นไหม

น้ำนมของแม่หลังคลอด จะมีให้ลูกกินได้เพียงพอหรือไม่นั้น อาจไม่ได้อยู่ที่การดื่มน้ำอุ่น การกระตุ้นน้ำนมที่ดี กระตุ้นอย่างถูกวิธี จะทำให้น้ำนมผลิตสม่ำเสมอ คือ การให้ลูกดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดนาน

  • ดูดเร็ว หลังคลอดมา รีบให้ลูกเข้าเต้า เพื่อกระตุ้นน้ำนมในครั้งแรก ภายใน 15-30 นาที
  • ดูดบ่อย ให้ลูกดูดนมตามที่ลูกต้องการ 8-12 ครั้ง ต่อวัน
  • ดูดนาน ให้ลูกดูดเต้าประมาณครั้งละ 15 นาทีขึ้นไป หรือดูดนมจนกว่าจะเลิกดูดเอง

 

7 วิธีช่วยให้น้ำนมของคุณแม่หลังผ่าคลอดไหลดีขึ้น

  1. ให้ลูกดูดน้ำนมออกตรงเวลา เข้าเต้าแม่ในท่าที่ถูกต้อง
  2. ให้ลูกดูดนมทั้ง 2 ข้างทุกครั้ง และต้องแน่ใจว่า เมื่อให้ลูกดูดนมหรือปั๊มนม ต้องเอาน้ำนมออกให้เกลี้ยงเต้า
  3. ให้ลูกดูดนมบ่อยขึ้นตามความต้องการของลูก หรือ ทุก 2-3 ชั่วโมง
  4. ไม่ควรทิ้งห่างการให้นมลูกนานเกิน 5 ชั่วโมง
  5. ทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นน้ำนม เช่น ขิง หัวปลี กะเพรา
  6. ทานอาหารหลังผ่าคลอด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากทานอาหารน้อย รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายจะดึงสารอาหารไปเรื่อย ๆ ทำให้ร่างกายของคุณแม่อ่อนเพลีย เมื่อร่างกายอ่อนเพลียแล้วร่างกายจะปรับให้น้ำนมลดน้อยลง
  7. นวดเต้านมให้น้ำนมไหลดีขึ้น คุณแม่ที่ให้นมลูก หากอยากช่วยให้มีน้ำนมไหลดี อาจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเต้า นมทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วมือนวดคลึงเบา ๆ เป็นวงกลมจากฐานเต้านมไปถึงบริเวณใกล้ ๆ หัวนม จะช่วยให้น้ำนมของคุณแม่ไหลออกมาง่ายขึ้น

 

หลังผ่าคลอด คุณแม่ไม่ควรกินอะไรบ้าง

  1. ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ปริมาณคาเฟอีนเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจทารกและส่งผลต่อการนอนของทารก
  2. เครื่องดื่มชูกำลัง มีส่วนผสมหลักคือคาเฟอีน ซึ่งจัดเป็นสารกระตุ้นประสาท ทำให้ตื่นตัว เมื่อคุณแม่ได้รับมากเกินไป อาจทำให้มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ส่วนสารกระตุ้น สารให้ความหวาน อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์กับร่างกาย
  3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงหลังคลอดหรือระยะให้นมลูก จะทำให้มึนเมา ดูแลลูกได้ไม่เต็มที่ แม้ทางการแพทย์ ยังไม่ระบุผลกระทบของการดื่มแอลกอฮอล์ของแม่ต่อการให้นมลูกชัดเจน แต่การหลีกเลี่ยงการดื่ม แอลกอฮอล์ของคุณแม่ที่ให้นมลูก จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อลูกได้ เพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปนั้นจะถูกส่งผ่าน ไปยังกระแสเลือดของคุณแม่เข้าไปปะปนกับน้ำนมแม่ ปริมาณของแอลกอฮอล์ในน้ำนมจะเพิ่มสูงขึ้น และจะตกค้างอยู่ในน้ำนมนานถึง 2–3 ชั่วโมง
  4. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง น้ำตาลที่มีมากในเครื่องดื่มไม่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย และอาจส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
  5. ยาดองเหล้า ตามความเชื่อ แม่หลังคลอดมักจะกินน้ำสมุนไพรที่ดองกับเหล้า เพื่อช่วยในการฟื้นตัวหลังคลอด ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพ เพราะนอกจากจะมีแอลกอฮอล์แล้ว อีกทั้งสมุนไพรที่มีอยู่ในเหล้านั้น ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีประโยชน์ หรือมีโทษอะไรกับร่างกายบ้าง

