อาการหมันหลุดเป็นอย่างไร ทำหมันแล้วแต่ยังท้อง เป็นไปได้แค่ไหน

อาการหมันหลุดเป็นอย่างไร ทำหมันแต่ยังท้อง เป็นไปได้แค่ไหน

01.04.2024

ทำหมันในผู้หญิงคือการคุมกำเนิดแบบถาวร ทางการแพทย์จะมีวิธีทำหมันอยู่หลายรูปแบบ ได้แก่ การผูก การรัด การหนีบ หรือทำลายบางส่วนของท่อนำไข่ออกไป ทำให้ท่อนำไข่อุดตัน การทำหมันเป็นการป้องกันไม่ให้อสุจิเข้ามาผสมกับไข่ แต่ก็มีบางครั้งที่พอทำหมันไปแล้ว กลับพบว่าตัวเองมีการตั้งครรภ์ขึ้น สาเหตุเป็นเพราะอะไร และการท้องของ(ใน)คนทำหมันเป็นอย่างไร เช็กพร้อมกันค่ะ

headphones

PLAYING: อาการหมันหลุดเป็นอย่างไร ทำหมันแต่ยังท้อง เป็นไปได้แค่ไหน

อ่าน 6 นาที

 

สรุป

  • การทำหมันเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบไม่ใช้ฮอร์โมน และมีโอกาสในการตั้งครรภ์ขึ้นได้ หากหลังทำหมันไปได้ระยะหนึ่งแล้วท่อรังไข่มีการเชื่อมต่อกันเองขึ้นมา
  • การทำหมันหญิงทำได้ วิธีคือ การทำหมันเปียก สามารถทำได้หลังคลอดลูกภายใน 24-48 ชั่วโมง และการทำหมันแห้ง สามารถทำได้หลังคลอดลูกผ่านไปมากกว่าหนึ่งสัปดาห์เป็นต้นไป ด้วยวิธีการผ่าตัดที่ต้องมีการดมยาสลบ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที
  • การท้องของคนทำหมันสามารถเกิดขึ้นได้หากท่อนำไข่กลับมาเชื่อมกัน ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนทางร่างกายที่อาจเป็นไปได้ว่ามีการตั้งครรภ์ ได้แก่  รู้สึกคัดตึงเต้านม ประจำเดือนขาด ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และปัสสาวะบ่อยขึ้น เป็นต้น

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ทำหมันแล้วแต่ยังท้อง เกิดจากอะไรได้บ้าง

ข้อมูลเชิงวิชาการจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยอธิบายว่าการทำหมันคือวิธีการคุมกำเนิดแบบไม่ใช้ฮอร์โมน ซึ่งการทำหมันพบว่ามีโอกาสในการตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้มีอยู่ 2 ปัจจัย ดังนี้

  1. แพทย์ทำการตัดหรือผูกส่วนที่ไม่ใช่ท่อรังไข่
  2. หลังทำหมันแล้วเกิดมีการเชื่อมต่อกันเองของท่อรังไข่ หรือมีข้อผิดพลาดบางประการที่เกี่ยวข้อง

 

สถิติทำหมันแล้วท้อง มีมากแค่ไหน?

จากการเก็บสถิติทำหมันแล้วท้อง ในประเทศไทยโดยโรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่าหลังทำหมันแล้วมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจะอยู่ที่ 0.2-2 ต่อ 1,000 ราย ส่วนสถิติจากองค์การอนามัยโลกมีข้อมูลของผู้ที่ทำหมันแล้วท้องอยู่ที่ 5 ต่อ 1,000 ราย นอกจากนี้ยังมีผลการเก็บสถิติทำหมันแล้วท้องจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าโอกาสการตั้งครรภ์หลังจากคุมกำเนิดด้วยการทำหมัน สถิตในช่วง 5 ปี อยู่ที่ 13 ต่อ 1,000 ราย และช่วง 10 ปี อยู่ที่ 18.5 ต่อ 1,000 ราย

 

ทำหมันชาย เป็นแบบไหน

ในทางการแพทย์มีข้อบ่งชี้ถึงสาเหตุที่สามารถทำหมันชายได้ เพื่อช่วยในการคุมกำเนิดถาวร ได้แก่

  1. มีประวัติโรคทางพันธุกรรมที่เสี่ยงต่อการถ่ายทอดไปยังบุตร
  2. มีปัญหาทางสุขภาพ เช่น พิการทางสมองปัญญาอ่อน
  3. ภรรยาของฝ่ายชายไม่สามารถตั้งครรภ์มีบุตรได้หลายคน เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ รูมาติก เป็นต้น

 

วิธีทำหมันชาย

การทำหมันจะทำโดยแพทย์ วิธีการคือผูกหรือตัดท่อนำอสุจิ ไม่ให้ตัวอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ของผู้หญิง เมื่ออสุจิกับไข่ไม่มีการผสมกันเกิดขึ้น ก็จะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

 

ขั้นตอนการทำหมันชาย

  1. แพทย์ฉีดยาชาตรงถุงอัณฑะที่ท่ออสุจิวิ่งผ่าน
  2. ใช้มีดกรีดให้เกิดแผลยาวประมาณ 1 เซนติเมตร
  3. นำเอาท่ออสุจิออกมาผูก หรือตัดออก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ว่าจะเป็นวิธีใด แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นวิธีการตัดท่ออสุจิ เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าการผูกท่ออสุจิ

 

การดูแลร่างกายและข้อปฏิบัติหลังทำหมันชาย

  1. หลังผ่าตัดระมัดระวังแผลผ่าตัดไม่ให้ได้รับการกระทบกระเทือน 24-48 ชั่วโมง
  2. ประคบเย็นตรงบริเวณแผลผ่าตัดหากมีอาการบวม และรับประทานยาแก้ปวดเมื่อรู้สึกปวดแผล
  3. หลังผ่าตัดทำหมันควรงดออกกำลังกาย 3-4 วัน
  4. ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์หลังผ่าตัดทำหมันประมาณหนึ่งสัปดาห์ และเมื่อผ่านหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไป หากจะมีเพศสัมพันธ์ ควรมีการคุมกำเนิดเนื่องจากยังมีอสุจิหลงเหลืออยู่ ซึ่งแพทย์จะนัดตรวจดูว่าในน้ำอสุจิยังมีตัวอสุจิอีกหรือไม่หลังจากผ่าตัดทำหมันไปได้ 2-3 เดือน

 

ทำหมันหญิง ทำได้กี่แบบ

การคุมกำเนิดแบบถาวรในผู้หญิงสามารถทำได้ 2 แบบ คือการทำหมันเปียก และการทำหมันแห้ง

 

1. ทำหมันหลังคลอด การทำหมันเปียก (Postpartum)

สามารถทำหลังคลอดลูกภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยที่แพทย์จะผ่าตัดตรงบริเวณใต้สะดือยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร จากนั้นจะมีการผูกท่อนำไข่และตัดท่อนำไข่ทั้งสองข้างออกบางส่วน

 

2. ทำหมันปกติ การทำหมันแห้ง (Interval Sterilization)

สามารถทำหลังคลอดลูกผ่านไปมากกว่าหนึ่งสัปดาห์เป็นต้นไป ด้วยวิธีการผ่าตัดที่ต้องมีการดมยาสลบ ซึ่งใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที ซึ่งแพทย์จะผ่าตัดตรงบริเวณหน้าท้องเหนือกระดูกหัวหน่าวขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อหาท่อนำไข่ เมื่อเจอท่อนำไข่ ก็จะใช้วิธีผูกและตัดท่อนำไข่บางส่วนของทั้งสองข้าง เพื่อทำให้ท่อนำไข่อุดตัน

 

การดูแลร่างกายและข้อปฏิบัติหลังการทำหมันหญิง

  1. หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์แพทย์จะนัดเปิดแผล ระหว่างนี้ต้องระวังไม่ให้แผลผ่าตัดถูกน้ำ ไม่ควรอาบน้ำร้อน และว่ายน้ำ
  2. ห้ามออกกำลังกายหรือยกของหนัก และเดินเป็นเวลานานหลังการผ่าตัดทำหมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ
  3. งดมีเพศสัมพันธ์ตามคำแนะนำจากแพทย์
  4. หากมีอาการปวดท้องและรับประทานยาแก้ปวดแล้วอาการปวดไม่ทุเลาลง และหากมีน้ำหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

อาการหมันหลุดเป็นอย่างไร สัญญาณเตือนที่ต้องคอยสังเกต

การผ่าตัดทำหมันมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้อีก หากท่อนำไข่กลับมาผูกเชื่อมกันหลังจากผ่าตัดทำหมัน ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าอาการหมันหลุดจะรู้สึกภายในร่างกายเป็นเช่นไร แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เป็นสัญญาณเตือนเหล่านี้ อาจเป็นไปได้ว่ากำลังมีการตั้งครรภ์  

  1. รู้สึกเจ็บ คัดตึงเต้านม
  2. มีความรู้สึกอยากรับประทานอาหารมากขึ้น
  3. มีความไวต่อกลิ่น จะรู้สึกไม่ค่อยสบายเมื่อได้กลิ่นอาหารบางชนิด
  4. ประจำเดือนขาด
  5. รู้สึกคลื่นไส้ตอนเช้า
  6. รู้สึกเหนื่อยล้าง่าย
  7. ปัสสาวะบ่อยขึ้น

 

หากทำหมันไปได้ระยะหนึ่ง แล้วพบว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับร่างกาย แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดว่ามีการตั้งครรภ์ขึ้นไม่

 

อาการท้องของคนทำหมัน ต่างจากคนไม่ทำหมันหรือเปล่า?

