อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 27 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 27 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

05.03.2020

อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 คุณแม่มีอายุครรภ์ 6 เดือนก่อนเข้าสัปดาห์แรกของท้องไตรมาสที่ 3 ซึ่งคุณแม่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอาการหายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม อาการชามือ ปวดมือ รวมถึงทารกในครรภ์ก็มีพัฒนาการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

headphones

PLAYING: อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ คุณแม่ท้อง 27 สัปดาห์ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ ทารกในครรภ์จะมีขนาดตัวยาวประมาณ 35-36.8 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 600-900 กรัม สามารถเทียบขนาดตัวได้เท่ากับดอกกะหล่ำ
  • อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ จะมีการพัฒนาขึ้นของไขมัน Vernix มาปกคลุมผิวหนังทั่วร่างกายของทารก
  • อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ คุณแม่จะรู้สึกชามือ และปวดมือ สาเหตุมาจากการหนาตัวขึ้นของพังผืดตรงบริเวณข้อมือไปกดทับเส้นประสาทมีเดียน (Median nerve)

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เวลาผ่านไปไว เผลอแป๊บเดียวคุณแม่ก็เข้าสู่อายุครรภ์ 27 สัปดาห์แล้ว ในสัปดาห์นี้คุณแม่จะรู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบาก หายใจเหมือนไม่อิ่ม จนทำให้รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย ไม่ค่อยสบายตัวมากขึ้น สำหรับอาการหายใจลำบากขณะตั้งครรภ์เป็นอาการปกติที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น อาการหายใจลำบาก เป็นเพราะปอดของคุณแม่ได้รับออกซิเจนน้อยลง

 

ซึ่งมีสาเหตุมาจากมดลูกมีการขยายตัวเพื่อรองรับขนาดร่างกายของทารกในครรภ์ที่เจริญเติบโตขึ้น ทำให้มดลูกเข้าไปเบียดชิดติดกับปอดและกระบังลมของคุณแม่ ส่งผลให้ปอดมีพื้นที่จำกัดในการขยายตัว ปอดจะได้รับออกซิเจนลดลง ทำให้คุณแม่เกิดมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ร่างกายอ่อนแรงหน้ามืดจะเป็นลม

 

ตั้งครรภ์ 27 สัปดาห์ พัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างไร

อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ อยากรู้ว่าลูกในท้องจะมีพัฒนาการอะไรที่เพิ่มขึ้นบ้าง คุณแม่ไปเช็กพร้อมกัน

  • เริ่มมีการลืมตา หลับตา และที่น่าตื่นเต้นคือ ทารกสามารถที่จะมองเห็นแสงจากภายนอกครรภ์ที่ผ่านมายังหน้าท้องคุณแม่
  • ผิวหนังจะมีการพัฒนาให้มีไขมัน Vernix ปกคลุมผิวหนังทั่วร่างกาย
  • กระดูกร่างกายพัฒนาขึ้นจนมีความแข็งแกร่ง
  • รูจมูกทั้งสองถูกพัฒนาจนสามารถเปิดได้ เพื่อใช้ในการหายใจ
  • ระบบการหายใจพัฒนาขึ้นจนสมบูรณ์ มีเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงที่ถุงลม และสมองมีการทำงานด้วยการควบคุมระบบหายใจของทารก
  • ทารกเริ่มมีการสะอึก  ที่เกิดจากการฝึกหายใจจากปอด โดยที่ทารกจะหายใจเอาน้ำคร่ำเข้าปอด และหายใจเอาน้ำคร่ำออกจากปอด
  • สมองมีการพัฒนารอยหยักขึ้นมา
  • ร่างกายของทารกมีการเจริญเติบโตช้าลง เพื่อกระตุ้นให้ระบบทางเดินอาหาร ระบบหายใจ ปอด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายพัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์
  • ทารกจะมีปฏิกิริยาตอบกลับเมื่อได้ยินเสียงของคุณพ่อคุณแม่ผ่านทางหน้าท้อง
  • ทารกมีขนาดตัวที่ใหญ่ แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนไหว พลิก ขยับตัวได้อย่างคล่องแคล่วอยู่ในมดลูกคุณแม่ที่เต็มไปด้วยน้ำคร่ำ

 

อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ อาการคนท้องที่พบได้ทั่วไป

1. ตะคริวน่อง

คุณแม่เกิดอาการตะคริวขึ้นที่น่องขณะตั้งครรภ์ สาเหตุมาจากเลือดไหลเวียนได้น้อยลงทำให้ออกซิเจนที่ส่งจากเลือดไปเลี้ยงบริเวณน่องขาได้น้อยลง ส่งผลให้เกิดเป็นตะคริว รวมถึงการได้รับแคลเซียมไม่พอขณะตั้งครรภ์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นตะคริวได้

 