 

อาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด ช่วยขับน้ำคาวปลา

  1. หัวปลี มีแคลเซียม มีวิตามินซี มีฟอสฟอรัส เส้นใยอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด แก้โรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้ และ ยังช่วยเพิ่มน้ำนมอีกด้วย
  2. ฟักทอง มีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และฟอสฟอรัส ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอด
  3. น้ำขิง เชื่อว่าคุณแม่ที่ได้ทานขิง ประโยชน์ดี ๆ ของขิงจะผ่านไปทางน้ำนม ทำให้ลูกทารกไม่ปวดท้อง ขิงยังมีวิตามิน และแร่ธาตุ ที่จะช่วยทำให้น้ำนมไหลได้ดีอีกด้วย
  4. น้ำสะอาดหรือน้ำเปล่า มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ทั้งยังเป็นตัวช่วยในการผลิตน้ำนมแม่ คุณแม่ควรดื่มน้ำสะอาดประมาณ 2 ลิตรต่อวัน
  5. มะละกอสุก มีวิตามินเอ บี ซี ธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง มีฟอสฟอรัส และมีเอนไซม์ มีเส้นใยอาหารมาก ช่วยขับน้ำนม บำรุงกระดูก บำรุงเลือด ช่วยในการสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  6. กุยช่าย มีแคลเซียม วิตามินซี ฟอสฟอรัส เหล็ก เบต้าแคโรทีน คาร์โบไฮเดรต ช่วยขับลมแก้แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยในการขับน้ำนม
  7. กระเทียม ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ แต่ต้องรับประทานแต่พอดี
  8. เมล็ดขนุน ช่วยเพิ่มน้ำนมและบำรุงน้ำนม เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส

 

หลังคลอดร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคลอดด้วยวิธีใด คุณแม่หลังคลอดทุกคนจะมีน้ำคาวปลา น้ำคาวปลานั้นจะค่อย ๆ หมดไปเองตามธรรมชาติ หลังคลอดคุณแม่ควรหมั่นสังเกตน้ำคาวปลาของตัวเองให้ดี หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย น้ำคาวปลามีสี มีกลิ่นที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด และรับการรักษาอย่างถูกต้อง

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. Will drinking cold water after birth slow down my recovery?, BabyCenter
  2. น้ำคาวปลาหลังคลอด คืออะไร แล้วกี่วันถึงจะหมด, HelloKhunmor
  3. เช็คหน่อยไหม? สุขภาพหลังคลอด...มีปัญหาอะไรหรือเปล่า, โรงพยาบาลพญาไท
  4. 13 อาการผิดปกติหลังคลอด | โรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาลเปาโล
  5. 10 ความเชื่อ...จริง และ ไม่จริง กับคุณแม่หลังคลอด, โรงพยาบาลขอนแก่น ราม
  6. ทานยาสมุนไพรจีนเพื่อขับน้ำคาวปลาหลังคลอด แต่ให้นมอยู่ มีผลต่อเสียต่อลูกไหม, Pobpad
  7. สารพัดข้อดีของนมแม่, โรงพยาบาลพญาไท
  8. สารพัดความเชื่อของแม่ท้อง ตอนที่ 2, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  9. นมแม่และแอลกอฮอลล์, มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
  10. หลังคลอด 3 อาทิตย์แล้ว สามารถกินของเย็น ดื่มน้ำเย็น ได้ไหม, Pobpad
  11. น้ำนมน้อย อยากเพิ่มน้ำนมแม่ สาเหตุ และวิธีแก้ไข, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
  12. แม่ ๆ ที่อยากให้น้ำนมเพิ่ม นอกจากจะให้ปั๊มหรือให้ลูกดูดทุก 3 ชม. แล้ว ยังควรทานอาหารให้อิ่ม ๆ ด้วย, มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
  13. อาหารสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  14. 32 วิธีการดูแลตัวเองหลังคลอด ! (คลอดธรรมชาติ & ผ่าคลอด), องค์การบริหารส่วนตำบลแควอ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม
  15. เครื่องดื่มชูกำลังดีต่อสุขภาพหรือไม่, Pobpad
  16. อาหารคุณแม่หลังคลอด อยากเพิ่มน้ำนมกินอะไรดี, โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
  17. อาหารบำรุงน้ำนมส่งต่อคุณค่าจากแม่สู่ลูก, โรงพยาบาลนวเวช
  18. เทคนิคจัดการน้ำนมแม่ ให้ลูกอิ่มหนำสำราญ, โรงพยาบาลเวชธานี
  19. ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงให้นม อันตรายที่คุณแม่ควรรู้, Pobpad

