เลือดล้างหน้าเด็ก สีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์

เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้

เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร สัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ที่ควรรู้

คุณแม่ตั้งครรภ์
บทความ
ก.พ. 17, 2024
5นาที

เลือดออกจากช่องคลอดกะปริบกะปรอย เป็นสัญญาณของเลือดล้างหน้าเด็กหรือเลือดประจำเดือนจะรู้ได้อย่างไร ลักษณะอาการเลือดล้างหน้าเด็กมีอาการคล้ายกับการเป็นประจำเดือนเป็นอย่างมากเพราะเป็นสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์ ในหญิงที่ต้องการตั้งครรภ์ควรสังเกตลักษณะและอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และควรตรวจครรภ์เพื่อให้มั่นใจว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

 

สรุป

  • เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดจากการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิจนเกิดเป็นตัวอ่อนแล้วฝังตัวที่โพรงมดลูกได้ประมาณ 10-14 วัน ทำให้มีอาการเลือดไหลออกมา
  • อาการเลือดล้างหน้าเด็กต่างกับการมีประจำเดือน คือ ปริมาณเลือดจะน้อยเป็นหยด และมีเลือดออกเพียง 1-2 วัน เท่านั้น
  • ภาวะเลือดออกในระหว่างการตั้งครรภ์ที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง คือ อาการแท้ง อาการตั้งครรภ์นอกมดลูก และอาการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก ดังนั้น หากคุณแม่เริ่มต้นตั้งครรภ์แล้วพบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่อาการของเลือดล้างหน้าเด็กควรรีบไปพบแพทย์ทันที

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleeding) คือ เลือดที่ออกมาหลังจากตัวอ่อนเข้าไปฝังตัวที่มดลูกในช่วงใกล้เคียงกับมีประจำเดือนในรอบถัดไป ทำให้ผู้หญิงหลายคนเกิดความสับสนและไม่แน่ใจว่าตัวเองตั้งครรภ์จริงหรือไม่ และกังวลว่าการตั้งครรภ์จะมีปัญหา

 

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดขึ้นได้อย่างไร

เลือดล้างหน้าเด็กเกิดขึ้นหลังจากที่อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ประมาณ 10-14 วัน แล้วเกิดเป็นตัวอ่อนก่อนที่จะค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าไปฝังตัวยึดเกาะที่ผนังมดลูกทำให้เกิดเลือดออกเล็กน้อย จาง ๆ โดยแทบไม่ต้องใช้ผ้าอนามัยเลย ซึ่งอาการนี้เป็นอาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์

 

ลักษณะอาการของ “เลือดล้างหน้าเด็ก”

อาการเลือดล้างหน้าเด็กมีอาการคล้ายกับประจำเดือนมาก ได้แก่

  • เลือดออกเล็กน้อย ตั้งแต่สีชมพูไปจนถึงสีน้ำตาล
  • อาจมีลิ่มเลือดคล้ายเป็นประจำเดือน
  • มีเลือดออกประมาณ 1-2 วัน
  • คัดตึงหน้าอก
  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลียได้ง่าย
  • อาเจียน เวียนศีรษะ
  • อารมณ์แปรปรวน

 

เลือดล้างหน้าเด็ก เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือไม่?

อาการเลือดล้างหน้าเด็กเป็นอาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนท้องทุกคน ในผู้หญิงบางคนอาจไม่มีเลือดล้างหน้าเด็กออกมาแต่อย่างใด ซึ่งเลือดที่ไหลออกมานั้นไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์และจะหยุดไปเอง หากคุณมีอาการเลือดออกที่ผิดปกติแนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของความผิดปกติของร่างกาย เพราะอาการเลือดออกอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน การแท้งลูก หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้

 

เลือดล้างหน้าเด็กต่างจากประจำเดือนอย่างไร

อาการเลือดล้างหน้าเด็กกับอาการมีประจำเดือนมีความคล้ายกันจึงทำให้คุณผู้หญิงไม่เกิดความสับสน แต่ถ้าสังเกตดี ๆ อาการจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย คือ

 

1. เลือดประจำเดือน

  • เลือดไหลออกเยอะ
  • มีเลือดออกนานกว่าประมาณ 3-7 วัน
  • มีสีแดงหรือสีแดงเข้ม

 

2. เลือดล้างหน้าเด็ก

  • มีเลือดออกเล็กน้อย จาง ๆ
  • มีเลือดออกเพียง 1-2 วัน
  • มีสีชมพูหรือแดงอ่อน

 

มีเลือดล้างหน้าเด็ก จะตรวจครรภ์เจอไหม

อาการเลือดล้างหน้าเด็กเป็นอาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ หากคุณรู้สึกว่ามีอาการคล้ายการตั้งครรภ์ทุกประการ สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์จากปัสสาวะเพื่อหาค่าฮอร์โมนการตั้งครรภ์ หรือค่า HCG ได้ เพราะปกติแล้วค่า HCG จะสูงขึ้นหลังจากเกิดการฝังตัวในมดลูก โดยรอหลังจากเลือดล้างหน้าเด็กหยุดไหลไปแล้วประมาณ 3-6 วัน หรือเข้ารับการตรวจครรภ์จากแพทย์ด้วยการเจาะเลือดเพราะมีความแม่นยำกว่า

 

ควรทำอย่างไรเมื่อมีเลือดล้างหน้าเด็ก?