2. ริดสีดวงทวาร

คุณแม่เป็นริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์ สาเหตุมาจากขนาดมดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับหลอดเลือดดำที่อยู่ในช่องท้อง จนทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกจนเลือดไปคั่งที่หลอดเลือดตรงช่วงก้น เลือดที่สะสมจนคั่งจะเกิดเป็นก้อนปูดออกมา เวลาที่คุณแม่ถ่ายอุจจาระจะถ่ายยาก เพราะถูกก้อนเลือดปูดกันไว้ ทำให้ถ่ายยาก และถ่ายมีเลือดหลุดปนมากับก้อนอุจจาระได้

 

3. กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

คุณแม่มีอาการปัสสาวะเล็ด หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวขณะตั้งครรภ์ จึงทำให้กล้ามเนื้อช่วงเชิงกรานต้องแบกรับน้ำหนักมากสะสมมาเป็นเวลาหลายเดือน ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณช่วงเชิงกรานหย่อนลงมา จนหูรูดท่อปัสสาวะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ และคุณแม่ก็จะมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ บางครั้งถึงกับปัสสาวะเล็ดออกมาได้

 

4. ท้องผูก

ขนาดตัวของทารกที่พัฒนาใหญ่ขึ้น ทำให้ไปกดทับลำไส้ใหญ่จนไม่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมาจากการที่ฮอร์โมนในร่างกาย ก็ส่งผลให้ระบบขับถ่ายไม่ปกติ คุณแม่จึงมีอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์

 

5. ปวดหลัง

อายุครรภ์ที่มากขึ้นส่งผลให้กระดูกสันหลังของคุณแม่แอ่นจากการรับน้ำหนักครรภ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะคลอด จึงส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดหลัง

 

6. ชามือ ปวดมือ

คุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากขึ้น จะมีอาการชามือ ปวดมือเกิดขึ้นได้ สาเหตุมาจากการหนาตัวขึ้นของพังผืดตรงบริเวณข้อมือไปกดทับเส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) ส่งผลทำให้เกิดการชาขึ้นที่ปลายนิ้วมือ

 

คุณแม่มีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง จนทำให้เส้นเอ็นและเนื้อเยื่อในข้อมือขยายบวมขึ้นมาจนไปกดทับเบียดเส้นประสาทและพังผืด จนทำให้เกิดอาการปวดและชาขึ้นที่มือทั้งสองข้าง บางครั้งก็จะมีอาการเจ็บแปล๊บ ๆ เหมือนไฟดูดร่วมกับอาการปวดและชา

 

อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ ท้องจะใหญ่ขึ้นแค่ไหน

ตั้งแต่ช่วงอายุครรภ์ 27 สัปดาห์เป็นต้นไป เรียกว่าเป็นช่วงสบาย ๆ ของคุณแม่เลยก็ได้ เพราะการใช้ชีวิตประจำวัน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ของคุณแม่จะต้องทำอย่างช้า ๆ และมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากขนาดมดลูกในครรภ์เริ่มใหญ่ขึ้น ตรงบริเวณยอดมดลูกจะไปชิดติดกับบริเวณชายโครง จนทำให้คุณแม่หายใจได้ยาก และเหนื่อยง่ายขึ้น คุณแม่จะเดินได้ช้าลง เดินอุ้ยอ้ายเหมือนเป็ดเดิน

 

ท้อง 27 สัปดาห์ ลูกในครรภ์จะตัวใหญ่แค่ไหน

ทารกในครรภ์อายุ 27 สัปดาห์มีขนาดใหญ่ขึ้น เปรียบเสมือนดอกกะหล่ำ หรือประมาณ 35-36.8 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 600-900 กรัม

 

พัฒนาการของทารกในครรภ์อายุ 27 สัปดาห์

  • ในช่วงนี้ทารกในครรภ์เริ่มที่จะจำเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว
  • ใบหูทั้งสองข้างมีแว๊กซ์ปกคลุม
  • อวัยวะสำคัญอย่างปอดเริ่มทำงานแล้ว
  • เริ่มเปิดเปลือกตาได้
  • มีลายนิ้วมือนิ้วเท้า

 

การดูแลตัวเอง สำหรับคุณแม่ท้อง 27 สัปดาห์

 

การดูแลตัวเอง สำหรับคุณแม่ท้อง 27 สัปดาห์

การเพิ่มความระมัดระวังในการทำกิจวัตรประจำวันสำคัญมาก ๆ ด้วยครรภ์ขนาดที่เพิ่มใหญ่ขึ้น คุณแม่ไม่สามารถทำอะไรได้คล่องตัว และเหนื่อยง่ายขึ้นมาก ๆ หากลุกขึ้นนั่งกะทันหัน หรือเดินเร็ว ๆ อาจหน้ามืดเป็นลมได้ นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถดูแลตัวเองจากอาการปกติที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ง่าย ๆ ดังนี้

 

1. ริดสีดวงทวาร

  • เมื่อปวดอุจจาระให้เข้าห้องน้ำทันที ไม่ควรกลั้นอุจจาระ
  • รับประทานผักใบเขียว และผลไม้ เพื่อเพิ่มกากใยขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  • ดื่มน้ำให้มากเพียงพอต่อวัน
  • กรณีที่ใช้ยาระบาย ควรอยู่ในการแนะนำจากแพทย์เท่านั้น