อาการท้องของคนทำหมันสามารถเกิดขึ้นได้หากท่อนำไข่กลับมาเชื่อมกัน ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนทางร่างกายที่อาจเป็นไปได้ว่ามีการตั้งครรภ์ในมดลูก หรือตั้งครรภ์นอกมดลูกก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งหากพบว่ามีอาการเหล่านี้

  1. รู้สึกคัดตึงเต้านม
  2. มีความอยากอาหารมากกว่าปกติ
  3. จมูกมีความไวต่อกลิ่นอาหาร ทำให้รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน
  4. ประจำเดือนขาด
  5. ร่างกายอ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย
  6. ปัสสาวะบ่อยขึ้น และมีอาการท้องอืด ท้องผูก ขับถ่ายยาก
  7. อารมณ์แปรเปลี่ยนง่าย

 

อาการท้องของคนทำหมัน ต่างจากคนไม่ทำหมันหรือเปล่า

 

ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด แปลว่าท้องชัวร์ไหม

หลังจากผ่าตัดทำหมันไปได้ระยะหนึ่งและสังเกตว่ามีสัญญาณเหมือนการตั้งครรภ์เกิดขึ้น หากคุณแม่ตรวจครรภ์เบื้องต้นจากชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง แล้วมีผลแสดงเป็นสีแดงขึ้นมาทั้ง 2 ขีด คือผลเป็นบวก มีแนวโน้มว่าอาจมีการตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเลือดกับแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากได้ผลที่แม่นยำมากกว่า

 

หลังจากทำหมันมาได้สักระยะหนึ่งแล้วพบว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่แน่ใจว่าใช่อาการเริ่มตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ข้อควรปฏิบัติอย่างแรกคือการไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด และหากพบว่ามีการตั้งครรภ์จะได้ทราบอย่างชัดเจนว่าตั้งครรภ์ปกติในมดลูก หรือนอกมดลูก รวมทั้งจะได้รับคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวของคุณแม่และทารกในครรภ์ค่ะ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. การทำหมันหญิง (Female sterilization), คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  2. ข้อมูลวิชาการชี้ทั่วโลกพบปัญหา ‘หมันหลุด’ คุมกำเนิดทุกวิธียังมีโอกาสตั้งครรภ์, Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ มูลนิธิภิวัฒน์สาธารณสุขไทย
  3. การทำหมันชาย, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  4. การทำหมันชาย, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  5. ทำหมันชาย ง่ายกว่าที่คิด, โรงพยาบาลเบญจรมย์
  6. การทำหมันชาย, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  7. ทำหมันหญิง คุมกำเนิดอย่างได้ผล ทำได้ทั้งตอนคลอดและหลังคลอด, โรงพยาบาลนครธน
  8. คุมกำเนิดแบบไหนดี?, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
  9. Pregnancy After Tubal Ligation: Know the Symptoms, healthline
  10. อาการท้องของคนทำหมัน เกิดขึ้นได้อย่างไร, helloคุณหมอ
  11. 4 วิธีตรวจการตั้งครรภ์ ที่ผู้หญิงควรรู้, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต

อ้างอิง ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567

บทความแนะนำ

คุณแม่หลังคลอดมีไข้หนาวสั่น พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมีไข้หลังคลอด

คุณแม่หลังคลอดมีไข้หนาวสั่น พร้อมวิธีดูแลตัวเองเมื่อมีไข้หลังคลอด

คุณแม่หลังคลอดมีไข้หนาวสั่น อาการแบบนี้ปกติหรือไม่ ไข้หลังคลอดของคุณแม่ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง คุณแม่หลังคลอดมีไข้หนาวสั่น ควรดูแลร่างกายตัวเองอย่างไร

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินเผือก เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ เผือกดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินไข่เค็ม เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ไข่เค็มดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมจีน เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมจีนดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมปัง เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมปังดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินชีสได้ไหม ชีสชนิดไหนปลอดภัย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชีสได้ไหม ชีสชนิดไหนปลอดภัย อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินชีสได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินชีส เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ชีสชนิดไหนกินได้ ดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินทับทิมได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินทับทิมได้ไหม มีประโยชน์ยังไง อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินทับทิมได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินทับทิม เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ทับทิมดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก