คนท้องคันปากช่องคลอด พร้อมวิธีดูแลอาการคันช่องคลอดขณะตั้งครรภ์
อาการคันช่องคลอดเป็นหนึ่งในปัญหาที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนพบเจอ ทำให้คุณแม่มีความกังวลว่า คนท้องคันปากช่องคลอดปกติไหม คนท้องคันช่องคลอดมีสาเหตุจากอะไร อาการคันช่องคลอดหายเองได้ไหม บทความนี้จะช่วยคลายสงสัยให้คุณแม่ พร้อมแนะนำวิธีการดูแลตนเอง และวิธีดูแลอาการคันช่องคลอดขณะตั้งครรภ์
สรุป
- คนท้องคันช่องคลอดเกิดจาก ฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงขณะตั้งครรภ์ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอด ซึ่งโดยทั่วไปไม่เป็นอันตราย
- แต่หากอาการคันช่องคลอดไม่ได้เกิดจากการระคายเคือง แต่เป็นการติดเชื้อ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุการติดเชื้อ และรับการดูแลที่เหมาะกับชนิดเชื้อที่พบ
- อาการคันปากช่องคลอดในคุณแม่ตั้งครรภ์อาจมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่าง ๆ เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคมะเร็ง โรคผิวหนังอักเสบ และ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- เมื่อมีอาการคันช่องคลอด อาหารที่ไม่ควรรับประทานได้แก่ อาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารแปรรูป แป้งขัดขาว และแอลกอฮอล์
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- คนท้องคันช่องคลอด มีอาการอย่างไร
- อาการคันช่องคลอด มีสาเหตุจากอะไร
- อาการคันช่องคลอด เป็นสัญญาณของโรคอะไรบ้าง
- อาการข้างเคียง ที่อาจพบร่วมกับอาการคันช่องคลอด
- การดูแลอาการคันช่องคลอด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- วิธีการดูแลตนเอง เมื่อคุณแม่มีอาการคันช่องคลอด
- หากมีอาการคันช่องคลอด ไม่ควรทานอะไรบ้าง
- อาการคันช่องคลอด สามารถหายเองได้ไหม
คนท้องคันช่องคลอด มีอาการอย่างไร
คนท้องคันช่องคลอด เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงขณะตั้งครรภ์ ทำให้คุณแม่รู้สึกคันช่องคลอด โดยฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นนี้อาจทำให้ช่องคลอดเกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น หรือมีปริมาณมูกใสในช่องคลอดเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นอาการทั่วไป ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจส่งผลให้สภาวะภายในช่องคลอดเสียสมดุล เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อบริเวณช่องคลอด จึงทำให้คุณแม่เกิดอาการคันช่องคลอดได้
อาการคันปากช่องคลอด มีสาเหตุจากอะไร
อาการคันปากช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ คันปากช่องคลอดแบบติดเชื้อ และคันปากช่องคลอดแบบไม่ติดเชื้อ ดังนี้
1. คันปากช่องคลอดแบบติดเชื้อ
อาการคันช่องคลอดในคุณแม่ตั้งครรภ์มักเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ สาเหตุหลัก ๆ ของการติดเชื้อที่ทำให้คันช่องคลอด
2. ติดเชื้อแบคทีเรีย
ในช่วงตั้งครรภ์ แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องคลอดอาจเติบโตขึ้นผิดปกติ ซึ่งหากเกิดสภาวะที่ไม่สมดุลระหว่างแบคทีเรียที่ดีและแบคทีเรียที่ไม่ดีภายในช่องคลอด ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
3. ติดเชื้อรา
เมื่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำลายสมดุลค่า pH ในช่องคลอด ทำให้ความชื้นในช่องคลอดเพิ่มขึ้น เชื้อราจึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดอาการคัน
4. ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดได้ ซึ่งการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งก่อนและระหว่างตั้งครรภ์
5. ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
เนื่องจากมดลูกขยายตัวในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้กระเพาะปัสสาวะถูกเบียด จึงอาจทำให้ปัสสาวะไม่สุด หรือปัสสาวะเล็ด ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้
คันปากช่องคลอดแบบไม่ติดเชื้อ
