เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม เจ็บเต้าจี๊ด ๆ ข้างซ้ายผู้หญิง อันตรายไหม

เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม เจ็บเต้าจี๊ด ๆ ข้างซ้ายผู้หญิง อันตรายไหม

07.08.2024

การเจ็บเต้านมนั้นแบ่งเป็นอาการเจ็บเต้านมที่สัมพันธ์กับประจำเดือน และอาการเจ็บเต้านมที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน ฉะนั้นคุณแม่ควรสังเกตอาการเจ็บเต้านมของตนเองให้ดี แม้ว่าอาการเจ็บเต้านมจะเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องพบเจอ แต่อาการปวดเต้านมนั้น นับเป็นหนึ่งในอาการเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม หากเจ็บเต้านมและมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษาอาการให้แน่ชัด เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ต่อไป

headphones

PLAYING: เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม เจ็บเต้าจี๊ด ๆ ข้างซ้ายผู้หญิง อันตรายไหม

อ่าน 7 นาที

สรุป

  • อาการเจ็บเต้านมที่สัมพันธ์กับประจำเดือน จะเกิดขึ้นช่วงหลังไข่ตก อาการปวดนี้เหมือนถูกของแหลมทิ่มแทง เจ็บแบบตึง ๆ ส่วนอาการเจ็บเต้านมที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน ซึ่งอาการเจ็บเต้านมนี้ จะเจ็บตึงที่บริเวณใต้เต้านม
  • การดูแลเต้านม เพื่อลดอาการเจ็บเต้านมมีหลายวิธี เช่น หมั่นให้ลูกดูดนมบ่อย ๆ ดูดนาน วันละ 8-12 ครั้ง นานข้างละ 15-20 นาที เพื่อระบายนมออก สำหรับคุณแม่ที่ปั๊มนม ควรปั๊มน้ำนมออกให้เกลี้ยงเต้า ปั๊มนมทุก ๆ 3 ชั่วโมง ให้ลูกดูดนมให้ถูกท่า ดูดถูกวิธี ดูดนมนาน และควรเลือกชุดชั้นในที่ไม่รัดแน่นเกินไป
  • คุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเองให้ดี หากอาการเจ็บเต้านมมากเกินกว่า 2-3 สัปดาห์ และมีของเหลวไหลมีสีคล้ายเลือด หรือน้ำเหลืองออกจากหัวนม มีก้อนเนื้อบริเวณเต้านม ผิวหนังบริเวณลานหัวนมเปลี่ยนไป ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คุณแม่เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม เกิดจากอะไรได้บ้าง

เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่มข้างซ้าย

  1. อาการเจ็บเต้านมที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือน ซึ่งอาการเจ็บเต้านมนี้ จะเจ็บที่ใต้หัวนม ตึง แสบ คัน เป็นได้ทั้งสองข้าง หรือข้างใดข้างหนึ่ง
  2. อาการเจ็บเต้านมที่สัมพันธ์กับประจำเดือน ช่วงหลังที่มีการไข่ตก จะมีอาการปวดได้สองข้าง อาการปวดนี้เหมือนถูกของแหลมทิ่มแทง เจ็บแบบตึง ๆ

 