 

2. ชามือ

  • หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือหนัก เช่น ยกของ ถือของ กิจกรรมที่ต้องมีการกระดกและงอข้อมือ เช่น การทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

 

3. ปวดหลัง

  • รับประทานอาหารสำหรับคนท้อง ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์การตั้งครรภ์
  • เวลานั่ง ไม่นั่งไขว่ห้าง แนะนำคุณแม่นั่งให้หลังตรงและช่วงหลังควรชิดกับพนักพิงเก้าอี้
  • เวลานอน แนะนำให้นอนท่าตะแคง เพื่อให้ง่ายต่อการลุกนั่ง
  • ไม่ควรยกหรือถือของหนัก
  • สวมรองเท้าที่ไม่มีส้นสูง
  • ออกกำลังกาย เช่น การว่ายน้ำ การเดิน

 

4. ตะคริวน่อง

  • ดื่มน้ำอุ่น
  • รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม ผักใบเขียวต่าง ๆ
  • ปรับท่านอนเป็นท่านอนตะแคงซ้าย เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย
  • ก่อนนอนให้ยืดกล้ามเนื้อช่วงขาทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 5 ครั้ง
  • กรณีที่เกิดตะคริวขึ้นที่น่อง ให้คุณแม่เหยียดขาข้างที่เกิดตะคริวยืดออกให้สุดเท้า แล้วนวดอย่างเบามือตรงน่องข้างที่เกิดตะคริว

 

เคล็ดลับสำหรับคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์เพื่อช่วยให้คุณแม่มีอารมณ์ที่ดี และลูกน้อยในครรภ์มีพัฒนาการสมองและอารมณ์ดี แนะนำคุณแม่หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การฟังเพลง การนั่งสมาธิ หรือออกกำลังกายเบา ๆ มีการศึกษาทางการแพทย์ชี้ว่าคุณแม่ที่มีภาวะอารมณ์ดีตลอดการตั้งครรภ์ ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphin) ที่เป็นสารความสุขออกมา เอ็นดอร์ฟินส์ถูกส่งผ่านทางสายสะดือไปให้ลูกในท้อง ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ลูกมีพัฒนาการสมองดี และอามรณ์ดีได้

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. ท้องไตรมาสแรก ภาวะเสี่ยงที่คุณแม่ต้องระวัง, โรงพยาบาลเปาโล
  2. อาการหน้ามืด อ่อนเพลียในคุณแม่ตั้งครรภ์, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  3. การตั้งครรภ์ 27 สัปดาห์, Siamhealth
  4. 9 เดือน กับพัฒนาการของทารกในครรภ์, โรงพยาบาลเปาโล
  5. อาการตะคริวน่องในคนท้องแก้ไขอย่างไร, คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  6. 7 อาการป่วนตอนท้อง ตอนที่ 2, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  7. ปัสสาวะเล็ด, สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  8. วิธีรับมืออาการท้องผูก ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องรู้, โรงพยาบาลบางปะกอก
  9. คุณแม่ตั้งครรภ์กับอาการปวดหลัง, โรงพยาบาลสมิติเวช
  10. อาการมือชา, โรงพยาบาลนนทเวช
  11. ชวนคุณแม่ลูกอ่อนมาอ่าน … ทำไมถึงชอบปวดข้อมือตอนมีน้อง, โรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ KDMS
  12. พัฒนาการของทารกในครรภ์ตลอด 9 เดือน เป็นอย่างไรบ้างนะ, โรงพยาบาลพญาไท
  13. พัฒนาการทารกในครรภ์ สัปดาห์ที่ 27 ของการตั้งครรภ์, helloคุณหมอ
  14. กายภาพบำบัดเพื่อลดอาการปวดหลังส่วนล่างขณะตั้งครรภ์, ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
  15. อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

อ้างอิง ณ วันที่ 14 มกราคม 2567

บทความแนะนำ

คนท้องกินลองกองได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินลองกองได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินลองกองได้ไหม คุณแม่อยากกินลองกอง กินเยอะเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ไหม จะอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คนท้องอยากกินลองกอง กินเท่าไหร่ถึงพอดี

คนท้องกินส้มโอได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินส้มโอได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินส้มโอได้ไหม ในส้มโอมีสารอาหารอะไรที่ดีกับคนท้องบ้าง คนท้องกินส้มโอมากไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คุณแม่กินส้มโอได้บ่อยแค่ไหน ไปดูกัน

คนท้องมือชา เกิดจากอะไร อันตรายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม

คนท้องมือชา เกิดจากอะไร อันตรายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม

คนท้องมือชา เกิดจากอะไร อาการมือชาของคนท้องขณะตั้งครรภ์ บอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง อาการมือช้า นิ้วชา แบบไหนเข้าข่ายอันตรายและควรไปพบแพทย์ พร้อมวิธีดูแลตัวเอง

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินเผือก เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ เผือกดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินไข่เค็ม เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ไข่เค็มดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมจีน เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมจีนดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมปัง เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมปังดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์