ตกขาวสีน้ำตาลคนท้องบอกอะไร แม่ท้องมีตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน

ตกขาวสีน้ำตาลคนท้องบอกอะไร แม่ท้องมีตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน

04.10.2024

เมื่อตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะมีฮอร์โมนการตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้คนท้องมีตกขาวมากกว่าตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งตกขาวนี้มีทั้งในแบบปกติและผิดปกติ คุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตตัวเองในขณะตั้งครรภ์ให้ดี ว่าตัวเองมีตกขาวที่ผิดปกติหรือเปล่า เพราะตกขาวที่ผิดปกติ อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าคุณแม่มีปัญหาทางสุขภาพ

headphones

PLAYING: ตกขาวสีน้ำตาลคนท้องบอกอะไร แม่ท้องมีตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน

อ่าน 7 นาที

 

สรุป

  • ตกขาว มีลักษณะเป็นเมือก สีขาว ขุ่น หรือใส ไม่มีกลิ่นเหม็น เป็นสารคัดหลั่งที่อยู่ในร่างกายของผู้หญิงที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอด มีหน้าที่ป้องกันการระคายเคือง หรือป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ
  • ตกขาวสีน้ำตาลที่ไม่มีกลิ่นนั้น เป็นการตกขาวแบบมีเลือดปน มักเกิดจากประจำเดือนที่ตกค้าง ตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คันนี้ จะมีปริมาณที่ไม่มาก ไม่ส่งผลอันตราย
  • คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะตกขาวมากกว่า ตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ เพราะฮอร์โมนในการตั้งครรภ์นั้นทำให้มีการสร้างมูกได้มากขึ้น ตกขาวที่มีสีน้ำตาลปนเลือด เหลือง เขียว เทา จะเป็นตกขาวที่ผิดปกติ
  • ตกขาวสีน้ำตาลคนท้อง เกิดจากความผิดปกติหลายสาเหตุ เช่น มีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์, ติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อรา หรือ ครรภ์ไข่ปลาอุก มีเลือดออกมาจากช่องคลอด

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ตกขาวสีน้ำตาลคนท้องเกิดจากอะไร อันตรายไหม

คนท้องมักมีปริมาณในการตกขาวมากกว่าตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ เป็นผลมาจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์ ทำให้มีการสร้างมูกที่ปากมดลูกได้มากขึ้น ตกขาวที่พบในคนท้องจะมีสีขาว หรือมูกใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน หรือแสบช่องคลอด อาการตกขาวผิดปกติ จะมีสีน้ำตาลปนเลือด เหลือง เขียว เทา เกิดจากความผิดปกติหลายสาเหตุ เช่น

  • ติดเชื้อจากโรคเพศสัมพันธ์
  • ติดเชื้อ อาทิเช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อโปรโตซัว ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือ เกิดจากการเสียสมดุลภายในช่องคลอด
  • อาจมีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น เจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด หรือภาวะแท้งคุกคาม
  • ตกขาวสีน้ำตาล อาจมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก ติ่งเนื้อ
  • ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เอชไอวี ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
  • รกเกาะต่ำ ส่งผลให้มีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ ในช่วงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป
  • ท้องนอกมดลูก มักพบได้ค่อนข้างบ่อย จะมีเลือดปนออกมากับตกขาว จึงทำให้เป็นสีน้ำตาล
  • ครรภ์ไข่ปลาอุก มีเลือดสีแดงอ่อน หรือสีน้ำตาลเข้มออกมาจากช่องคลอด ช่วงอายุครรภ์ประมาณ 4-12 สัปดาห์

 

การตกขาวที่ผิดปกตินี้ ตกขาวสีน้ำตาล อาจเกิดจากการติดเชื้อ และอาจลุกลามก่อให้เกิดติดเชื้อในน้ำคร่ำ หรือ ติดเชื้อในมดลูกระยะหลังคลอด หรือแม้แต่ทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ซึ่งถือว่าส่งผลอันตรายต่อทารกในครรภ์ หากคุณแม่ตั้งครรภ์พบว่าตกขาวที่มี สีเปลี่ยนไป หรือในบางกรณีอาจมีกลิ่นร่วมด้วย เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์ ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัด และรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

 

ตกขาว คืออะไร

ตกขาว คือ สารคัดหลั่งที่อยู่ในร่างกายของผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ถูกขับออกมาทางช่องคลอด มีลักษณะเป็นเมือก สีขาว ขุ่น หรือใส ไม่มีกลิ่นเหม็น มีหน้าที่ป้องกันการระคายเคือง หรือป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ มักจะมีตกขาวในช่วงก่อนมีประจำเดือน ระหว่างมีประเดือน และหลังมีประจำเดือน

 

ตกขาวสีน้ำตาลกับเลือดล้างหน้าเด็กต่างกันยังไง

ตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน เป็นการตกขาวแบบมีเลือดปน มีปริมาณไม่มาก มักเกิดจากประจำเดือนที่ตกค้าง ไม่ส่งผลอันตราย ตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน จึงต่างจากเลือดล้างหน้าเด็ก เพราะเลือดล้างหน้าเด็ก คือ เลือดที่มาจากกระบวนการปฏิสนธิ ที่ตัวอ่อน ฝังตัวเข้ากับผนังของมดลูก จึงทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อย ประมาณ 1-2 วัน

 

ตกขาวผิดปกติของผู้หญิง เกิดจากสาเหตุอะไร

อาการตกขาวผิดปกติ มักมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การติดเชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือ มีสาเหตุมาจาก มีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น เนื้องอก หรือมะเร็ง เลือดออกจากการตกไข่ นอกจากนี้อาจมาจากสาเหตุที่มีประจำเดือนตกค้าง หรือเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนที่ผนังมดลูก ที่เรียกกันว่า เลือดล้างหน้าเด็ก เป็นต้น

 

ตกขาวผิดปกติแต่ละแบบ บอกถึงอะไรบ้าง

ตกขาวปกติ จะมีสีขาว ขุ่น หรือใส ส่วนตกขาวที่ผิดปกตินั้น จะมีสีที่แตกต่างออกไปจากการตกขาวปกติ คือ

1. ตกขาวสีเขียว

จะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวและมีฟอง เกิดจากการติดเชื้อพยาธิจากการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้คันอวัยวะเพศเพราะมีผื่นแสบแดง ในกรณีที่ตกขาวสีเขียวไม่มีกลิ่น ไม่คัน อาจติดเชื้อจากแบคทีเรียบางชนิดที่ไม่ส่งผลอันตราย

 

2. ตกขาวสีเหลือง

หากตกขาวมีสีเหลืองร่วมกับมีกลิ่นคาวและมีอาการคันร่วมด้วย อาจเกิดจากติดเชื้อแบคทีเรีย หากตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นเหม็น อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ในกรณีที่มีตกขาวเป็นหนอง สีเหลืองปนเขียว มีกลิ่นเหม็นมาก ปัสสาวะแสบคัน อาจเกิดจากติดเชื้อหนองใน

 

3. ตกขาวสีครีม

หรือสีเหลืองอ่อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นเหม็น แต่ไม่เหม็นคาว พบได้ในกรณีที่ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันนาน ๆ

 

4. ตกขาวสีเทา

เกิดจากการอักเสบในช่องคลอด เนื่องจากแบคทีเรียในช่องคลอดบางชนิดลดลง ทำให้แบคทีเรียก่อโรคเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ตกขาวมีสีเทาอ่อน กลิ่นเหม็นคาวรุนแรง อีกสาเหตุหนึ่ง การมีตกขาวสีเทา อาจเกิดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

 

5. ตกขาวสีน้ำตาลหรือปนเลือด

หากมีสีน้ำตาลหรือมีเลือดปนออกมากับตกขาวที่ไม่มากนัก มักเกิดจากประจำเดือนที่ตกค้าง แต่หากมีตกขาวปนกับเลือด และมีกลิ่นเหม็น อาจเกิดจากความผิดปกติของเซลล์มดลูก หรือติดเชื้อบริเวณช่องคลอด หากมีอาการปวดท้องน้อยร่วมกับมีตกขาวสีน้ำตาล อาจเกิดจากเลือดล้างหน้าเด็ก ที่มีการฝังตัวของตัวอ่อน

 

ตกขาวสีน้ำตาลไม่มีกลิ่นไม่คัน ตกขาวคนท้องบอกอะไรได้บ้าง

 

เคล็ดลับดูแลสุขภาพน้องสาว ให้มีสุขอนามัยที่ดี

การดูแลสุขภาพน้องสาวให้มีสุขอนามัยที่ดี เป็นเรื่องที่ผู้หญิงทุกคนควรใส่ใจ การละเลยไม่ดูแลให้ถูกวิธี สามารถทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ซึ่งการดูแลสุขภาพน้องสาวให้มีสุขภาพดีอย่างถูกวิธี มีดังนี้