สาเหตุของการเจ็บเต้าจี๊ด ๆ ทั้งข้างซ้ายและขวา

  • ภาวะเต้านมอักเสบ พบบ่อยในแม่ที่ให้นมลูก เกิดจากการติดเชื้อของท่อน้ำนม เพราะเกิดบาดแผลระหว่างการให้นม ทำให้เต้านมบวม แดง อักเสบและเจ็บเต้านม
  • เกิดการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ บริเวณเต้านม หรือใกล้ ๆ เต้านม อาจกระทบโดนเส้นประสาทบริเวณหน้าอก ทำให้ปวดเต้านม
  • สวมเสื้อชั้นในที่รัดแน่นเกินไป หรือหลวมไป ทำให้เต้านมเจ็บ
  • ผลข้างเคียงจากการได้รับยาบางกลุ่ม เช่น ยาคุมกำเนิด ได้รับฮอร์โมนของยาคุมกำเนิด
  • มีฝีที่เต้านม ติดเชื้อจนมีอาการปวด บวม จนกลายเป็นหนอง เจ็บเต้านม ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเต้านมอักเสบไม่ได้รับการรักษา
  • ถุงน้ำในเต้านม หรือก้อนในเต้านม เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง คือ ไฟโบรอะดีโนมา มักไม่กลายเป็นมะเร็ง เป็นก้อนที่เคลื่อนไปมาได้ อีกชนิดคือ ก้อนเนื้อ ไฟโบรซีสติค ก้อนเนื้อไม่ร้ายแรง ไม่กลายเป็นมะเร็ง การเกิดถุงน้ำ หรือ ก้อนในเต้านมนี้ ทำให้เกิดอาการเจ็บเต้านม
  • ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงในช่วงมีประจำเดือน ทำให้เกิดอาการปวดเต้า ในช่วงก่อนมีประจำเดือน และอาการปวดนี้จะหายไปก่อนหมดประจำเดือน
  • เกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ กระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ

 

คุณแม่เจ็บเต้าจี๊ด คือ ภาวะ vasospasm ของหัวนม ลานนมหรือเปล่า?

การเจ็บเต้านมหรือบางครั้งเจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่ม แบบภาวะ vasospasm คือ ภาวะหลอดเลือดหดเกร็ง การขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราว ทำให้ปวดจี๊ด ๆ ที่หัวนม เส้นเลือดหดรัดตัวที่หัวนม หัวนมขาดเลือดไปเลี้ยง เมื่อสัมผัสกับอากาศเย็น การตอบสนองของประสาทจะไว หัวนมอาจเปลี่ยนเป็นสีซีดลง เกิดอาการปวดที่หัวนม หรือในระหว่างให้นมลูก คุณแม่บางท่านอาจมีอาการปวดมากจนไม่สามารถให้นมลูกได้

 

การดูแลเต้านมคุณแม่ให้นม เพื่อลดอาการเจ็บเต้านมเหมือนเข็มทิ่ม

  1. เลือกชุดชั้นในที่ไม่รัดแน่นเกินไป เลือกแบบที่ช่วยพยุงเต้านม
  2. จับลูกดูดนมให้ถูกท่า ก่อนลูกดูดเต้านม จัดท่าให้คางลูกหันไปทางบริเวณที่เต้านมเป็นก้อน เพื่อช่วยเอาน้ำนมออกจากเต้าได้ดี
  3. ประคบเย็นหลังให้นม เพื่อลดการปวดของเต้านม
  4. ให้ลูกดูดนมบ่อย ดูดนาน วันละ 8-12 ครั้ง นานข้างละ 15-20 นาที เพื่อระบายนมออก
  5. หากมีอาการเจ็บปวดเต้านม อย่าหยุดให้นม การให้นมลูกบ่อย จะช่วยให้ระบายนมออก ไม่ปวดคัดตึงเต้า
  6. ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย
  7. หากต้องใช้เครื่องปั๊มน้ำนม ควรปั๊มน้ำนมออกให้เกลี้ยงเต้า ปั๊มนมทุก ๆ 3 ชั่วโมง

 

เจ็บเต้าจี๊ด ๆ เหมือนเข็มทิ่มตอนให้นมลูกแตกต่างจากตอนเป็นประจำเดือนไหม

 

เจ็บเต้านมตอนให้นมลูกแตกต่างจากตอนเป็นประจำเดือนไหม

ในช่วงที่คุณแม่ไข่ตก หรือช่วงที่มีประจำเดือนของผู้หญิง จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนเอสโตรเจน มักส่งผลให้มีอาการเจ็บเต้านม เต้านมบวมเป็นก้อน ปวดร้าวไปบริเวณรักแร้ แขน อาการเจ็บปวดเต้านมนี้จะเกิดขึ้นทั้งสองข้าง

 

