วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด สมองไว ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด สมองไว ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด สมองไว ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี

ความฉลาดของเด็กไม่ได้เกิดขึ้นจากความสมบูรณ์ของสมองเพียงอย่างเดียวแต่เกิดจากกระบวนการเรียนรู้ด้วย การที่พ่อแม่ส่งเสริมให้ลูกได้ลองทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการลองผิดลองถูก หรือพยายามให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะเป็นการกระตุ้นให้ลูกน้อยรู้จักการแสดงออกที่ดี มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา และฉลาดในการเอาตัวรอดด้วย

 

สรุป

  • ความฉลาดของลูก พ่อแม่สามาถช่วยได้ ด้วยการกระตุ้นสมองและพัฒนาการของลูกน้อยตามช่วงวัย ทั้งการชวนลูกเล่น การพูดคุย การออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน หรือแม้แต่การทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถช่วยให้ลูกน้อยพัฒนาไอคิวของตัวเองได้
  • วิธีทำให้ลูกฉลาดมีหลายวิธีด้วยกัน วิธีที่ง่ายที่สุดคือการให้ลูกกินนมแม่ เพราะนมแม่เป็นโภชนาการธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิดรวมทั้งสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาสมองของลูกน้อย เช่น ดีเอชเอ วิตามิน ทอรีน และสฟิงโกไมอีลิน เป็นต้น
  • การนอนหลับเพียงพอเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ลูกน้อยมีการจดจำที่ดี ช่วยให้เด็กมีสมาธิในการเรียนรู้และยังส่งผลต่ออารมณ์ของเด็กด้วย พ่อแม่จึงควรให้ลูกน้อยนอนแต่หัวค่ำและตื่นนอนแต่เช้าจนเป็นนิสัย เพื่อเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ในวันถัดไปของลูกน้อย

 

เข้าใจสมองและพัฒนาการลูกน้อย วัยแรกเกิดถึง 6 ขวบ

สมองของเด็กมีการเรียนรู้และพัฒนาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ โดยสมองของเด็กจะมีการพัฒนามากที่สุดถึง 80% ในช่วงวัยแรกเกิดจนถึงวัย 6 ขวบ ในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสทองที่พ่อแม่จะกระตุ้นพัฒนาการและการเรียนรู้ให้ลูกน้อย เพื่อให้เด็กฉลาดสมวัย ดังนี้

 

1. วิธีกระตุ้นสมองเด็ก วัยแรกเกิด -1 ปี

  • ทารกในช่วงวัยแรกเกิดจะมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่เร็วมาก สิ่งที่กระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยได้ดีที่สุดคืออ้อมกอดของคุณแม่ พร้อมกับการเล่นหรือหยอกล้อโดยการโยกตัวไปมา หรือพูดคุยจะช่วยให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ได้มากขึ้น
  • พอลูกน้อยอายุได้ประมาณ 6 เดือน ช่วงนี้หนูน้อยจะเริ่มมองเห็นและจดจำใบหน้าได้ของคุณแม่ได้แล้ว คุณแม่ควรพูดคุยหยอกล้อกับลูก เล่นจ๊ะเอ๋ หรือร้องเพลงง่าย ๆ  เพื่อเป็นการกระตุ้นพัฒนาการให้ดีขึ้น
  • เมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัยคลานเด็กจะเริ่มสนใจของเล่นมากขึ้น คุณแม่ควรให้ลูกเล่นของเล่นแต่ควรมีของเล่นน้อยชิ้นเพื่อไม่ให้ลูกเสียสมาธิ และควรระวังอย่าลูกนำของเล่นเข้าปากเพราะอาจเป็นอันตรายได้

 

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด ความจำดี มีพัฒนาสมองที่สมวัยตั้งแต่แรกเกิด - 6 ขวบ

 

2. วิธีกระตุ้นสมองเด็ก วัย 1-3 ปี

  • พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อของลูกน้อยดีขึ้นมาก ทำให้สามารถเดินและทรงตัวได้ดี ขีดเขียนได้ และทานอาหารเองได้แล้ว คุณแม่จึงควรฝึกกระตุ้นสมองโดยให้ลูกน้อยหยิบจับของด้วยตนเอง เพื่อให้เค้าได้ลองผิดลองถูก
  • สมองของเด็กวัย 1-2 ปี สามารถจดจำตัวอักษรได้พอ ๆ กับการฟังแล่ว คุณแม่จึงควรชวนลูกฝึกสมองด้วยการพูดคุยให้ลูกลองออกเสียงตาม พยายามอ่านหนังสือให้ลูกฟัง และถ้าใครอยากให้ลูกเป็นเด็กสองภาษาสามารถเริ่มใช้ภาษาที่สองพูดคุยกับลูกน้อยได้เลย
  • พ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกมีอิสระทางความคิด เมื่อลูกอยากเล่นอะไรพ่อแม่ควรคล้อย ไม่ควรตลกขบขันกับเรื่องเพ้อฟันของเด็ก และควรส่งเสริมให้ลูกช่วยเหลือตนเองเด็กจะได้รู้สึกภูมิใจในตัวเองเมื่อทำบางอย่างสำเร็จแม้จะเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

 

3. วิธีกระตุ้นสมองเด็ก วัย 3-6 ปี

  • พัฒนาการด้านร่างกายของเด็กมีความแข็งแรงมาก สามารถเดินและวิ่งได้ดี ทั้งยังชอบเล่นกับเพื่อน ชอบถาม ชอบสงสัย และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ คุณแม่จึงต้องเสริมพัฒนาการลูกน้อยด้วยการพาตอบลูกทุกคำถามเท่าที่จะตอบได้ ไม่ควรตัดบทเพื่ออาจทำให้ความคิดเด็กถูกทำลายไป
  • ช่วงเวลานี้พ่อแม่ควรเสริมให้ลูกใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ หากลูกพ่อแม่ชวนลูกระบายสีแล้วลูกน้อยวาดหรือระบายสีอะไรที่ผิดไปจากธรรมชาติพ่อแม่ไม่ควรดุว่า เพราะการกระทำนี้จะปิดกั้นพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้ 
  • วิธีกระตุ้นสมองของเด็กวัยนี้ที่พ่อแม่ควรทำ คือ การพาลูกไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ ชมสวนสัตว์ ดูสารคดี เข้าครัวลองทำอาหาร สัมผัสกับธรรมชาติ หรือฝึกเล่นดนตรี เพื่อให้ลูกได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หลากหลายเพื่อให้เด็กสั่งสมความรู้ให้ได้มากที่สุด

 

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด ไอคิวสูง มีพัฒนาทางสมองที่ดีตามช่วงวัย

 

 

10 วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด เพิ่มพลังสมองให้กับลูกน้อย

เด็กจะเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่ในท้องแม่และจะพัฒนาได้ดีที่สุดในช่วง 3 ปีแรกของชีวิตแล้วค่อย ๆ พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง การเสริมสร้างความฉลาดหรือไอคิวเพื่อกระตุ้นให้ลูกน้อยเกิดความจำ ความคิด รู้จักเชื่อมโยงสามารถทำได้หลากวิธี คือ

 

1. ดื่มนมแม่

นมแม่เป็นสารอาหารธรรมชาติที่มีคุณค่าครบถ้วนเหมาะกับเด็กมากที่สุด เพราะในนมแม่มีสารอาหารจำเป็นต่อการพัฒนาสมอง เช่น ทอรีน มีกรดไขมัน ARA DHA และสฟิงโกไมอีลิน รวมถึงเอมไซม์ที่ร่างกายต้องการนำมาใช้ในการพัฒนาสมอง อีกทั้งการโอบกอดลูกน้อยระหว่างให้นมและการโต้ตอบกับลูกยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกน้อยเกิดการเรียนรู้และการตอบสนอง ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสมอง ทำให้สมองของลูกทำงานได้เต็มที่และต่อเนื่อง และมีไอคิวสูง

 

2. เรียนรู้จากการเล่น

เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ลูกน้อยพัฒนาสมองได้ดี การเล่นที่ดีควรให้ลูกน้อยได้เล่นตามวัย ดังนี้

