เพลงเกี่ยวกับลูกความหมายดี เพลงรักลูก เสริมพัฒนาการลูก

เพลงเกี่ยวกับลูกความหมายดี เพลงรักลูก เสริมพัฒนาการลูก

เพลงเกี่ยวกับลูกความหมายดี เพลงรักลูก เสริมพัฒนาการลูก

เคล็ดลับการดูแลลูก
บทความ
ก.พ. 27, 2025
5นาที

เสียงเพลงหรือการพูดคุยของคุณพ่อคุณแม่ จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือ อายุครรภ์ตั้งแต่ 16-24 สัปดาห์ขึ้นไป เซลล์สมองของทารกในครรภ์จะพัฒนาอย่างรวดเร็วในการเชื่อมโยงและแบ่งตัวออกไปเรื่อย ๆ การได้ฟังเพลงจะช่วยให้สมองส่วนที่ควบคุมการได้ยินเสียงทำงานได้ดี และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีด้วย

สรุป

  • การใช้เสียงเพลงหรือเสียงดนตรีควบคู่ไปกับการเลี้ยงเด็ก ถือเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งด้านภาษา อารมณ์ หรือการเข้าสังคม
  • ทารกในครรภ์จะเริ่มได้ยินเสียงตั้งแต่อายุประมาณ 16 -24 สัปดาห์ โดยเพลงที่เลือกสำหรับลูก ควรเป็นเพลงที่ฟังง่าย รู้สึกสบายเมื่อได้ยิน อาจเป็นเพลงบรรเลง หรือเพลงคลาสสิก จนถึงเพลงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบฟัง
  • เพลงสำหรับเด็ก จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย การได้ฟังซ้ำ ๆ จะช่วยให้เนื้อหาในบทความแทรกลึกเข้าไปในจิตใจของเด็กได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ประโยชน์ของการร้องเพลงให้เด็กฟัง

การใช้เสียงเพลงหรือเสียงดนตรีควบคู่ไปกับการเลี้ยงเด็ก ถือเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งด้านภาษา พัฒนาการทางด้านอารมณ์ หรือการเข้าสังคม โดยประโยชน์ของการร้องเพลงให้เด็กฟัง มีมากมาย ดังนี้

1. พัฒนาการด้านภาษาและเพิ่มทักษะการรับรู้

การร้องเพลงให้เด็กฟังเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มทักษะการสื่อสารที่ดี ทำให้เกิดการเรียนรู้ภาษาได้จากบทเพลง รวมถึงการอ่านที่ดีด้วย

 

2. พัฒนาการทางสมองและสติปัญญา

จากการศึกษาวิจัย พบว่าเด็กที่มีการเรียนร้องเพลงหรือดนตรีมีแนวโน้มที่จะมีไอคิวเพิ่มสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้มีการเรียนร้องเพลงหรือดนตรี เพราะเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง โดยมีกลไกให้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาทำงานไปพร้อมกัน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา และความคิดสร้างสรรค์ของลูกให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงควรส่งเสริมเรื่องเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีให้กับลูก

 

3. เด็กมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากขึ้น

การร้องเพลงยังสามารถช่วยให้เด็กมีระบบภูมิคุ้มกัน ระบบหัวใจ การหายใจดีขึ้น และปอดแข็งแรงมากขึ้น

 

4. ช่วยคลายเครียด

นอกจากลูกน้อยจะรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเมื่อได้ฟังเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีแล้ว คุณพ่อคุณแม่เองก็ยังสามารถคลายเครียดด้วยการร้องเพลงให้ลูกฟัง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น มีความสุขมากขึ้น ซึ่งสามารถส่งต่อความสุขและ ความรักไปยังลูกได้

 

พ่อแม่ควรเริ่มร้องเพลงให้ลูกฟังตั้งแต่อายุเท่าไหร่

ทารกในครรภ์จะเริ่มได้ยินเสียงตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 16-24 สัปดาห์ เพื่อเป็นการกระตุ้นพัฒนาการที่ดีของทารก ควรให้ทารกฝึกการได้ยินเสียง โดยเฉพาะเสียงเพลงหรือเสียงพูดคุยของคุณแม่กับทารกในครรภ์ โดยเลือกเพลงที่ฟังง่าย รู้สึกสบายเมื่อได้ยิน และเปิดเพลงคลอเบา ๆ ซึ่งอาจเป็นเพลงบรรเลง หรือเพลงคลาสสิก จนถึงเพลงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ชอบฟัง เพื่อที่จะมีความสุขทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์

 

เพลงสำหรับเด็กควรเลือกเนื้อหาแบบไหน

เพลงกล่อมเด็กสำหรับเด็ก หรือเพลงที่คุณพ่อคุณแม่มักใช้เกี่ยวกับลูก โดยส่วนมากจะเป็นเพลงที่ช่วยทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย การได้ฟังซ้ำ ๆ จะช่วยให้เนื้อหาในบทความแทรกลึกเข้าไปในจิตใจของเด็กได้ โดยทั่วไปเราจะแบ่งเพลงออกเป็น ดังนี้

1. เพลงที่ใช้สำหรับกล่อมเด็ก

เป็นเพลงที่ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลิน และลดอาการงอแงลงได้ โดยอาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ ธรรมชาติ หรือครอบครัว

 

2. เพลงที่ช่วยปลอบเด็ก

ช่วยเพิ่มความผูกพันสนิทสนมระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่เพลงปลอบเด็กจะมีเนื้อหาเป็นเรื่องราวใกล้ตัว หรือจากสภาพแวดล้อมรอบตัว

 

3. เพลงประกอบการละเล่น

ช่วยให้เด็กเรียนรู้การใช้ภาษา คำคล้องจองต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เด็กสามารถจดจำเนื้อเพลงได้ง่ายมากขึ้น และช่วยเพิ่มความสนุกสนานในระหว่างการละเล่นได้อีกด้วย

 

4. เพลงร้องของเด็ก

เนื้อหาของบทเพลงร้องของเด็ก จะสอดแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวกับสิ่งใกล้ตัว วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ให้เด็กเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของพฤติกรรมต่าง ๆ

 

เพลงเกี่ยวกับลูก พ่อแม่ควรร้องสด หรือเปิดเพลงให้ฟังดีกว่ากัน

พ่อแม่ควรร้องสด หรือเปิดเพลงให้ฟังดีกว่ากัน

เสียงเพลงกับการเลี้ยงเด็ก ถือเป็นสิ่งที่ดี ช่วยทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้านภาษา ความจำ และสติปัญญา และส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจของคุณแม่เองด้วย แต่การถ่ายทอดบทเพลงคุณแม่ควรร้องด้วยตนเองหรือเปิดเพลงให้ลูกฟัง วิธีไหนที่ดีกว่ากัน

1. ข้อดีของการร้องสด

ขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ จะมีพัฒนาการทางการได้ยินอย่างต่อเนื่อง และสามารถจดจำเสียงของคุณแม่ได้ ผ่านการส่งเสียงพูดคุย หรือการร้องเพลง รวมไปถึงเสียงคุณแม่ที่สะท้อนผ่านร่างกายให้ลูกในครรภ์ได้ยินเสียงเป็นประจำ

 

2. ข้อดีของการเปิดเพลง

คุณแม่สามารถเปลี่ยนเพลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งอาจเป็นเพลงบรรเลง สลับกับเพลงที่มีเนื้อร้อง โดยเลือกเพลงที่มีจังหวะไม่เร็วจนเกินไป ฟังสบาย รู้สึกผ่อนคลาย และคุณแม่อาจร้องคลอตามเพลงได้อีกด้วย ไม่ควรเปิดเพลงเสียงดังหรือเอาหูฟังมาแนบกับท้องเพราะอาจทำให้ทารกในครรภ์ได้รับเสียงที่ดังจนเกินไป

 

ลิสต์เพลงเกี่ยวกับลูกที่มีความหมายดี

เพลงเกี่ยวกับลูก ควรเป็นเพลงที่มีเนื้อหาในทางบวก และมีทำนองฟังสบาย สามารถเปิดได้บ่อยครั้ง หรือคุณพ่อคุณแม่อาจร้องเพลงคลอตามให้ลูกน้อยฟัง

1. เพลงความหมายดี เสริมพัฒนาการ

  • เพลงอิ่มอุ่น (ศุ บุญเลี้ยง) เป็นเพลงที่เริ่มต้นจากการแต่งให้กับโครงการที่เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยมีเนื้อหาบรรยายถึงความรัก ความหวังดีของคุณแม่ที่มีต่อลูก ซึ่งเป็นเพลงที่มีเนื้อหาลึกซึ้งกินใจจนเป็นเพลงที่ถูกเปิดอยู่บ่อยครั้งในช่วงเทศกาลวันแม่
  • เพลง Head, Shoulders, Knees & Toes เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน เมื่อเด็กได้ยินจะขยับแขนขาไปตามเนื้อเพลง โดยคุณแม่อาจเริ่มทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนได้ อีกทั้งเป็นการฝึกฝนคำศัพท์ภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ให้แก่ลูกได้อีกด้วย

 

2. เพลงรักลูกซึ้ง ๆ

  • เพลงดีใจ (บอย โกสิยพงศ์) เป็นเพลงที่ผู้แต่ง แต่งให้กับลูกสาว โดยมีเนื้อหาที่มีความรู้สึกดีใจที่สุดเมื่อได้มีลูกคนนี้
  • เพลงดาวดวงน้อย (เสือ ธนพล) เป็นเพลงที่กล่าวถึงความรักที่ยิ่งใหญ่จากพ่อสู่ลูก ซึ่งเป็นรักที่บริสุทธิ์ มีแต่ความปรารถนาดีและความเสียสละให้แก่ลูก

 

การร้องเพลงให้ลูกฟังเป็นกิจกรรมหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เวลาร่วมกับลูกน้อยให้เกิดประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่หลากหลาย ทั้งด้านภาษา อารมณ์ และสังคม การใช้เพลงเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวจึงถือเป็นวิธีการที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพิ่มความรักความอบอุ่นส่งต่อสู่ลูกน้อยได้ดี

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

 

อ้างอิง:

  1. “เพลง” ช่วยกระตุ้นสมองให้ลูกฉลาดได้จริงหรือ?, โรงพยาบาลพญาไท
  2. 5 ประโยชน์ของดนตรี ต่อพัฒนาการของเด็ก, PobPad
  3. บทเพลงสำหรับเด็ก, มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  4. เปิดเพลงให้ลูกในท้องฟัง ช่วยให้ลูกผ่อนคลายและเสริมสร้างพัฒนาการ, hello คุณหมอ
  5. หาเพลงให้ลูกฟัง: 10 เพลงความหมายดี ๆ ที่อยากเปิดให้ลูกฟัง, Fungjaizine
  6. 10 เพลงสอนภาษาอังกฤษ ร้องเต้นสนุก เสริมทักษะเด็ก, EduFirst Language School
  7. The Power of Music to Boost Brain Development in Early Childhood, The Early Years Network
  8. ดนตรี…บรรเลงอารมณ์ เสริมความจำ พัฒนาสร้างสรรค์

อ้างอิง ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567