อ้างอิง ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2567
 

บทความแนะนำ

ลูกแฝด เกิดจากอะไร ตั้งครรภ์แฝดเสี่ยงอันตรายจริงไหมต้องระวังอะไรบ้าง

ลูกแฝด เกิดจากอะไร ตั้งครรภ์แฝดเสี่ยงอันตรายจริงไหมต้องระวังอะไรบ้าง

ลูกแฝด เกิดจากอะไร คุณพ่อคุณแม่อยากมีลูกแฝดด้วยวิธีธรรมชาติ ต้องทำอย่างไร ตั้งครรภ์แฝดอันตรายไหม มีเรื่องอะไรบ้างที่คุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษ

ทำกิ๊ฟ คืออะไร การทำกิ๊ฟ GIFT ต่างจากการทำเด็กหลอดแก้วไหม

ทำกิ๊ฟ คืออะไร การทำกิ๊ฟ GIFT ต่างจากการทำเด็กหลอดแก้วไหม

การทำกิ๊ฟ คืออะไร คุณแม่มีลูกยากอยากทำกิ๊ฟ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง การทำกิ๊ฟมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ค่าใช้จ่ายแพงไหม ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร

อยากได้ลูกชายทำไงดี พร้อมเคล็ดลับสำหรับคนอยากมีลูกชาย

อยากได้ลูกชายทำไงดี พร้อมเคล็ดลับสำหรับคนอยากมีลูกชาย

อยากได้ลูกชาย ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทำยังไงได้บ้าง อยากมีลูกชายด้วยวิธีธรรมชาติทำได้จริงไหม พร้อมวิธีคำนวณวันตกไข่ นับวันตกไข่ ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์

หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม เริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไหร่

หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม เริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไหร่

หลังคลอด 1 เดือน มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม คุณแม่หลังคลอดมีเพศสัมพันธ์เลยทันทีจะเป็นอันตรายหรือเปล่า มีเพศสัมพันธ์ตอนไหนปลอดภัยกับคุณแม่ที่สุด ไปดูกัน

อยากได้ลูกสาวทำไงดี พร้อมเคล็ดลับสำหรับคนอยากมีลูกสาว

อยากได้ลูกสาวทำไงดี พร้อมเคล็ดลับสำหรับคนอยากมีลูกสาว

อยากได้ลูกสาว ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทำยังไงได้บ้าง อยากมีลูกสาวด้วยวิธีธรรมชาติทำได้จริงไหม พร้อมวิธีคำนวณวันตกไข่ นับวันตกไข่ ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์

มดลูกหย่อนอันตรายไหม คุณแม่ควรรับมือยังไง เมื่อมดลูกหย่อน

มดลูกหย่อนอันตรายไหม คุณแม่ควรรับมือยังไง เมื่อมดลูกหย่อน

มดลูกหย่อน คืออะไร อาการมดลูกหย่อนเป็นแบบไหน มีทั้งหมดกี่ระยะ เกิดขึ้นกับช่วงวัยไหนบ้าง รักษาให้หายขาดได้ไหม พร้อมวิธีป้องกันมดลูกหย่อนในผู้หญิง

ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฝังยาคุมเพื่อคุมกำเนิดได้ผลดีแค่ไหน การฝังยาคุมกำเนิด เหมาะกับใคร มีข้อดีข้อเสียยังไง ฝังยาคุมอยู่ได้นานกี่ปี ปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก