ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง คุณแม่ท้องกลมท้องแหลม บอกอะไรได้บ้าง
ลักษณะและขนาดของท้องในระหว่างการตั้งครรภ์ของแม่แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ลักษณะท้องจะแหลมหรือกลมขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่ตั้งครรภ์ ว่าจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง และมดลูกลักษณะแบบใด หน้าท้องกลม หน้าท้องแหลม ลักษณะของท้องคุณแม่ไม่สามารถบอกเพศลูกได้แม่นยำ เป็นเพียงความเชื่อโบราณที่เชื่อมต่อ ๆ กันมา หากอยากทราบเพศลูกอย่างแม่นยำควรปรึกษาสูติแพทย์ เพื่อตรวจหาเพศลูกอย่างถูกวิธีตามหลักการแพทย์เท่านั้น
สรุป
- ลักษณะท้อง และขนาดครรภ์ของคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนจะมีขนาดไม่เท่ากัน คุณแม่ตั้งครรภ์ตัวสูงมักจะมีหน้าท้องกว้างหรือกางออก คุณแม่ตั้งครรภ์รูปร่างไม่สูง หน้าท้องจะแคบลงจนแหลม ความกว้างของหน้าท้องยังบ่งบอกถึงตำแหน่งของทารกในครรภ์
- ความเชื่อโบราณมักเชื่อกันว่า หากคุณแม่ท้องแหลมและอยู่ต่ำ เชื่อว่าจะได้ลูกชาย หากมีท้องที่กลมและอยู่สูง เชื่อว่าจะได้ลูกสาว หากต้องการทราบเพศลูกที่แม่นยำควรตรวจกับแพทย์
- โดยปกติแล้วท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะปรากฎให้เห็นชัดเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 12-16 สัปดาห์ ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะเห็นชัดเจน ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่และพัฒนาการของการตั้งครรภ์
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง แต่ละแบบต่างกันมากไหม
- ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง แบบไหนได้ลูกสาว แบบไหนได้ลูกชาย
- ท้องกลมท้องแหลม บอกเพศลูกได้กี่เปอร์เซ็นต์
- ทำไมลักษณะท้องของแม่แต่ละคนถึงไม่เหมือนกัน
- ท้องกลมท้องแหลม เห็นชัด ตอนเดือนที่เท่าไหร่
- อยากรู้เพศลูก ดูได้จากวิธีไหนบ้าง
ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง แต่ละแบบต่างกันมากไหม
ในทางการแพทย์คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีลักษณะของหน้าท้องแตกต่างกัน หน้าท้องแหลม หน้าท้องกว้าง ขนาดครรภ์ของคุณแม่จะมีขนาดไม่เท่ากัน คุณแม่ตั้งครรภ์ตัวสูงมักจะมีหน้าท้องกว้างหรือกางออก เนื่องจากมีเนื้อที่ว่างบริเวณลำตัวมากกว่า ในทางตรงกันข้าม คุณแม่ตั้งครรภ์รูปร่างไม่สูง หน้าท้องจะแคบลงจนแหลม ความกว้างของหน้าท้องยังบ่งบอกถึงตำแหน่งของทารกในครรภ์ได้อีกด้วย หน้าท้องที่กว้างอาจเป็นสัญญาณว่าทารกนอนท่าขวาง นอนในแนวยาวของมดลูก ในขณะที่หน้าท้องแหลมหรือยื่นออกมา อาจหมายถึงกระดูกสันหลังของทารกในครรภ์หันออกด้านนอก
ท้องกลมท้องแหลมดูยังไง แบบไหนได้ลูกสาว แบบไหนได้ลูกชาย
หน้าท้องของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์ จะมีลักษณะแตกต่างกันไป ตามสรีระร่างกายของคุณแม่แต่ละคน
- หน้าท้องคุณแม่ที่มีลักษณะแหลม: ท้องจะพุ่งยื่นไปข้างหน้า ยอดมดลูกจะไม่สูงมาก
- หน้าท้องคุณแม่ที่มีลักษณะกลม: ยอดมดลูกจะสูงกว่าปกติเล็กน้อย
ลักษณะท้องจะแหลมหรือกลม ขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่ตั้งครรภ์ ว่าจะมีกล้ามเนื้อหน้าท้อง และมดลูกลักษณะแบบใด แต่ความเชื่อของคนโบราณ มักเชื่อกันว่าลักษณะท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถบ่งบอกเพศของลูกในท้องได้ หากคุณแม่ท้องแหลมและอยู่ต่ำ เชื่อว่าจะได้ลูกชาย หากมีท้องที่กลมและอยู่สูง เชื่อว่าจะได้ลูกสาว
ท้องกลมท้องแหลม บอกเพศลูกได้กี่เปอร์เซ็นต์
ความเชื่อของคนโบราณที่เชื่อกันว่า หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีท้องกลมจะได้ลูกสาว คุณแม่ท้องแหลมจะได้ลูกชาย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ ลักษณะของท้องคุณแม่ตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของทารกในครรภ์ ความตึงตัวของมดลูกและกล้ามเนื้อ ยิ่งใกล้คลอดทารกในครรภ์ก็ยิ่งลดต่ำลงมาอยู่ใกล้อุ้งเชิงกรานมากขึ้น ลักษณะของท้องคุณแม่ตั้งครรภ์ จึงไม่ได้บ่งบอกเพศของทารกในครรภ์แต่อย่างใด
ทำไมลักษณะท้องของแม่แต่ละคนถึงไม่เหมือนกัน
ลักษณะท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนแตกต่างกัน คุณแม่จะเริ่มมองเห็นท้องที่โตขึ้นได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่ และพัฒนาการของการตั้งครรภ์ เช่น
1. ตำแหน่งของทารก
ทารกในครรภ์ของคุณแม่จะขยับตัวไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้คุณแม่มีรูปร่างหน้าท้องที่แตกต่างกัน
2. กล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน
มีหน้าที่ในการพยุงมดลูกตลอดระยะเวลาในการตั้งครรภ์ ยิ่งกล้ามเนื้อตึงมากเท่าไหร่ ก็จะใช้เวลานานขึ้นในการเห็นความเปลี่ยนแปลงของหน้าท้อง หรือเห็นหน้าท้องชัดเจนขึ้น
3. ส่วนสูงของคุณแม่
สามารถส่งผลต่อความสูงของท้องขณะตั้งครรภ์ได้ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตัวสูงมักจะอุ้มท้องสูง ท้องจะอยู่ใกล้หน้าอกมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ทารกมีพื้นที่ในการเติบโตในแนวตั้งมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตัวไม่สูง จะอุ้มท้องต่ำ ท้องของคุณแม่จะกว้างและต่ำ เนื่องจากมีพื้นที่ในการเติบโตในแนวตั้งน้อยลง
4. น้ำหนักของคุณแม่
ดัชนีมวลกายหรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ทำให้ท้องของคุณแม่จะยิ่งดูใหญ่ขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไขมันในร่างกายที่สูงอาจบดบังขนาดของท้องได้
ท้องกลมท้องแหลม เห็นชัด ตอนเดือนที่เท่าไหร่
โดยปกติแล้ว ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะปรากฎให้เห็นชัดเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 12-16 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงก่อนเข้าไตรมาสที่ 2 คุณแม่ตั้งครรภ์จะเห็นท้องชัดเจน ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับรูปร่างของคุณแม่ตั้งครรภ์และพัฒนาการของการตั้งครรภ์
อยากรู้เพศลูก ดูได้จากวิธีไหนบ้าง
อยากรู้เพศลูก ท้องกี่เดือนรู้เพศลูก ตามหลักการแพทย์แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะรู้เพศของทารกในครรภ์ได้ โดยการตรวจเพศของทารกในครรภ์นั้นสามารถทำได้หลายวิธี นอกจากจะรู้เพศของลูกแล้ว ยังสามารถรู้ถึงความสมบูรณ์ของรก ปริมาณน้ำคร่ำ การเจริญเติบโต ขนาดของทารกในครรภ์ รวมไปถึงตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ด้วย ซึ่งวิธีตรวจเพศทารกมีดังนี้
1. อัลตราซาวด์
วิธีอัลตราซาวด์นี้ คือการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ใช้คลื่นเสียงในการสร้างภาพทารกในครรภ์ โดยอุปกรณ์จะปล่อยคลื่นทางร่างกายคุณแม่ คลื่นเสียงจะสะท้อนกับอวัยวะในช่องท้องและร่างกายของทารก น้ำคร่ำ ที่อยู่ในมดลูก แล้วสะท้อนกลับมาที่อุปกรณ์และแปลงเป็นภาพทางหน้าจอ สูตินรีแพทย์จะแนะนำให้ตรวจอัลตราซาวด์เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 18-21 สัปดาห์ เพื่อประเมินสุขภาพของทารก และตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์
2. เจาะน้ำคร่ำ
การเจาะน้ำคร่ำ เป็นการนำตัวอย่างน้ำคร่ำของคุณแม่ตั้งครรภ์ไปตรวจหาความผิดปกติทางโครโมโซม หรือพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม และการตรวจน้ำคร่ำยังสามารถตรวจหาโรคพันธุกรรมที่รุนแรง เช่น โรคธาลัสซีเมีย นอกจากนั้นยังทำให้ทราบเพศของทารกได้อีกด้วย การเจาะน้ำคร่ำจะตรวจเมื่ออายุครรภ์ได้ 16-20 สัปดาห์ โดยสูตินรีแพทย์วินิจฉัยจากผลตรวจครรภ์ และสงสัยว่าทารกมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว
3. ตัดชิ้นเนื้อรก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความเสี่ยง เช่น คุณแม่อายุ 35 ปี เคยมีลูกที่มีประวัติเป็นโรคทางพันธุกรรม ตรวจพบความผิดปกติในการอัลตราซาวด์ สูติแพทย์จะให้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากรกของคุณแม่ไปตรวจ เพื่อหาความผิดปกติทางพันธุกรรมและโครโมโซม มักตรวจเมื่ออายุครรภ์ได้ 10-13 สัปดาห์
4. ตรวจเอ็นไอพีที หรือ NIPT
เป็นการเจาะตรวจเลือดคุณแม่ตั้งครรภ์เพื่อคัดกรองหาความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ โดยการเจาะเลือดและนำตัวอย่างเลือดของคุณแม่ ไปวิเคราะห์ดีเอ็นเอที่ไหลเวียนในเลือดในห้องปฏิบัติการ สามารถตรวจได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป การตรวจเอ็นไอพีที หรือ NIPT ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ถึงความผิดปกติของโครโมโซม ความเสี่ยงในกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม และทำให้ทราบเพศของทารกในครรภ์ได้
ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นมาก หากคุณพ่อคุณแม่อยากทราบเพศของทารกในครรภ์ หรือตรวจประเมินสุขภาพของทารก ตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ หรือ ความผิดปกติของโครโมโซม สามารถตรวจได้ตามวิธีการตรวจต่าง ๆ ตามหลักทางการแพทย์ การดูขนาดและลักษณะของท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ภายนอกจึงไม่สามารถบอกเพศของลูกได้
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด
- โปรแกรม Womb development ตามติด 9 เดือนในครรภ์ของลูกน้อย พร้อมบทความพัฒนาการต่าง ๆ
- แผลผ่าคลอดอักเสบข้างใน คุณแม่เจ็บแผลผ่าตัดข้างใน อันตรายไหม
- เจ็บแผลผ่าตัดจี๊ด ๆ ปวดแผลผ่าคลอดหลังผ่าตัดคลอด อันตรายไหม
- ผ่าคลอดเจ็บไหม ผ่าคลอดดีไหม แม่ผ่าคลอดดูแลแผลผ่าคลอดยังไงดี
- คันแผลผ่าคลอด คุณแม่ทำยังไงดี พร้อมวิธีแก้อาการคันแผลผ่าคลอด
- ผ่าคลอดกินข้าวเหนียวได้ไหม คนท้องกินข้าวเหนียวได้ไหม
- ผ่าคลอดกินไข่ได้ไหม แม่หลังผ่าคลอดกินไข่ได้ไหม ห้ามกินอะไรบ้าง
- ท่านอนหลังผ่าคลอด ท่านอนคนผ่าคลอด คุณแม่นอนแบบไหนถึงดีที่สุด
- ผ่าคลอดเบ่งอุจจาระได้ไหม ท้องผูกหลังผ่าคลอด คุณแม่ทำยังไงดี
- คุณแม่ผ่าคลอดกี่วันขับรถได้ หลังผ่าตัดขับรถได้ไหม อันตรายหรือเปล่า
- ไหมละลายหลังคลอดกี่วันหาย แผลผ่าคลอดไหมละลายตอนไหน
อ้างอิง:
- Pregnant Belly Stages: Shapes, Sizes & More, sneakpeektest.com
- 6 เทคนิค ทายเพศลูกน้อยในท้องคุณ ตามความเชื่อ (How to tell if you're having a boy or a girl?, drnoithefamily.com
- ความเชื่อขณะตั้งครรภ์, haijai.com
- 10 ความเชื่อเกี่ยวกับคนท้อง ที่คนมักเข้าใจผิด !!, pobpad
- รู้เพศตอนกี่เดือน อัลตราซาวด์ตอนไหนแม่นยำที่สุด, Hello Khunmor
- ตรวจอัลตราซาวด์บ่อย ๆ จะส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์หรือไม่?, โรงพยาบาลพญาไท
อ้างอิง ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2567
บทความที่เกี่ยวข้อง