นอกจากอาการคันช่องคลอดจะเกิดจากการติดเชื้อแล้ว ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อได้อีกด้วย โดยสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
1. ภาวะน้ำดีคั่งระหว่างตั้งครรภ์
เป็นภาวะที่ตับและทางเดินน้ำดีทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดได้ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบสาเหตุที่ชัดเจนของภาวะนี้
2. ช่องคลอดแห้ง
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ช่องคลอดแห้งได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคัน
3. การระคายเคืองจากสารเคมี
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดส่วนตัวต่าง ๆ เช่น สบู่ น้ำหอม น้ำยาซักผ้า อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวบอบบางในบริเวณช่องคลอดได้ง่ายว่าปกติ
4. ตกขาวมากเกินไป
ปริมาณตกขาวที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคันได้ หากตกขาวมีปริมาณมาก
อาการคันช่องคลอด เป็นสัญญาณของโรคอะไรบ้าง
อาการคันปากช่องคลอดในคุณแม่ตั้งครรภ์อาจมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปากช่องคลอดบวมแดง ระคายเคือง หรืออาการตกขาวผิดปกติ เช่น สีเหลือง เป็นก้อน มีกลิ่น อาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพหลายอย่าง และเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่าง ๆ ดังนี้
- โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้ผิวหนังมีผื่นแดงและสะเก็ดขาว อาการคันอาจเกิดขึ้นได้บริเวณช่องคลอด โดยเฉพาะบริเวณที่เสียดสีบ่อย ๆ
- โรคผิวหนังอักเสบ อาการคันช่องคลอดอาจเกิดจากโรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งถูกกระตุ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และอีกมากมาย
- โรคมะเร็ง ทั้งมะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งบริเวณใกล้เคียง อาจมีอาการคันเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน เริม หรือเชื้อ HIV อาจทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ผื่นแดง และตกขาวผิดปกติ
อาการข้างเคียง ที่อาจพบร่วมกับอาการคันช่องคลอด
อาการคันช่องคลอด อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ต้องระวัง หากคุณแม่พบอาการข้างเคียงอื่น ๆ ต่อไปนี้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคต่อไป
- ตกขาวมีปริมาณมากขึ้น มีกลิ่นเหม็น หรือเปลี่ยนสี
- รู้สึกแสบคัน ระคายเคืองขณะปัสสาวะ
- มีอาการปวด บวม มีแผล ตุ่ม หรือผื่น บริเวณอวัยวะเพศ
- เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกนอกช่วงมีประจำเดือน
- มีไข้
การดูแลอาการคันช่องคลอด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการคันปากช่องคลอดร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและตรวจภายใน และเก็บตัวอย่างตกขาวจากช่องคลอดไปตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของอาการคัน
เมื่อทราบผลการตรวจ แพทย์จะสั่งยาให้เหมาะสมกับชนิดของเชื้อที่พบ คุณแม่ควรทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และทานยาให้ครบตามที่แพทย์กำหนด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการดื้อยาซึ่งทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้น ที่สำคัญ ไม่ควรซื้อยามาใช้เองโดยเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายได้
วิธีการดูแลตนเอง เมื่อคุณแม่มีอาการคันช่องคลอด
คุณแม่ควรดูแลตนเอง เพื่อบรรเทาอาการคันและป้องกันการติดเชื้อซ้ำ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- รักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น ไม่ให้เกิดความอับชื้น
- หลีกเลี่ยงการเกา ถู หรือเสียดสีบริเวณช่องคลอด
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม เช่น สเปรย์ น้ำหอม หรือสบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
- เลือกชุดชั้นในที่เหมาะสม กางเกงในที่ทำจากผ้าฝ้าย ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกทางปัสสาวะได้ดีขึ้น
- ดูแลร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าอาการจะหายขาดสนิท เพื่อป้องกันการส่งต่อเชื้อไปยังคู่นอน
- รับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติก เพื่อช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด เช่น โยเกิร์ต กิมจิ รวมทั้งจุลินทรีย์สุขภาพ บีแล็กทิส (B. lactis) หนึ่งในจุลินทรีย์สุขภาพในกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) ซึ่งเป็นโพรไบโอติก ที่สามารถส่งต่อเพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยได้
หากมีอาการคันช่องคลอดไม่ควรทานอะไรบ้าง
เมื่อมีอาการคันช่องคลอด คุณแม่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารเพื่อช่วยบรรเทาอาการ โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารดังต่อไปนี้
- อาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะอาจทำให้อาการคันรุนแรงขึ้นได้
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม เพราะน้ำตาลเป็นอาหารของเชื้อรา ทำให้เชื้อราในช่องคลอดเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
- อาหารอื่น ๆ เช่น อาหารแปรรูป แป้งขัดขาว และแอลกอฮอล์ เป็นต้น
อาการคันช่องคลอดสามารถหายเองได้ไหม
แม้ว่าอาการคันปากช่องคลอดอาจดูเหมือนเป็นปัญหาเล็กน้อยและบางครั้งอาจหายไปเองได้ แต่โอกาสที่จะหายขาดได้เองมีน้อยมาก และมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องได้รับการตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันช่องคลอดขณะตั้งครรภ์และรับการดูแลอย่างถูกต้อง จึงจะช่วยให้หายขาดและไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก
อาการคันปากช่องคลอดเป็นอาการที่พบได้บ่อยขณะตั้งครรภ์ คนท้องคันช่องคลอดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ การระคายเคือง หรือแม้แต่เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง ดังนั้น หากคุณแม่มีอาการคันช่องคลอด ควรใส่ใจและสังเกตอาการข้างเคียงร่วมด้วย หากสังเกตเห็นอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
นอกจากนี้ หากคุณแม่มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ สามารถคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และติดตามพัฒนาการของลูกน้อยได้ง่าย ๆ ผ่านโปรแกรม Womb development ตามติด 9 เดือนในครรภ์ของลูกน้อย พร้อมบทความพัฒนาการต่าง ๆ ที่น่าสนใจ คลิกเลย
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- Health check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อย
- อาการคนแพ้ท้องครั้งแรก พร้อมวิธีรับมืออาการแพ้ท้อง
- อาการมโนว่าท้อง กังวลไปเองว่าท้อง พร้อมวิธีเช็กอาการตัวเอง
- คนท้องฉี่สีอะไร สีปัสสาวะคนท้องบอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง
- อาการคันของคนท้อง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้คันท้องคนท้อง
- ท้องกระตุกเหมือนลูกดิ้น อาการท้องกระตุก บอกอะไรคุณแม่ได้บ้าง
- อารมณ์คนท้องขึ้น ๆ ลงๆ รับมืออารมณ์คนท้องระยะแรกยังไงดี
- คนท้องไอบ่อย ไอขณะตั้งครรภ์ อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- การทำหมันหญิงอันตรายไหม ทำหมันหลังคลอดทันทีได้หรือเปล่า
- ทําหมันเจ็บไหม ผู้หญิงผ่าคลอดทำหมันกี่วันหาย เตรียมตัวแบบไหนดี
- อาการหมันหลุดเป็นอย่างไร ทำหมันแต่ยังท้อง เป็นไปได้แค่ไหน
- ผ่าคลอดประกันสังคมจ่ายเท่าไหร่ คุณพ่อคุณแม่มีสิทธิเบิกอะไรบ้าง
อ้างอิง:
- คันช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ สาเหตุของปัญหาและวิธีดูแลที่คุณแม่ควรรู้, pobpad
- อาการคันช่องคลอดขณะตั้งครรภ์, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- คนท้อง คันที่อวัยวะเพศ เกิดจากอะไร รักษา, Health Smile
- ทำอย่างไรดี... เมื่อตั้งท้องแล้วตกขาว, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
- อาการคันช่องคลอด ปัญหากวนใจที่ไม่ควรปล่อยไว้, โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์
อ้างอิง ณ วันที่ 13 กันยายน 2567
บทความที่เกี่ยวข้อง