แผลฝีเย็บหลังคลอด แผลคลอดธรรมชาติ ดูแลยังไงให้ปลอดภัย

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลแผลคลอดธรรมชาติยังไงให้ปลอดภัย

แผลฝีเย็บหลังคลอด ดูแลแผลคลอดธรรมชาติยังไงให้ปลอดภัย

คุณแม่ตั้งครรภ์
บทความ
พ.ค. 9, 2023

คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติมักมีความกังวลเรื่องแผลฝีเย็บหลังคลอดที่เกิดขึ้นจากกระบวนการคลอด เพราะอาจทำให้การขับถ่ายที่ไม่สะดวกหรือเกิดอาการเจ็บปวดขึ้นได้ แม้ว่าแผลฝีเย็บจะหายสนิทโดยใช้เวลาไม่นานแต่เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของแผลฝีเย็บหายช้า คุณแม่หลังคลอดจะต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดและการดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด

 

สรุป

  • แผลฝีเย็บเกิดจากกระบวนการคลอดธรรมชาติ โดยคุณหมอจะทำการกรีดผิวหนังบริเวณช่องคลอดเพื่อให้ลูกน้อยคลอดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
  • ปกติแผลฝีเย็บจะเริ่มหายสนิทภายใน 1 สัปดาห์ แต่คุณแม่อาจมีอาการเจ็บแผลฝีเย็บอยู่นานถึง 2-3 สัปดาห์ ในระหว่างนั้นคุณแม่สามารถทานยาตามคำแนะนำของคุณหมอได้
  • คุณแม่หลังคลอดควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอโดยไม่แช่ในอ่างอาบน้ำ ทำความสะอาดแผลฝีเย็บหลังจากอุจจาระหรือปัสสาวะทุกครั้งโดยเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปทางด้านหลังเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • หากคุณแม่รู้สึกว่ามีไข้ แผลฝีเย็บมีการอักเสบ ปวด บวมแดง มีน้ำหนองหรือเลือดสีแดงสดไหลมากกว่าปกติ แนะนำให้คุณแม่ไปพบแพทย์ทันที เพราะแผลฝีเย็บอาจเกิดการติดเชื้อได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

แผลฝีเย็บ แผลคลอดธรรมชาติ คืออะไร

แผลฝีเย็บ เป็นแผลที่เกิดจากการคลอดลูกธรรมชาติบริเวณช่องคลอด โดยคุณหมอจะทำการกรีดผิวหนังที่อยู่ระหว่างอวัยวะเพศกับทวารหนักเพื่อให้สะดวกต่อการคลอดลูกจากนั้นคุณหมอจะเย็บติดฝีเย็บไว้ 

 

ลักษณะของแผลฝีเย็บ เป็นอย่างไร

แผลฝีเย็บเกิดขึ้นได้ทั้งจากการกระบวนการคลอดตามธรรมชาติและการตัดฝีเย็บเพื่อให้คุณแม่สามารถคลอดลูกน้อยได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ลักษณะของแผลฝีเย็บมีระดับการฉีกขาดที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ

  • ระดับ 1 : เป็นการฉีกขาดที่เล็กน้อยไม่เกิน 1 เซนติเมตร และไม่มีเลือดออก
  • ระดับ 2 : เป็นการฉีกขาดบริเวณผิวผนังช่องคลอดและกล้ามเนื้อฝีเย็บ
  • ระดับ 3  : เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวผนังช่องคลอดไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูดของทวารหนัก
  • ระดับ 4 : เป็นการฉีกขาดตั้งแต่ผิวผนังช่องคลอดไปไปจนถึงเยื่อบุทวารหนักด้านใน ซึ่งเป็นการฉีกขาดที่รุนแรงมากที่สุด

 

แผลฝีเย็บ แผลคลอดธรรมชาติ กี่วันหาย

โดยปกติแล้วแผลฝีเย็บจะเริ่มหายหลังจากคุณแม่คลอดลูกใน 3 วัน หลังจากนั้นอีก 5-7 วันแผลฝีเย็บจะเริ่มติดสนิท และจะหายสนิทภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งคุณแม่จะมีอาการปวดแผลฝีเย็บประมาณ 2-3 สัปดาห์ โดยที่ไหมฝีเย็บจะละลายหายไปประมาณ 3 สัปดาห์

 

แผลฝีเย็บ แผลผ่าตัดปริอาการอย่างไร

 

อาการแผลฝีเย็บแยก เป็นแบบไหน

อาการของแผลฝีเย็บแยกหรือปริ คือ อาการที่มีเลือดไหลหรือหนองไหลออกมาจากบริเวณแผลฝีเย็บ พร้อมกับอาการเจ็บปวดบริเวณแผลฝีเย็บ บางครั้งคุณแม่อาจเห็นเป็นไหมเย็บหลุดออกมาจากบริเวณแผลฝีเย็บด้วย ทำให้คุณแม่ทราบทันทีว่าแผลเปิดหรือแผลฝีเย็บแยกออกแล้ว เมื่อคุณแม่พบว่าแผลฝีเย็บปริหรือแยกออกให้รีบไปพบแพทย์ทันที

 

คุณแม่ควรดูแลแผลเย็บหลังคลอดอย่างไร

การดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้ ดังต่อไปนี้

  • ทำความสะอาดแผลฝีเย็บ: ล้างด้วยสบู่หรือน้ำสะอาด โดยล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่แผลฝีเย็บและช่องคลอด จากนั้นซับให้แห้งอย่างนุ่มนวล
  • การอาบน้ำ: แนะนำให้ใช้น้ำที่ตักหรือฝักบัว แทนการแช่ในอ่างน้ำหรือลำคลอง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเข้าสู่มดลูกเพราะปากมดลูกยังไม่ปิดสนิท
  • เปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นประจำ: เปลี่ยนทุก 3 ชั่วโมงหรือเมื่อรู้สึกว่าผ้าอนามัยชุ่ม และควรดึงออกจากด้านหน้ามาทางด้านหลัง หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
  • งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์และการสวนล้างช่องคลอด: โดยเฉพาะในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด เนื่องจากปากมดลูกยังไม่ปิดสนิท อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • เลี่ยงการยกของหนักและออกแรงมาก: ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงการกระทบกระเทือนต่ออวัยวะช่วงอุ้งเชิงกราน

 

แผลผ่าตัดปริแบบไหน ที่ควรไปพบแพทย์

คุณแม่หลังคลอดธรรมชาติ ควรมาพบแพทย์ทันทีเมื่อคุณแม่มีอาการเหล่านี้

  • แผลฝีเย็บมีหนองหรือเลือดไหล: หากแผลฝีเย็บมีน้ำหนองหรือเลือดซึมออกจากแผล ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ค
  • อาการแสบขัดเมื่อปัสสาวะ: หากปัสสาวะแล้วรู้สึกแสบหรือขัด อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • มีเลือดก้อนใหญ่หรือผ้าอนามัยชุ่มเร็ว: หากมีเลือดก้อนใหญ่ไหลออกทางช่องคลอด หรือผ้าอนามัยเปียกชุ่มภายใน 1 ชั่วโมง ควรรีบไปพบแพทย์
  • น้ำคาวปลามีกลิ่นหรือสีแดงจัดนานเกิน 3 สัปดาห์: โดยปกติ น้ำคาวปลาจะมีสีแดงในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู สีน้ำตาล และค่อย ๆ จางลงภายใน 10 วันหลังคลอด
  • ไข้สูงและมีอาการอักเสบ: หากมีไข้สูงพร้อมอาการอักเสบ บ่งบอกถึงการติดเชื้อที่ต้องรีบรักษา
  • มดลูกยังคลำเจอที่หน้าท้องหลัง 2 สัปดาห์: หากผ่านไป 2 สัปดาห์หลังคลอดแล้วยังคงคลำเจอมดลูกบริเวณหน้าท้อง ควรปรึกษาแพทย์

 

จะรู้ได้ยังไงว่าแผลฝีเย็บใกล้หายแล้ว

ในช่วง 1-3 วันแรกหลังจากคลอดลูกธรรมชาติ  คุณแม่จะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลฝีเย็บ ส่วนบริเวณแผลจะมีอาการบวมพร้อมมีเลือดซึมออกมา หลังจากนั้นคุณแม่จะรู้สึกตึง ๆ ในช่วง 3-4 วันแรก และจะหายสนิทภายใน 1 สัปดาห์หรือภายใน 7-10 วัน โดยไม่ต้องตัดไหมออก หากเลย 7 วันไปแล้วแผลฝีเย็บยังไม่แห้งแสดงว่าแผลฝีเย็บอาจเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้

 

ลักษณะอาการของแผลฝีเย็บติดเชื้อ

หากแผลฝีเย็บเกิดการติดเชื้อ ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติ คือ เป็นไข้ แผลฝีเย็บจะอักเสบ บวมแดง บางครั้งอาจเป็นหนองไหลซึมออกมา เวลาปัสสาวะจะลำบากหรือปัสสาวะไม่ออก และอาจเกิดแผลปริหรือแยกออกจากกันได้

 

วิธีช่วยบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บ

หลังคลอดธรรมชาติใหม่ ๆ คุณแม่จะรู้สึกปวดแผลฝีเย็บได้ หากมีอาการปวดมาก ๆ คุณแม่สามารถบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บได้ดังนี้

  • ประคบเย็น: ในช่วงวันแรก ๆ หลังคลอด ใช้การประคบเย็นประมาณ 15 นาที เพื่อลดอาการปวดและบวมบริเวณแผลฝีเย็บ
  • แช่น้ำอุ่นผสมเกร็ดด่างทับทิม: หลังจากผ่านไป 3 วัน คุณแม่สามารถแช่แผลในน้ำอุ่นที่ผสมเกร็ดด่างทับทิมประมาณ 15 นาที ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดความปวด
  • การนั่ง: เมื่อต้องการนั่ง แนะนำให้นั่งที่แก้มก้นข้างใดข้างหนึ่ง หรือใช้ห่วงยางเล็ก ๆ หรือหมอนกลมที่มีรูตรงกลางเพื่อรองนั่ง ป้องกันไม่ให้แผลฝีเย็บถูกกดทับโดยตรง

หากคุณแม่พบว่ายังรู้สึกปวดแผลฝีเย็บมาก ๆ แผลฝีเย็บบวม และไม่สามารถนั่งนาน ๆ ได้ แนะนำให้คุณแม่ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

 

คันแผลฝีเย็บ คุณแม่ควรทำยังไงดี

หากคุณแม่หลังคลอดมีอาการคันที่แผลฝีเย็บหรือบริเวณอวัยวะเพศ แนะนำให้คุณแม่ปฏิบัติตามนี้

  • เช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง: หลังการถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ ควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์สวนล้างช่องคลอด: เพื่อไม่ให้รบกวนสภาวะธรรมชาติของช่องคลอดที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยหรือสบู่ที่มีกลิ่นหอม: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นอาจทำให้ผิวหนังบริเวณแผลระคายเคือง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมหรือสารเคมีเพิ่มเติม

 

ไขข้อข้องใจ การดูแลแผลฝีเย็บคุณแม่หลังคลอด

1. ครบเดือนแล้ว แผลฝีเย็บยังไม่หาย คุณแม่ควรทำอย่างไร

ปกติแผลฝีเย็บจะหายภายใน 1 สัปดาห์หลังจากคลอด ถ้าคุณแม่พบว่าแผลฝีเย็บยังไม่หาย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำทันที
 

2. แผลฝีเย็บปริ หรือฉีกขาด ทำยังไงดี

แผลผ่าคลอดเป็นหนองเกิดจากการที่แผลฝีเย็บปริและติดเชื้อ ถ้าคุณแม่พบว่าแผลฝีเย็บมีการปริ หรือแยกออกให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดแผลฝีเย็บอักเสบหรือติดเชื้อได้
 

3. แผลฝีเย็บยังไม่สมาน ควรนอนท่าไหน

หลังคลอดธรรมชาตินอนท่าไหน  ในช่วงแรกหลังคลอดคุณแม่อาจรู้สึกนอนได้ลำบากเพราะฝีเย็บยังไม่สมาน สำหรับท่านอน ของคุณแม่หลังคลอดที่แนะนำ คือ ให้คุณแม่นอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่งแล้วให้ยกช่วงก้นขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้นอนได้สบายยิ่งขึ้น
 

4. ดูแลแผลฝีเย็บอย่างไรให้หายดี

แผลฝีเย็บ ปกติแล้วคุณหมอจะเย็บด้วยไหมละลาย ซึ่งหลังคลอดประมาณ 7 วันแผลก็จะหาย แต่อาจจะรู้สึกเจ็บนานประมาณ 2 สัปดาห์ การทำความสะอาดสามารถใช้น้ำและสบู่ล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้งทันที
 

5. แสบแผลฝีเย็บเวลาฉี่ แบบนี้ปกติหรือไม่

ในช่วงวันแรก ๆ ของการคลอดคุณแม่จะรู้สึกเจ็บตึง ปวดระบมแผล และแสบบริเวณแผลฝีเย็บ พอเข้าสู่วันที่ 3 แผลฝีเย็บจะค่อย ๆ ดีขึ้น หากคุณแม่พบว่ายังมีอาการแสบแผล ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่ออกรวมถึงมีไข้ด้วยแสดงว่าเป็นอาการที่ผิดปกติแนะนำให้คุณแม่ไปพบคุณหมอเพื่อตรวจและทำการรักษา


สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ไม่สามารถคลอดธรรมชาติเองได้และมีแพลนจะผ่าคลอดเจ้าตัวเล็ก คุณแม่สามารถเข้าไปศึกษาและอ่านบทความ การเตรียมตัวผ่าคลอดและการดูแลแผลหลังผ่าคลอดที่ถูกต้องสำหรับคุณแม่มือใหม่ได้เลย
 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 

 

อ้างอิง:

  • เช็คหน่อยไหม? สุขภาพหลังคลอด...มีปัญหาอะไรหรือเปล่า, โรงพยาบาลพญาไท
  • การดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้, โรงพยาบาลเปาโล
  • 10 ความเชื่อ...จริง และ ไม่จริง กับคุณแม่หลังคลอด, โรงพยาบาลขอนแก่นราม 

อ้างอิง ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566