  • สังเกตความผิดปกติอยู่เสมอ ดูแลสุขภาพน้องสาวให้มีสุขอนามัยที่ดี ต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศเสมอ เช่น ตกขาวมีสีผิดปกติไปจากเดิม อวัยวะเพศมีกลิ่น คันในช่องคลอด ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะแล้วเจ็บ
  • ดูแลในช่วงมีประจำเดือน เมื่อถึงช่วงมีประจำเดือน ควรดูแลสุขภาพภายในของตัวเองให้ดี ใช้ผ้าอนามัยที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สะอาด ไม่อับชื้น เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย เช้า กลางวัน เย็น ไม่ควรใส่แผ่นผ้าอนามัยทุกวัน เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้น
  • เลือกชุดชั้นในที่สวมใส่สบาย ระบายเหงื่อ ไม่รัดรูป เพื่อป้องกันความอับชื้น และเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
  • ทำความสะอาดเป็นประจำอย่างถูกวิธี การทำความสะอาดอวัยวะเพศในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่ การทำความสะอาดไม่ดีพอ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมของเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดไม่ว่าจะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำสะอาด เพราะจะทำให้เกิดความระคายเคือง และขาดสมดุลในช่องคลอด ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ควรทำความสะอาดหลังการปัสสาวะ และอุจจาระ ด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งและซับด้วยกระดาษชำระให้แห้ง โดยเช็ดจากอวัยวะเพศไปทวารหนัก เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคจากทางทวารหนักมาทางช่องคลอด
  • ควรใส่ถุงยางอ นามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน โรคเริม โรคเอชไอวี หูดที่อวัยวะเพศ
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยกำจัดความอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ จากไขมันส่วนเกินบริเวณขาหนีบด้านใน
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะอาหารที่มีประโยชน์และน้ำ ช่วยรักษาสุขอนามัยทางเพศ บรรเทาปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดได้ เช่น โยเกิร์ต เพราะมีโพรไบโอติก ช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด

 

ตกขาวที่มีความผิดปกติ มักมาจากปัญหาสุขภาพหลากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ หรือมีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด หากคุณแม่ท้องสังเกตพบว่า มีตกขาวที่มีสีที่แตกต่างจากเดิม มีกลิ่นที่เหม็น มีอาการแสบหรือคัน ปัสสาวะได้ไม่สุด ควรรีบพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์



อ้างอิง:

  1. อาการตกขาว เรื่องใกล้ตัวของผู้หญิงที่ต้องรู้, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  2. ตกขาวสีไหนปกติ สีไหนที่บอกว่าเรากำลังมีปัญหา, โรงพยาบาลเปาโล
  3. สีของตกขาวบอกอะไร, โรงพยาบาลสมิติเวช
  4. อาการตกขาวในคนท้อง, โรงพยาบาลจอมเทียน
  5. 10 สาเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวสีน้ำตาล, Pobpad
  6. ป้องกันภาวะครรภ์ไข่ปลาอุกด้วยการฝากครรภ์, โรงพยาบาลเพชรเวช
  7. เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร ต่างจากประจำเดือนอย่างไร, HelloKhunmor
  8. ตกขาว ภาวะที่คุณผู้หญิงไม่ควรมองข้าม, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  9. 4 วิธีง่าย ๆ ดูแลจุดซ่อนเร้น, โรงพยาบาลพญาไท
  10. อวัยวะเพศหญิง กับวิธีดูแลจุดซ่อนเร้นให้สะอาดสุขภาพดี, Pobpad

อ้างอิง ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2567
 

บทความแนะนำ

คนท้องกินลองกองได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินลองกองได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินลองกองได้ไหม คุณแม่อยากกินลองกอง กินเยอะเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ไหม จะอันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คนท้องอยากกินลองกอง กินเท่าไหร่ถึงพอดี

คนท้องกินส้มโอได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินส้มโอได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินส้มโอได้ไหม ในส้มโอมีสารอาหารอะไรที่ดีกับคนท้องบ้าง คนท้องกินส้มโอมากไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า คุณแม่กินส้มโอได้บ่อยแค่ไหน ไปดูกัน

คนท้องมือชา เกิดจากอะไร อันตรายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม

คนท้องมือชา เกิดจากอะไร อันตรายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ไหม

คนท้องมือชา เกิดจากอะไร อาการมือชาของคนท้องขณะตั้งครรภ์ บอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง อาการมือช้า นิ้วชา แบบไหนเข้าข่ายอันตรายและควรไปพบแพทย์ พร้อมวิธีดูแลตัวเอง

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินเผือกได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินเผือก เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ เผือกดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม กินมากเกินไป อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินไข่เค็ม เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ไข่เค็มดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมจีนได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมจีน เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมจีนดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม เท่าไหร่ถึงพอดี อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า

คนท้องกินขนมปังได้ไหม คุณแม่ท้องอยากกินขนมปัง เพื่อบำรุงสุขภาพครรภ์ ขมมปังดีกับลูกในท้องหรือเปล่า กินเท่าไหร่ถึงพอดีและปลอดภัยกับคุณแม่และลูกในครรภ์

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก