ปลดล็อคขีดจำกัด พัฒนาสมอง ด้วยการเลี้ยงลูกให้เรียนรู้นอกกรอบ!
ถ้าเราลองมองออกไปรอบตัวเราจะสังเกตเห็นได้ว่า เทคโนโลยี รอบตัวของเราว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากจนคาด ไม่ถึง ใครจะไปรู้ว่าเพียงแค่ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กีปี เทคโนโลยีก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่างขาดไม่ได้
ตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงเวลาหลับไหล แล้วในอีกสิบปีข้างหน้าล่ะ โลก ของเราจะเปลี่ยนแปลงไปกว่าเดิมมากแค่ไหน? ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้เลยว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดินอย่างไร บ้าง และ ความเปลี่ยนแปลงนี้ก็มาพร้อมกับคำถามที่ว่า
เราจะเตรียมพร้อมลูกอย่างไร ให้ปรับตัวได้กับโลกอนาคต
เมื่อโลกเปลี่ยนไว ความรู้ใหม่จึงสำคัญ
จากงานวิจัยของ Adecco ที่สำรวจอาชีพในฝันของเด็กเจนอัลฟา (เกิดระหว่างปี 2010 - 2024) Youtuber
เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มาแรง แซงอีกหลายๆ อาชีพที่เคยเป็นอาชีพในฝันของเด็กในยุคก่อน จากงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การเรียนรู้แบบเก่า ขนบ คำสอนเดิมที่เคยมีมา หรือ กรอบเดิม ๆ ที่เคยจำกัดเด็กไว้ อาจใช้ไม่ได้แล้วในยุคอนาคต
อย่าถามลูกว่า โตขึ้นเขาอยากเป็นอะไร ให้ช่วยค้นหาว่าตัวตนของลูกคือใคร
ห้ามเด็กผู้ชายเล่นตุ๊กตา! ห้ามเด็กผู้ชายใส่เสื้อสีชมพู! เด็กผู้หญิงต้องใส่ชุดเจ้าหญิง! ข้อจำกัดเหล่านี้ อาจะไม่ทันโลกแล้ว นอกจากนั้นยังจะทำให้ศักยภาพในตัวเด็กลดลงไปอีกด้วย
เปลี่ยนมุมมอง ก้าวออกไปนอกกรอบ
ที่ผู้ปกครองเคยมีว่า เด็กคนไหน ควรจะต้องทำอะไร มาเป็นการเปิดประตูให้ลูก ได้ลองค้นพบความสนใจและตัวตนที่อาจต่อยอดเป็น ทักษะแห่งโลกอนาคตกันดีกว่า
ยกตัวอย่างเช่น เด็กหญิงคนหนึ่งที่ชอบดูการแข่งศิลปะการต่อสู้ เป็นชีวิตจิตใจ ผู้ใหญ่อาจจะห้าม เพราะกลัวว่าเธอจะกลายเป็นคนก้าวร้าว แต่แท้จริงแล้ว เด็กหญิงคนนี้อยากจะพัฒนาเกมส์ต่อสู้ให้โด่งดังไปทั่วโลก
เด็กชายที่ชอบเล่นตุ้มหูรูปดาวของแม่ซะเหลือเกิน อาจจะกลายเป็นนักบินอวกาศที่ได้ค้นพบดาวดวงใหม่ ในอนาคตก็เป็นไปได้เช่นกัน
เพราะการเรียนรู้นอกกรอบและขนบเดิม ๆ นั้นจะพาพวกเค้า
ให้ไปไกลกว่าที่จินตนาการของเราคิดและเมื่อเด็กได้รับแนวคิดที่พร้อมจะเรียนรู้ รับสิ่งใหม่ โดยไม่ยึดกับกรอบเดิมจะทำให้เค้าสามารถค้นพบสิ่งใหม่ และ ปรับตัวไปตามอนาคตได้อย่างดี
สร้างสมอง เตรียมพร้อมสู่การเรียนรู้นอกกรอบ
การที่เด็กจะสามารถก้าวผ่านกรอบเดิม ๆ ได้นั้นนอกจาก การดูแลของผู้ปกครองแล้ว สิ่งที่จะช่วยเสริมให้ลูกน้อยของคุณแม่ มีพัฒนาการทางสมอง และ ศักยภาพได้ตั้งแต่แรกเกิดก็คือ นมแม่ซึ่งมีสารอาหาร โปรตีน ไขมัน แลคโตส วิตามิน เกลือแร่ สฟิงโกไมอีลิน แกงกลิโอไซด์ และสารอาหารอื่นอีกมากมาย กว่า 200 ชนิด
คุณแม่อาจะเคยได้ยินถึงสารอาหารที่มีชื่อว่า สฟิงโกไมอีลินกันมาบ้างแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ เจ้าสฟิงโกไมอีลินนี้มีส่วนช่วยในการสร้าง ไมอีลิน ที่จะช่วยลูกเรื่องพัฒนาการของสมอง ไมอีลินช่วยให้เด็กเรียนรู้ไว ควบคู่ไปกับการเลี้ยงดูของผู้ปกครองให้ลูกมีความคิดนอกกรอบ ปรับตัวได้กับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตของโลก ที่เปลี่ยนผ่านไป อย่างรวดเร็ว
ความกังวล และ ความห่วงใยในอนาคตของลูกนั้นเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นแม่มักมีอยู่แล้ว สิ่งที่คุณแม่ทำได้ก็คือ เสริมสร้างแนวคิดการเรียนรู้นอกกรอบ ให้ลูกสามารถวิเคราะห์ ค้นหาตัวตน และ ปรับตัวให้ทัน เพียงเท่านี้ลูกของเราก็จะก้าวข้ามกรอบเดิม ๆ และ มุ่งไปข้างหน้าได้อย่างไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะค่ะ
- Adecco Thailand (2021). Children's Dream Career Survey 2020
- Hirabayashi and Furuya, (2008) Roles of l-serine and sphingolipid synthesis in brain development and neuronal survival.
- Susuki, K. (2010) Myelin: A Specialized Membrane for Cell Communication. Nature Education 3(9):59