ซึ่งการเจ็บเต้านมในตอนให้นมลูก จะแตกต่างจากการเจ็บเต้านมในช่วงมีประจำเดือน คือจะมีอาการเจ็บเต้านมในช่วงหลังคลอด เพราะมีการปรับเปลี่ยนของฮอร์โมน หลังการคลอดเต้านมจะมีการผลิตน้ำนมมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อทารก ส่งผลให้มีน้ำนมจำนวนมาก ทำให้เต้านมนั้นขยายขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม บริเวณลานหัวนมแข็งตึง เจ็บ ร้อนเต้านม หากทารกดูดนมไม่ถูกวิธี หรือดูดไม่เกลี้ยงเต้า จะทำให้มีน้ำนมสะสมในเต้ามาก ระบายน้ำนมไม่ดี ก็จะส่งผลให้คุณแม่เจ็บเต้านมได้

 

อาการเจ็บเต้านมแบบไหนเสี่ยงเป็นมะเร็ง

  • ผิวหนังเต้านมอักเสบ บวมแดง มีอาการเจ็บผิดปกติที่เต้านม ที่ไม่ใช่ช่วงมีประจำเดือน
  • มีของเหลวไหลมีสีคล้ายเลือด หรือน้ำเหลือง ออกจากหัวนม
  • เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างของเต้านมเปลี่ยนไปจากเดิม
  • มีก้อนเนื้อบริเวณใต้รักแร้ หรือมีก้อนเนื้อบริเวณเต้านม
  • ผิวหนังบริเวณลานหัวนมเปลี่ยนแปลงไป มีลักษณะเหมือนเปลือกส้ม หรือเต้านมบุ๋มลงไป
  • มีผื่นคัน ผื่นแดง บริเวณเต้านม แสบ คัน รักษาแล้วไม่หายขาดจนเป็นแผลตกสะเก็ด

 

คุณแม่เจ็บเต้านมแบบไหน ควรรีบไปพบแพทย์

คุณแม่ควรหมั่นดูแลตัวเองด้วยการตรวจคลำเต้านมหลังจากมีประจำเดือน 7 วัน ตรวจคลำเต้านมเดือนละ 1 ครั้ง ว่ารูปร่างเต้านมผิดปกติหรือไม่ หากเจ็บเต้านมต่อเนื่องนาน 2-3 สัปดาห์ ประกอบกับมีของเหลวคล้ายน้ำเหลือง หรือมีเลือดปนออกมา มีรอยบุ๋มที่เต้านม มีผื่นขึ้นรอบ ๆ หัวนม อาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง หรือบางรายอาจมีอาการชาตามแขนขา เจ็บเสียวเต้านม แน่นหน้าอก อาจเป็นสัญญาณภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

 

อาการเจ็บเต้านม เป็นอาการหนึ่งที่คุณแม่หลังคลอด หรือคุณแม่ให้นมบุตรอาจพบเจอได้ หากคุณแม่มีอาการเจ็บเต้านมจนหาสาเหตุไม่ได้ หรือเจ็บเต้านมเป็นระยะเวลานาน อาการเจ็บนั้นไม่ทุเลาลง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ คุณแม่ควรดูแลตัวเอง ด้วยการคลำเต้านมเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อสำรวจว่า เต้านมนั้นมีรูปร่างเต้าที่เปลี่ยนไปไหม มีก้อนเนื้อบริเวณเต้านมไหม ผิวหนังของเต้านมผิดปกติหรือไม่ เพราะอาการเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมได้

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ให้นม

 

 

อ้างอิง:

  1. เจ็บเต้านม เสี่ยงเป็นมะเร็งไหม? ยังไง? , โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
  2. อาการเจ็บจี๊ดบริเวณเต้านมข้างซ้ายเกี่ยวกับอะไรคะ, pobpad
  3. อยากรู้ไหม ทำไมถึงปวดเต้านม?, โรงพยาบาลเปาโล
  4. เจ็บนมข้างขวาจี๊ด ๆ เป็นบางครั้งมา 2 วันแล้ว รู้สึกว่านมบวมขึ้นเล็กน้อย อันตรายไหม, pobpad
  5. Nipple vasospasm, The Royal Women’s Hospital
  6. เต้านมอักเสบ - อาการและการรักษา - นมแม่, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  7. อาการปวดเต้านม, โรงพยาบาลนมะรักษ์
  8. เต้านมคัด อาการที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม, คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
  9. 6 สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม, โรงพยาบาลสมิติเวช
  10. ปวดเต้านม สัญญาณเตือนความผิดปกติ, โรงพยาบาลเวชธานี
  11. เจ็บเต้านม - อาการ, สาเหตุ, การรักษา, pobpad

อ้างอิง ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2567


 

บทความแนะนำ

สักทับรอยผ่าคลอดอันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลรอยสักทับแผลผ่าคลอด

สักทับรอยผ่าคลอดอันตรายไหม พร้อมวิธีดูแลรอยสักทับแผลผ่าคลอด

คุณแม่ผ่าคลอดสักทับรอยผ่าคลอดเพื่อกลบรอยแผลเป็นได้ไหม คุณแม่สามารถเริ่มสักทับรอยผ่าคลอดได้ตอนไหน อันตรายกับลูกเมื่อต้องให้นมหรือเปล่า ไปดูกัน

คันแผลผ่าคลอด คุณแม่ทำยังไงดี พร้อมวิธีแก้อาการคันแผลผ่าคลอด

คันแผลผ่าคลอด คุณแม่ทำยังไงดี พร้อมวิธีแก้อาการคันแผลผ่าคลอด

คันแผลผ่าคลอดทำยังไงดี คุณแม่มีอาการคันแผลผ่าคลอดหลังคลอดลูก มีวิธีบรรเทาอาการคันหลังคลอดยังไงบ้าง พร้อมวิธีแก้อาการคันแผลผ่าคลอดที่แม่ควรรู้

ไหมละลายหลังคลอดกี่วันหาย แผลผ่าคลอดไหมละลายตอนไหน

ไหมละลายหลังคลอดกี่วันหาย แผลผ่าคลอดไหมละลายตอนไหน

ไหมละลายหลังคลอดกี่วันหาย ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าแผลผ่าคลอดไหมจะละลาย ข้อดีของไหมละลายมีอะไรบ้าง คุณแม่ผ่าคลอดต้องกลับมาตัดไหมด้วยหรือเปล่า ไปดูกัน

คุณแม่ผ่าคลอดกี่วันขับรถได้ หลังผ่าตัดขับรถได้ไหม อันตรายหรือเปล่า

คุณแม่ผ่าคลอดกี่วันขับรถได้ หลังผ่าตัดขับรถได้ไหม อันตรายหรือเปล่า

คุณแม่ผ่าคลอดกี่วันขับรถได้ หลังผ่าคลอดเริ่มขับรถได้เลยไหม ถ้าเริ่มขับทันทีหลังคลอด จะอันตรายกับคุณแม่ผ่าคลอดแค่ไหน หากคุณแม่ต้องขับรถ ไปดูกัน

ผ่าคลอดเบ่งอุจจาระได้ไหม ท้องผูกหลังผ่าคลอด คุณแม่ทำยังไงดี

ผ่าคลอดเบ่งอุจจาระได้ไหม ท้องผูกหลังผ่าคลอด คุณแม่ทำยังไงดี

คุณแม่ผ่าคลอดเบ่งอุจจาระได้ไหม หลังผ่าคลอดคุณแม่มีอาการท้องผูกหลังผ่าคลอด เกิดจากอะไร ท้องผูกบ่อยอันตรายไหมสำหรับแม่ผ่าคลอดที่มีอาการท้องผูก

คุณแม่ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน

คุณแม่ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน

ผ่าคลอดห้ามยกของหนักกี่เดือน คุณแม่ผ่าคลอดยกของหนักได้ตอนไหน หากคุณแม่ยังไม่หายดีและยกของหนักทันที แบบนี้อันตรายกับคุณแม่ผ่าคลอดหรือเปล่า

ท่านอนหลังผ่าคลอด ท่านอนคนผ่าคลอด คุณแม่นอนแบบไหนถึงดีที่สุด

ท่านอนหลังผ่าคลอด ท่านอนคนผ่าคลอด คุณแม่นอนแบบไหนถึงดีที่สุด

ท่านอนหลังผ่าคลอด คุณแม่ผ่าคลอดควรนอนท่าไหน ท่านอนแบบไหนนอนแล้วไม่เจ็บแผลผ่าคลอดและเหมาะกับแม่ผ่าคลอดที่สุด ไปดูท่านอนหลังผ่าคลอดกัน

เลือกระยะการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็ก