  1. การเล่นของเด็กขวบปีแรก เด็กในช่วงนี้พ่อแม่ควรเน้นให้ลูกได้ออกสำรวจด้วยตนเองให้มากที่สุด และควรปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระไม่ต้องบังคับ หรือคาดหวังให้ลูกเล่นตามรูปแบบหรือความต้องการของพ่อแม่ เพราะหนูน้อยอยู่ในช่วงวัยลองผิดลองถูกหากเกิดการบังคับมาก ๆ เด็กจะเกิดความสนใจในการเรียนรู้ลดน้อยลง
  2. การเล่นของเด็ก 2 ปี พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกน้อยช่วงวัยนี้เล่นที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้นไม่ว่าจะเดินหรือปีนป่าย การเล่นที่มีรูปแบบที่ชัดเจนที่มีเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น การร้อยลูกปัด การต่อบล็อก รวมถึงการเล่นที่ทำให้เกิดความจำระยะสั้นในระหว่างที่เล่นลูกอาจเกิดการเลียนแบบพฤติกรรมจากสิ่งที่เห็นทำให้เด็กสามารถทำบางอย่างได้เองได้จากการสังเกตพ่อแม่
  3. การเล่นของเด็ก 2 - 3 ปีขึ้นไป เด็กวัยนี้จะเริ่มสนุกกับการแต่งแต้มจินตนาการทำให้มีการเล่นบททบาทสมมติมากขึ้น เช่น การเล่นขายของ หรือการจำลองเหตุการณ์ต่าง ๆ พ่อแม่จึงต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกน้อย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้และให้ลูกได้ฝึกฝนการใช้ภาษา การโต้ตอบ และทักษะการตอบคำถามได้ดีขึ้น

 

3. นอนตั้งแต่หัวค่ำ ตื่นแต่เช้า

การปลูกฝังให้ลูกน้อยมีวินัยในการนอนเป็นเวลา จะทำให้ลูกน้อยนอนหลับได้เพียงพอ ซึ่งการนอนที่ดีจะมีผลต่อการเรียนรู้ สมาธิ และพัฒนาการด้านอารมณ์ เมื่อลูกตื่นไปเรียนในตอนเช้าจะช่วยให้สามารถจดจำและมีสมาธิในการเรียนรู้ได้ดีนั่นเอง

 

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายจะทำให้สมองและร่างกายของลูกน้อยตื่นตัวพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การออกกำลังกายของเด็กวัยนี้พ่อแม่อาจใช้การเล่นเข้ามาช่วยด้วย หรืออาจเป็นกีฬาที่พลัดกันแพ้พลัดกันชนะ เพื่อให้เด็กรู้สึกมั่นใจในตัวเองและพร้อมที่จะเล่นเพื่อพัฒนาการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน

 

5. พยายามพาลูกฝึกสมองบ่อย ๆ

หากิจกรรมฝึกสมองให้กับลูกน้อยมักเป็นกิจกรรมที่มีรูปแบบ (pattern style)  เช่น การอ่าน และการเล่นดนตรี หรือการพูดโต้ตอบ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยค่อย ๆ ได้เรียนรู้ จดจำ และสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นทักษะที่ดีในอนาคตได้

 

6. ชวนลูกทำกิจกรรมกระตุ้นความจำ

เมื่อสมองของลูกน้อยสามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดี จะทำให้สมองของลูกน้อยเกิดการเรียนรู้ได้ดีเช่นเดียวกัน พ่อแม่ควรเริ่มฝึกลูกรู้จักการท่องจำโดยการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว เช่น มื้อที่แล้วลูกกินอะไร แครอทที่ลูกกินมีสีอะไร หรือถามจำนวนตัวเลข หรือคำเรียกแทนสิ่งของนั้น ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการจดจำของลูกน้อย

 

7. เล่านิทานให้ลูกฟัง

การเล่านิทานเป็นช่วยเพิ่มระดับสติปัญญาให้กับลูกได้ เพราะในระหว่างที่พ่อแม่เล่านิทานลูกอาจมีคำถามที่ชวนสงสัย หรือพ่อแม่อาจใช้การตั้งคำถามเกี่ยวกับการกระทำของตัวละคร เพื่อให้ลูกน้อยได้รู้จักการคิดวิเคราะห์เมื่อเจอปัญหา อีกทั้งกิจกรรมที่มีการโต้ตอบไปมาจะทำให้ลูกน้อยพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารเพิ่มขึ้นด้วย

 

8. เสริมอาหารบำรุงสมองให้ลูก

ในช่วงที่พัฒนาการทางร่างกายและสมองของลูกน้อยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด การได้รับสารอาหารที่จำเป็นและครบถ้วนตามหลักโภชนาการจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี โดยการให้ลูกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ที่มีความหลากหลาย เน้นการเสริมอาหารที่มีวิตามินบีและอี โอเมก้า 3 DHA ไอโอดีน และธาตุเหล็ก รวมถึงสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เพื่อให้ลูกน้อยมีความจำที่ดีพร้อมที่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

 

9. เลิกพูดคำว่า “อย่า” กับลูกน้อย

คำว่า “อย่า” เป็นคำที่พ่อแม่ไม่ควรพูดจนติดปาก เมื่อลูกอยากจะทำอะไรหรือสนใจอะไรพ่อแม่ควรปล่อยให้ลูกได้ลองทำบ้าง เพราะการพูดห้ามลูกตั้งแต่ที่ลูกยังไม่ได้ลงมือทำอาจเป็นพฤติกรรมของพ่อแม่ที่ไปปิดกั้นพัฒนาทางสมองของลูกเสียก่อน เพราะการให้ลูกได้ลงมือทำด้วยตัวเองจะช่วยให้เด็กได้ฝึกการเรียนรู้และฝึกการแก้ปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาต่อยอดเป็นความฉลาดในอนาคตของเด็กได้

 

10. ใช้พลังของดนตรีสร้างความฉลาด

การใช้ดนตรีเชื่อมโยงกับความฉลาดของเด็กพ่อแม่ทำได้โดยการใช้ดนตรีคลาสสิก เพราะท่วงทำนองที่เบาและช้าของดนตรีคลาสสิคนี้จะทำให้ลูกน้อยมีอารมณ์ที่ผ่อนคลาย อีกทั้งจังหวะที่มีความถี่อย่างสม่ำเสมอและความเสียงสูงต่ำของดนตรีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองในด้านคิดวิเคราะห์ และด้านภาษาของเด็กได้ดีด้วย

 

สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลูกน้อยฉลาดต้องเริ่มจากการมีโภชนาการที่ดีที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย พร้อมด้วยการกระตุ้นสมองด้วยการกอด การทำกิจกรรมต่าง ๆ การเล่น รวมถึงการเอาใจใส่ของพ่อแม่ เพื่อให้ลูกน้อยเกิดความมั่นใจและความพร้อมที่จะเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถพัฒนาความสามารถและทักษะด้านต่าง ๆ ของตัวเองไปพร้อมกับพัฒนาการของร่างกายและสมองได้

 

 

อ้างอิง

  • มหัศจรรย์แห่งการอ่าน ฐานพลังการพัฒนาสมองและศักยภาพมนุษย์, แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
  • สมองดี เริ่มที่นมแม่, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  • พัฒนาสมองของลูกน้อย..ด้วยการเล่นให้เหมาะกับช่วงวัย, โรงพยาบาลพญาไท
  • เทคนิคพัฒนา IQ & EQ เพื่อพัฒนาการลูกน้อย, โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
  • การดูแลสมองเด็ก, โรงพยาบาลเวชธานี
  • เลี้ยงลูกวัยกำลัง “จำ” ทำยังไงให้ฉลาด, โรงพยาบาลพญาไท

อ้างอิง ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566

บทความที่เกี่ยวข้อง

View details เทคนิคพัฒนาสมอง เสริมสร้างศักยภาพให้ลูกน้อยฉลาด พร้อมเรียนรู้
บทความ
เทคนิคพัฒนาสมอง เสริมสร้างศักยภาพให้ลูกน้อยฉลาด พร้อมเรียนรู้

เทคนิคพัฒนาสมอง เสริมสร้างศักยภาพให้ลูกน้อยฉลาด พร้อมเรียนรู้

สมองของลูกน้อยมีพัฒนาการ ตลอดเวลาตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่ 1000 วันแรก เป็นช่วงเวลาทอง ที่คุณแม่สามารถช่วยพัฒนาสมองลูกน้อยได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

View details สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร สารอาหารสำคัญในนมแม่ ดีต่อสมองของลูก
บทความ
สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร สารอาหารสำคัญในนมแม่ ดีต่อสมองของลูกน้อย

สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร สารอาหารสำคัญในนมแม่ ดีต่อสมองของลูก

สฟิงโกไมอีลิน คืออะไร หนึ่งในสารอาหารสำคัญที่พบได้ในนมแม่ มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมองของลูกน้อย ไปดูประโยชน์ของสฟิงโกไมอีลินกัน

View details 5 อาหารเสริมให้ลูกฉลาด กินอะไรให้ลูกฉลาด พัฒนาสมองลูก
บทความ
5 อาหารเสริมให้ลูกฉลาด กินอะไรให้ลูกฉลาด พัฒนาสมองลูก

5 อาหารเสริมให้ลูกฉลาด กินอะไรให้ลูกฉลาด พัฒนาสมองลูก

กินอะไรให้ลูกฉลาดและมีพัฒนาการทางสมองที่ดี ไปดู 5 อาหารเสริมให้ลูกฉลาด และสารอาหารสำคัญที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองของลูกน้อย พร้อมให้ลูกน้อยเรียนรู้ได้อย่างสมวัย

 

View details EF คืออะไร สำคัญต่อพัฒนาการสมองของเด็กในแต่ละช่วงวัยอย่างไร
บทความ
EF คืออะไร สำคัญต่อพัฒนาการสมองของเด็กในแต่ละช่วงวัยอย่างไร

EF คืออะไร สำคัญต่อพัฒนาการสมองของเด็กในแต่ละช่วงวัยอย่างไร

EF คืออะไร Executive Function สำคัญต่อทักษะและพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยอย่างไร ทำไมเด็กถึงควรมีทักษะ EF ที่เหนือกว่า IQ และ EQ ไปดูวิธีเสริมทักษะพัฒนาสมอง EF กัน

2นาที อ่าน

View details ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนมลูก พร้อมช่วงเวลาการขึ้นของฟัน
บทความ
ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนมลูก พร้อมช่วงเวลาการขึ้นของฟัน

ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนมลูก พร้อมช่วงเวลาการขึ้นของฟัน

ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนมลูกเป็นแบบไหน ช่วงเวลาขึ้นและหลุดของฟันชุดแรกของลูกน้อย จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คุณแม่ควรสังเกตอย่างไร พร้อมช่วงเวลาการขึ้นของฟัน

9นาที อ่าน

View details Colostrum คือ น้ำนมสีเหลืองที่มีสฟิงโกไมอีลิน เสริมภูมิคุ้มกันลูก
บทความ
Colostrum คืออะไร น้ำนมเหลืองที่มีสฟิงโกไมอีลิน เสริมภูมิคุ้มกันลูก

Colostrum คือ น้ำนมสีเหลืองที่มีสฟิงโกไมอีลิน เสริมภูมิคุ้มกันลูก

Colostrum คือ น้ำนมสีเหลืองส่วนหน้าที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีสฟิงโกไมอีลิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยแข็งแรงและมีพัฒนาการทางสมองที่ดี

View details กิจกรรมพัฒนาสมอง วิธีพัฒนาสมองเด็ก 2 ขวบ ให้ลูกสมองไว
บทความ
กิจกรรมพัฒนาสมอง วิธีพัฒนาสมองเด็ก 2 ขวบ ให้ลูกสมองไว

กิจกรรมพัฒนาสมอง วิธีพัฒนาสมองเด็ก 2 ขวบ ให้ลูกสมองไว

รวมกิจกรรมพัฒนาสมอง สำหรับลูกน้อยวัย 2 ปี ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการสมองที่ดี ฉลาด และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ไปดูวิธีพัฒนาสมองเด็ก 2 ขวบ ที่ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีกัน

View details 10 กิจกรรมฝึกสมองวัยซน เสริมพัฒนาการให้ลูกสมองไว
บทความ
10 กิจกรรมฝึกสมองวัยซน เสริมพัฒนาการให้ลูกสมองไว

10 กิจกรรมฝึกสมองวัยซน เสริมพัฒนาการให้ลูกสมองไว

กิจกรรมฝึกสมองเด็ก ช่วยพัฒนาสมองลูกน้อยวัย 3-5 ปี ให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสมองที่ดี ฉลาดสมวัย และมีความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมฝึกสมองเด็กแบบไหน เหมาะสำหรับลูก