เมื่อคุณผู้หญิงมีเลือดไหลออกมาซึ่งเกิดขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ได้ประมาณ 10-14 วัน ว่าที่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องกังวลหรือทำอย่างไร เพราะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ ยกเว้นแต่มีเลือดออกมากกว่าปกติ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ คุณแม่ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา

 

อาการเลือดออกช่วงแรกของการตั้งครรภ์แบบไหนอันตราย

ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ หรือช่วง 20 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์คุณแม่ต้องระวังสัญญาณอันตรายที่ก่อให้เกิดเลือดออกจากช่องคลอดอะไรบ้าง

 

1. อาการแท้ง (Miscarriage):

คือ อาการที่มีเลือดออกจากช่องคลอดมักเกิดขึ้นภายใน 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ จะมีอาการปวดท้องร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้ พบได้หลังจากคุณแม่ได้สูญเสียลูกน้อยไปในระหว่างการตั้งครรภ์ สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแท้งเช่น ความผิดปกติของทารกตั้งแต่กำเนิด หรือมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ทำให้ร่างกายของคุณแม่ขับเนื้อเยื่อออกมาซึ่งเป็นไปตามกลไกทางธรรมชาติ อาการที่บอกว่าคุณแม่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งคุกคาม ได้แก่

  • ปวดบริเวณท้องน้อย หรืออาจไม่ปวดก็ได้
  • เลือดไหลออกจากช่องคลอด
  • มีลิ่มเลือดหรือเนื้อเยื่อไหลออกมาด้วย
  • มีอาการตะคริว
  • มีอาการแพ้ท้อง เหนื่อยง่าย อยากอาหารหรือไม่อยากอาหารก็ได้

 

2. อาการตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy):

เกิดจากการที่ตัวอ่อนไปฝังตัวอยู่ในโพรงนอกมดลูก โดยพบมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งพบมากที่บริเวณท่อน้ำไข่เนื่องจากตัวอ่อนไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึงภายในโพรงมดลูกได้ หรือฝังตัวในตำแหน่งอื่นที่ไม่ใช่ผนังมดลูก เมื่อตัวอ่อนโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงเกิดการฉีกขาดทำให้เกิดเลือดออกตอนท้อง ถ้ามีการแตกของถุงน้ำคร่ำการตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อคุณแม่เป็นอย่างมาก อาการตั้งครรภ์นอกมดลูก มีดังนี้

  • มีเลือดออก
  • รู้สึกปวดในช่องท้อง

 

3. อาการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก (molar pregnancy/hydatidiform mole):

เป็นอาการที่ทำให้เกิดเลือดไหลออกจากช่องคลอด มีอาการคล้ายกับภาวะแท้ง เกิดจากการผสมของไข่กับสเปิร์มที่ผิดปกติทำให้เกิดเป็นถุงน้ำที่มีลักษณะคล้ายกับเม็ดสาคูหรือพวกองุ่นหรือไข่ปลา เนื้อเยื่อของตัวอ่อนได้กลายเป็นเซลล์เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงแต่อาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ เมื่อถุงน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เกิดภาวะเลือดออกจากช่องคลอดขึ้น ลักษณะอาการของคนที่มีภาวะตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก คือ

  • เลือดออกจากช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอย หรือไหลออกมามาก
  • มดลูกมีขนาดใหญ่เร็ว
  • มีอาการเวียนหัวคลื่นไส้พะอืดพะอม และแพ้ท้องรุนแรง
  • อ่อนเพลีย
  • มีภาวะครรภ์เป็นพิษ

 

เลือดล้างหน้าเด็กเป็นอาการที่อาจไม่ได้พบทุกคน บางคนอาจมีอาการที่แตกต่างกัน ในคุณแม่ที่พบว่าตัวเองมีเลือดออกตอนท้องอ่อน ๆ ไม่ต้องกังวลเพราะเป็นเพียงอาการของการตั้งครรภ์เท่านั้น หากคุณพบว่ามีเลือดออกมากเป็นเวลานานให้เข้าพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดเพื่อที่คุณแม่จะได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

 

 

อ้างอิง:

  1. “เลือดล้างหน้าเด็ก” คืออะไร มาจากไหน ต่างอย่างไรกับเลือดประจำเดือน?, โรงพยาบาลเวิร์ดเมดิคอล
  2. Implantation Bleeding, WebMD
  3. แนวทางการจัดเตรียมบริการเตรียมความพร้อมก่อนสมรสและก่อนตั้งครรภ์, กรมอนามัย
  4. 8 สัญญาณอันตรายในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ควรรู้, โรคพยาบาลพญาไท
  5. ที่มาของเลือดออกทางช่องคลอดของคุณแม่ตั้งครรภ์, โรงพยาบาลเปาโล
  6. เลือดออกตอนท้องอ่อนๆ เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่, Hellokhunmor
  7. ครรภ์ไข่ปลาอุก, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

อ้างอิง ณ วันที่ 7 มกราคม 2567